Mais conteúdo relacionado Start2. สารบัญ
การสือสารผ่านดาวเทียม
่
ระบบการสือสารผ่านดาวเทียม
่
ประเภทของดาวเทียม
เทคโนโลยีไร้สายกับดาวเทียม และอวกาศ
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
4. การสื่อสารโดยผ่านดาวเทียมจะทำาโดยการ
ส่งสัญญาณสือสารจากสถานีภาคพื้นดิน
่
แห่งหนึ่งขึ้นไปยังดาวเทียม เมื่อ
ดาวเทียมรับก็จะส่งกลับมายังสถานีภาคพื้น
ดิน
อีกแห่งหนึ่ง หรือหลายแห่ง
เราจึงใช้ดาวเทียมเพื่อแพร่ภาพสัญญาณ
โทรทัศน์ได้ การรับจะครอบคลุมพื้นที่ที่
ดาวเทียมลอยอยู่ซึ่งจะมีบริเวณกว้างมาก
และทำาได้โดยไม่มีอุปสรรคจากภูเขาบัง
ดาวเทียมจึงเป็นสถานีกลางที่ถ่ายทอด
สัญญาณจากที่หนึงไปยังอีกที่หนึ่งได้
่
5. สื่อสารผ่านดาวเทียมเป็นการสือสารที่มี
่
สถานีรับส่งอยู่ที่พื้นดิน ส่งตรงขึ้นไปยัง
ดาวเทียมแล้วส่งต่อลงมายังตัวรับส่งที่พื้น
ดินอีกครั้งหนึง ดาวเทียมจึงเสมือนเป็น
่
สถานีถ่ายทอดสัญญาณที่ดียิ่ง เพราะลอย
อยู่บนท้องฟ้าในระดับสูงมาก
ดาวเทียมสือสารที่ใช้งานต้องมีลักษณะ
่
พิเศษคือ เป็นดาวเทียมค้างฟ้า ซึ่งผิดจาก
ดาวเทียมจารกรรมทางทหาร ดาวเทียม
สำารวจทรัพยากรที่ประเทศมหาอำานาจส่ง
ขึ้นไป ดาวเทียมเหล่านันจะเคลื่อนที่โคจร
้
6. ดาวเทียมค้างฟ้า เป็นดาวเทียมที่ต้องอยู่
บริเวณเหนือเส้นศูนย์สตรและโคจรรอบ
ู
โลก 1 รอบ ใน 1 วัน พอดีกับเวลาที่โลก
หมุนรอบตัวเอง ระดับความสูงและ
ความเร็วการโคจรต้องเหมาะสม ดาวเทียม
ค้างฟ้าที่ใช้ในการสือสารอยู่ที่ระดับความ
่
สูง 42,184.2 กิโลเมตร
ปัจจุบนประเทศไทยมีดาวเทียมไทยคม
ั
ลอยอยู่เหนือประเทศ ดาวเทียมไทยคมนี้
ใช้ประโยชน์ทางด้านการสือสารของ
่
ประเทศได้มาก
เพราะเป็นการให้บริการสือสารของ
่
ประเทศในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การรับส่ง
7. ประเทศไทยเริ่มใช้ดาวเทียมสือสารครั้ง
่
แรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 การสื่อสารแห่ง
ประเทศไทยตั้งสถานีภาคพื้นดินที่อำาเภอศรีราชา
ชลบุรี โดยเช่าช่องสัญญาณจำานวน 13 ช่อง
สัญญาณ เพื่อติดต่อสือสารระหว่างประเทศ
่
ดาวเทียมที่ใช้ในยุคแรกเป็นของบริษัท ยูอาร์ซี
เอ ซึ่งเป็นดาวเทียมทางทหารของสหรัฐอเมริกา
จานรับสัญญาณดาวเทียมที่สถานีภาค
พื้นดินมีขนาดใหญ่มาก เช่น จานรับสัญญาณดาว
เทียมอิเทลแซด ที่ศรีราชามีขนาดเส้นผ่าน
ศูนย์กลางประมาณ 97 ฟุต สามารถสือสารข้าม
่
มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย
8. ใน พ.ศ. 2522 สถานีโทรทัศน์ใน
ประเทศไทยมีการขยายเครือข่ายทั่ว
ประเทศ ในการนีมีการเช่าช่องสัญญาณจาก
้
ดาวเทียมปาลาปาของอินโดนีเซีย ทำาให้
ระบบการถ่ายสัญญาณโทรทัศน์ของ
ประเทศไทยกระจายไปยังเมืองใหญ่ ๆ ได้
ทั่วประเทศ จานรับสัญญาณดาวเทียมปาลา
ปามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-3 เมตร ซึ่ง
นับว่าเป็นจานขนาดใหญ่พอสมควร การ
ถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
ทำาได้งายเพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินสาย
่
9.
