Enviar pesquisa
Carregar
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
•
5 gostaram
•
13,666 visualizações
Chakkrawut Mueangkhon
Seguir
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Leia menos
Leia mais
Educação
Tecnologia
Negócios
Denunciar
Compartilhar
Denunciar
Compartilhar
1 de 11
Baixar agora
Baixar para ler offline
Recomendados
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
website22556
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
dalarat
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1
สายฝน ต๊ะวันนา
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
kruannchem
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
สุกัญญา นิ่มพันธุ์
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
Wichai Likitponrak
Recomendados
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
ธาตุและสารประกอบ
ธาตุและสารประกอบ
website22556
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
ความร้อนกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
dalarat
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 1
สายฝน ต๊ะวันนา
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
03 คลื่นและสมบัติของคลื่นสเปกตรัมของธาตุ
kruannchem
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
ใบความรู้สนามแม่เหล็ก
สุกัญญา นิ่มพันธุ์
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
11.โครงสรา้งและหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ ตอน2
Wichai Likitponrak
Kingdom plantae
Kingdom plantae
Thanyamon Chat.
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ดีโด้ ดีโด้
Ast.c2560.6tp
Ast.c2560.6tp
มะดาโอะ มะเซ็ง
สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
benjamars nutprasat
การเคลื่อนที่แบบ shm
การเคลื่อนที่แบบ shm
Aey Usanee
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
krupornpana55
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
Wichai Likitponrak
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
o net-2552
o net-2552
Wijitta DevilTeacher
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
Preeyapat Lengrabam
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)
Wan Ngamwongwan
Punmanee study 4
Punmanee study 4
Titi Chaipanha
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
รวมข้อสอบ gat pat 9 วิชา
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
Supaluk Juntap
123
123
Surayos Sopitpong
การจัดหมู่
การจัดหมู่
supamit jandeewong
แรง (Force)
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
thanakit553
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
สุริยะ ไฝชัยภูมิ
Mais conteúdo relacionado
Mais procurados
Kingdom plantae
Kingdom plantae
Thanyamon Chat.
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ดีโด้ ดีโด้
Ast.c2560.6tp
Ast.c2560.6tp
มะดาโอะ มะเซ็ง
สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
benjamars nutprasat
การเคลื่อนที่แบบ shm
การเคลื่อนที่แบบ shm
Aey Usanee
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
krupornpana55
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
Wichai Likitponrak
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
เรียนฟิสิกส์กับครูเอ็ม Miphukham
o net-2552
o net-2552
Wijitta DevilTeacher
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
Preeyapat Lengrabam
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
เซิฟ กิ๊ฟ ติวเตอร์
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)
Wan Ngamwongwan
Punmanee study 4
Punmanee study 4
Titi Chaipanha
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
รวมข้อสอบ gat pat 9 วิชา
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
Supaluk Juntap
123
123
Surayos Sopitpong
การจัดหมู่
การจัดหมู่
supamit jandeewong
แรง (Force)
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
Mais procurados
(20)
Kingdom plantae
Kingdom plantae
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานและการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
ปริมาณกระแสไฟฟ้าในผลไม้
Ast.c2560.6tp
Ast.c2560.6tp
สมบัติของคลื่น
สมบัติของคลื่น
การเคลื่อนที่แบบ shm
การเคลื่อนที่แบบ shm
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
Slโครงสร้างรายวิชาหน่วย is1 การศึกษาและการสร้างองค์ความรู้
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
บทที่5แรงในชีวิตประจำวันม 2
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
แบบฝึกหัดกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความต่างศักย์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ ความต้านทานไฟฟ้า
o net-2552
o net-2552
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
เล่ม 5 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
1.แบบฝึกหัดเวกเตอร์
มิวเทชัน (Mutation)
มิวเทชัน (Mutation)
Punmanee study 4
Punmanee study 4
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
O-net วิทยาศาสตร์ 2557
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
123
123
การจัดหมู่
การจัดหมู่
แรง (Force)
แรง (Force)
Destaque
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
thanakit553
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
สุริยะ ไฝชัยภูมิ
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
Panomporn Chinchana
นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2
Kruanchalee
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
teerachon
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
Chakkrawut Mueangkhon
ของไหล
ของไหล
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
Chakkrawut Mueangkhon
ของไหล
ของไหล
Chakkrawut Mueangkhon
บทนำ
บทนำ
Chakkrawut Mueangkhon
โมเมนตัม
โมเมนตัม
Chakkrawut Mueangkhon
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
Chakkrawut Mueangkhon