ดาวเทียมไทยคมอยู่ในตำาแหน่งเส้นแวงที่ 101
องศาตะวันออก เหนือเส้นศูนย์สตรบริเวณอ่าวไทย
ู
ค่อนไปทางใต้ ใช้สัญญาณพาหะในย่านความถี่ 4 ,
10 และ 12 จิกะเฮิรทซ์ บริษัทผู้ผลิตดาวเทียมคือ
บริษัทฮิวส์แอโรคราปของประเทศสหรัฐอเมริกา
และส่งขึ้นวงโคจรด้วยจรวดของบริษัทเอเรียนสเปส
ของประเทศฝรั่งเศส
ข้อได้เปรียบของดาวเทียมไทยคมคือ
อยู่ตรงประเทศไทยทำาให้จานรับสัญญาณมีขนาด
เล็กลงเหลือเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 50 เซนติเมตร
ดาวเทียมไทยคมครอบคลุมพืนที่ประเทศไทย และ
้
10. การสื่อสารผ่านดาวเทียมในประเทศไทย
จึงเป็นอีกก้าวหนึงที่ทำาให้ประเทศไทยมี
่
ทางเลือกของการสือสารมากขึ้น การรับรู้
่
ข้อมูลข่าวสารจะทำาได้เร็วขึ้น การส่ง
สัญญาณผ่านดาวเทียมเป็นหนทางหนึ่งที่จะ
ส่งไปยังพื้นที่ใด ๆ ก็ได้ในประเทศ แม้จะอยู่
ในป่าเขาหรือมีสิ่งกีดขวางทางภาคพื้นดิน
ดังนั้น การกระจายข่าวสารใน
อนาคตจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น การใช้ข้อมูล
ข่าวสารจะเจริญเติบโตไปพร้อมกับความ
11. ระบบการสือสารผ่าน
่
ดาวเทียม
ดาวเทียม ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบนมีอยู่ด้วยกัน 2
ั
ชนิด จำาแนกตามแนวโคจร
ที่มันโคจรอยู่ดังนี้
1. ดาวเทียมที่อยู่ในวงโคจรทั่วไป มีวงโคจรเป็นรูปวงรี
มีระนาบไม่แน่นอน
ตำาแหน่งของตัวดาวเทียมเมื่อเทียบกับโลกก็ไม่
แน่นอน มันใช้ในการสำารวจสภาพภูมิอากาศ
ภูมิประเทศ แหล่งทรัพยกรธรณี และงานทางด้านการ
ทหาร
2. ดาวเทียมค้างฟ้า (Geostationary Satellite) เป็น
ดาวเทียมที่อยู่กับที่ เมื่อเทียบกับโลกมีวงโคจรอยู่ใน
12. ประเภทของ
ดาวเทียม
ดาวเทียม คือ วัตถุที่เกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นโดยมันสมองของ
มนุษย์ ซึ่งสามารถจะลอยอยู่ในอวกาศ และโคจรรอบโลกหรือ
ขับเคลื่อนไปยังจุดหมายปลายทางที่ มนุษย์ตองการได้ โดย
้
อาศัยกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ตางๆ ่
ดาวเทียมมีมากมายหลายประเภท สามารถแบ่งประเภทการใช้งาน
ได้ 11 ประเภท ดังนี้
• ดาวเทียมเพื่อการสื่อสารระหว่างจุดต่อจุด
• ดาวเทียมเพื่อการสื่อสารระหว่างดาวเทียม
• ดาวเทียมเพื่อการสื่อสารเคลื่อนที่บนบก ในนำำา และในอากาศ
• ดาวเทียมเพื่อการสื่อสารวิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์
• ดาวเทียมเพื่อการสำารวจโลก สำารวจทรัพยากรธรรมชาติ
• ดาวเทียมเพื่อการสำารวจอวกาศ
• ดาวเทียมเพื่อการพยากรณ์อากาศ
• ดาวเทียมเพื่อการปฏิบัติในห้วงอวกาศ
• ดาวเทียมเพื่อกิจการวิทยุสมัครเล่น
• ดาวเทียมเพื่อการกำาหนดตำาแหน่ง
13. เทคโนโลยีไร้สายกับ
ดาวเทียมร้อยๆดวงนั้นมีการยิง
ดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกนับ
และอวกาศ
สัญญาณข้อมูลต่าง ๆ มาที่พื้นโลก และยิงสัญญาณ
จากพื้นโลกไปยังดาวเทียม โดยมีวัตถุประสงค์ หลาย
อย่าง รวมทั้งการตรวจสอบสภาพอากาศ การส่ง
สัญญาณโทรศัพท์ ทีวี และสัญญาณวิทยุมีการใช้งาน
ในการระบุตำาแหน่งและส่งไปให้ผที่ตองการใช้และอื่น
ู้ ้
ๆ
เรื่องจากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะมีการส่งข้อมูลจาก
นอกโลกหรือในอวกาศ เช่น จากดาวอังคารหรืออาจจะ
ส่งมาจากระบบสุริยะจักรวาล ของเราก็ได้ และในการ
สื่อสารเช่นนี้ได้นั้นก็จำาเป็นต้องใช้เทคโนโลยีไร้สายใน
การทำางานทั้งสิ้น สิ่งที่น่าสนใจและน่าแปลกใจในการ
สื่อสาร ผ่านดาวเทียมก็คือการใช้เครื่องมือสื่อสารพื้น
14. ดาวเทียมหลาย ๆ ชนิดนันเกียวข้องกัน ทำางานร่วมกันในด้าน
้ ่
การสื่อสาร ดาวเทียมชนิดแรกคือ Geostationary ซึ่งโคจร
รอบโลกที่ความสูง จากพื้นโลก 35,784 กิโลเมตร โดยที่
ความสูงขนาดนั้นจะมีรอบของการโคจรอยู่ที่ 24 ชั่วโมง หรือ
พูดอีกอย่างก็คือดาวเทียมโคจรทีความเร็วเท่ากับ ความเร็ว
่
ของโลกที่โคจรครบ 1 รอบนั่นเอง ดังนั้นดาวเทียมจึงอยู่กับที่
เมื่อเทียบกับตำาแหน่งบนพื้นโลก ณ จุด ๆ หนึง เนืองจาก
่ ่
สาเหตุนี้เองจาน ดาวเทียมบนโลกจึงทำาการชี้ตรงไปที่
ดาวเทียม โดยที่ไม่จำาเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายเนืองจาก
่
ตำาแหน่งสัมพันธ์ระหว่างดาวเทียมและจานดาวเทียมนันจะ ้
คงที่เสมอ
ดาวเทียมชนิดที่สองคือดาวเทียม Middle Earth Orbit
(MEO) ซึ่งโคจรอยู่ทความสูงระหว่าง 5,000 ถึง 15,000
ี่
กิโลเมตร เหนือพื้นโลก ดาวเทียม ที่อยู่ในช่วงความสูงระยะนี้
เป็นดาวเทียมสำาหรับการระบุตำาแหน่งบนพื้นโลก( Global
Positioning System หรือ GPS) อย่างที่คณจะได้เห็นในการ
ุ
ทำางานของ GPS ในตัวอย่างต่อไป คือการที่ GPS สามารถที่
จะระบุตำาแหน่งและบอกว่าคุณอยู่ทลองติจูดและละติจูดที่
ี่
เท่าไรบนพื้นโลก ณ ในขณะนั้น และเมื่อนำามารวมกับ
15. ดาวเทียมชนิดที่สาม คือดาวเทียม Low Earth Orbit (LEO) คือ
ดาวเทียมที่โคจรอยู่ทความสูงตั้งแต่ 100 ถึง 1,000 กิโลเมตร
ี่
การสื่อสารผ่านดาวเทียมแรกๆนัน สื่อสารโดยการใช้ดาวเทียม
้
สะท้อนสัญญาณ ( Echo Satellite) ซึ่งเป็นแบบ LEO โดยเริ่มใช้
เมื่อ ค.ศ. 1960 บริษัท Iridium ได้ทำาการปล่อยดาวเทียมชนิด
LEO ถึง 12 ดวงเพื่อใช้สำาหรับบริการให้คนที่ใช้โทรศัพท์สามารถ
ทีจะติดต่อกันได้ทกๆที่บนโลก โดยการยิงสัญญาณและรับ
่ ุ
สัญญาณกับดาวเทียม แต่ด้วยเหตุผลด้านการเงินและด้านเทคนิค
ดาวเทียมเหล่านี้มีการใช้งานน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปี ค.ศ.
1990 และสุดท้ายการดำาเนินธุรกิจก็ล้มละลาย แต่อย่างไรก็ตาม
ธุรกิจก็กลับฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ เนื่องจากมีหลายบริษทอย่างเช่น
ั
Globalstar นั้นมีแผนการทีจะขายบริการด้านโทรศัพท์ผาน
่ ่
ดาวเทียมโดยการใช้ดาวเทียมของบริษัทนี้
ดาวเทียมชนิดอื่น ๆ ทีใช้ระบบการสื่อสารไร้สายถูกใช้สำาหรับด้าน
่
การสำารวจอวกาศ เมื่อคุณมองดูที่รูปภาพทีถ่ายจากดาวอังคาร
่
หรือดาวพฤหัสบดี ภาพเหล่านั้นถูกส่งมาทีโลกโดยใช้เทคโนโลยี
่
ไร้สาย คุณจะได้เห็นจากตัวอย่างภายในบทความนี้ ว่าจริง ๆ แล้ว
อุปกรณ์ส่งสัญญาณทีทำางานในงานด้านนี้นนไม่ได้ใช้ความเข้ม
่ ั้
16. การศึกษาทางไกล
ผ่านดาวเทียม
โครงการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็น
โครงการที่รัฐบาลกำาหนดให้เป็นโครงการตามนโยบาย
รัฐบาลเพื่อสนับสนุนการดำาเนินงานนโยบายเกี่ยวกับ
การขยายโอกาส และพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามข้อ
เสนอของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีการสื่อสารดาวเทียม เพื่อพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาของไทยเนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อม
จากการมีดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรกเป็นของ
ตนเองตามสัมปทาน
ซึงดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของประเทศไทยได้รับ
่
พระมหากรุณาธิคณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว
ุ ั
พระราชทานชือว่า " ดาวเทียมไทยคม " มาจากคำาว่า
่
17. จากความก้าวหน้าของทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่ได้กอ ่
ให้เกิดประโยชน์เฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ
ประเทศนัน เนื่องจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะนำาไปสู่การ
้
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและความรู้ที่กว้างขวาง จะเป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย หากสามารถ
กระจายโอกาสทางการศึกษาไปสู่ประชาชนให้ทวถึง และั่
พัฒนาคุณภาพให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ย่อมก่อให้เกิดการ
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม
กระทรวงศึกษาธิการ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของการ
สื่อสารดาวเทียมที่จะเป็นเทคโนโลยีทางเลือก (Alternative
Technology) ที่จะนำาไปสู่การขยายโอกาสและพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาของประเทศ เนืองจากการแพร่ภาพสัญญาณ
่
โทรทัศน์ภาคพื้นดินที่ใช้กับสถานีวิทยุโทรทัศน์ในปัจจุบันมีข้อ
จำากัดในการใช้ช่วงเวลา จึงได้จัดทำาโครงการจัดการศึกษาทาง
ไกลผ่านดาวเทียมเป็นการเผยแพร่ภาพรายการโทรทัศน์ดวย ้
18. ขยายบริการทางการศึกษาให้กบประชาชนอย่างทัวถึง
ั ่
ซึ่งสอดคล้องกับมติรัฐมนตรี เรื่อง การขยายการศึกษาพื้น
ฐานจาก 6 ปี เป็น 9 ปี โดยเร่งรัดการเรียนต่อในระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้นของกลุ่มเป้าหมายเด็กยากจนในชนบท
และเด็กด้อยโอกาสในกลุ่มอายุ 13 - 15 ปี รวมถึงกลุมเป้า
่
หมายแรงงานความรู้ตำ่า ซึ่งจำาเป็นต้องพัฒนาศักยภาพเพื่อ
ให้สามารถรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
เริ่มก่อตัำง การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
โดยได้เสนอรายละเอียดโครงการจัดการศึกษาทางไกล
ผ่านดาวเทียมให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เมื่อวันที่ 19
มกราคม 2537 และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติ
ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมการศึกษานอกโรงเรียน
ทดลองโครงการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมตาม
รายละเอียดที่เสนอ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 ดังนี้
19. 1.อนุมติการจัดการศึกษาทางไกลผ่าน
ั
ดาวเทียมให้เป็นนโยบาย
ของรัฐบาล
2. อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการโดยกรมการ
ศึกษานอกโรงเรียน
ร่วมงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชนดำาเนิน
โครงการจัดการศึกษา
ทางไกลผ่านดาวเทียมตามแนวและรูป
แบบที่กำาหนด
20. 1. อนุมัติหลักการในการใช้งบประมาณ
แผ่นดิน เพื่อจัดการศึกษาทางไกลผ่าน
ดาวเทียม ในส่วนที่เพิ่มเติมจากเงินช่วย
เหลือที่บริจาคโดยมูลนิธิไทยคมให้กับ
โครงการโดยให้กระทรวง
ศึกษาธิการเป็นผู้จัดทำารายละเอียดตาม
แนวทางการจัดตั้งงบประมาณในแต่ละปี
ของราชการ
4. อนุมัติให้จัดตั้งศูนย์การศึกษาทางไกล
ไทยคมให้เป็นหน่วยงานทางการศึกษา
21. ประโยชน์ที่คาดว่า
จะได้รับ
การทดลองโครงการจัดการศึกษาทางไกล
ผ่านดาวเทียมคาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ ดังนีำ
1. ประชาชนทั้งประเทศที่ประสงค์จะได้รับการศึกษา
จะสามารถเข้า
รับบริการกรศึกษาได้ตามความต้องการ
2. ผู้เรียนทั่วประเทศจะได้รบเนื้อหาสาระของการ
ั
ศึกษาในคุณภาพและมาตรฐาน
ในระดับเดียวกันกับครูอาจารย์ ผูเชียวชาญ
้ ่
โดยตรง
3. ระบบการศึกษาของประเทศ ทั้งการศึกษาใน
ระบบโรงเรียน การศึกษานอก
โรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย ทั้งใน
22. 4. โทรทัศน์เพื่อการศึกษาผ่านดาวเทียม
จะเข้ามามีบทบาท
สำาคัญในการจัดการศึกษาทางไกล
ของประเทศ เพราะทุก
ชุมชนที่ประสงค์จะรับบริการทางการ
ศึกษาก็มีศักยภาพที่
จะจัดหาโทรทัศน์ และเครื่องรับ
สัญญาณดาวเทียม ทั้งกรณีที่
พึงพาตนเองและรัฐบาลจัดหาให้ ซึง
่ ่
อาจคาดได้วาอย่างน้อย
่
ทุกหมู่บ้าน โรงเรียนทุกแห่ง วัดทุก