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
Chakkrawut Mueangkhon
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
Chakkrawut Mueangkhon
แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์
Chakkrawut Mueangkhon
งานพลังงาน
งานพลังงาน
Chakkrawut Mueangkhon
Destaque
(20)
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่ 18 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นเมือง ม.2
นาฏศิลป์2
นาฏศิลป์2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
แบบทดสอบ ศิลปะ ม.2
อิเล็กทรอนิกส์
อิเล็กทรอนิกส์
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ไฟฟ้าแม่เหล็ก2
ของไหล
ของไหล
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
มวลแรงกฎการเคลื่อนที่
ของไหล
ของไหล
บทนำ
บทนำ
โมเมนตัม
โมเมนตัม
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
สมดุลและสภาพยืดหยุ่น
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
ฟิสิกส์อะตอม
ฟิสิกส์อะตอม
การเคลื่อนที่แบบหมุน
การเคลื่อนที่แบบหมุน
แสงและทัศน์ปกรณ์
แสงและทัศน์ปกรณ์
งานพลังงาน
งานพลังงาน
Semelhante a คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
Chakkrawut Mueangkhon
P16
P16
วิทวัฒน์ สีลาด
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
thanakit553
P19
P19
วิทวัฒน์ สีลาด
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
thanakit553
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Apinya Phuadsing
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
Apinya Phuadsing
P17
P17
วิทวัฒน์ สีลาด
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
thanakit553
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
Somporn Laothongsarn
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
Wijitta DevilTeacher
ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
Wijitta DevilTeacher
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
Apinya Phuadsing
Physics atom part 5
Physics atom part 5
Wijitta DevilTeacher
สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
สุริยะ ไฝชัยภูมิ
งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11
Nang Ka Nangnarak
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Nang Ka Nangnarak
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Nang Ka Nangnarak
Physics atom part 3
Physics atom part 3
Wijitta DevilTeacher
อบรมSme1 มฟล.1
อบรมSme1 มฟล.1
wattumplavittayacom
Semelhante a คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
(20)
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
ไฟฟ้าแม่เหล็ก1
P16
P16
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
เรื่องที่ 16 แม่เหล็กไฟฟ้า 1
P19
P19
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
เรื่องที่ 19 ฟิสิกส์อะตอม
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องที่18คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
เรื่องท่ี16ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
P17
P17
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
บทที่ 17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
เรื่อง ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการ
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ฟิสิกส์ 5 ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
ไฟฟ้าสถิตย์ ตอนที่ 1
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
เรื่องที่17ไฟฟ้าและแม่เหล็ก2
Physics atom part 5
Physics atom part 5
สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
สนามแม่เหล็กไฟฟ้า
งานนำเสนอ11
งานนำเสนอ11
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ดงมะไฟพิทยาคม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
Physics atom part 3
Physics atom part 3
อบรมSme1 มฟล.1
อบรมSme1 มฟล.1
Mais de Chakkrawut Mueangkhon
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
เสียง
เสียง
Chakkrawut Mueangkhon
คลื่นกล
คลื่นกล
Chakkrawut Mueangkhon
กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์
Chakkrawut Mueangkhon
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
Chakkrawut Mueangkhon
Akaranee
Akaranee
Chakkrawut Mueangkhon
568
568
Chakkrawut Mueangkhon
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
Chakkrawut Mueangkhon
ความร้อน
ความร้อน
Chakkrawut Mueangkhon
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
Chakkrawut Mueangkhon
heat
heat
Chakkrawut Mueangkhon
fluid
fluid
Chakkrawut Mueangkhon
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
Chakkrawut Mueangkhon
Mais de Chakkrawut Mueangkhon
(13)
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
เสียง
เสียง
คลื่นกล
คลื่นกล
กฎของคูลอมป์
กฎของคูลอมป์
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
ตัวเก็บประจุและประจุไฟฟ้า
Akaranee
Akaranee
568
568
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ความร้อน
ความร้อน
ไฟฟ้าสถิต
ไฟฟ้าสถิต
heat
heat
fluid
fluid
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
แบบทดสอบเรื่องคลื่น
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
1.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา บทที่ 18 คลื่ น แม เ หล็ ก ไฟฟ า ! ตอนที่ 1 คลืนแมเหล็กไฟฟา!! ! ! ! ! ! ! ! ! ่ ทฤษฎี ของแมกซเวลล กลาววา “สนามแมเหล็กที่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถเหนี่ยวนํา ใหเกิดสนามไฟฟา และสนามไฟฟาที่เปลี่ยนแปลง สามารถทําใหเกิดสนามแมเหล็กได” ตามทฤษฎีของแมกซเวลล เมื่อมีสนามแมเหล็กที่มีการเปลี่ยนแปลง จะเกดการเหนยว ิ ่ี นําระหวางสนามแมเหล็กกับไฟฟาอยางตอเนื่อง สุดทายจะกอเกิดเปนคลื่นแมเหล็กไฟฟา 1. คลื่นแมเหล็กไฟฟาเกิดจาก.................................................................................................... ขอควรทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลื่นแมเหล็กไฟฟา ! 1) สนามไฟฟา สนามแมเหล็ก และทิศการเคลื่อนที่ของคลื่น จะอยูในทิศที่ตั้งฉากกัน ตลอดเวลา จงถอวา คลื่นแมเหล็กไฟฟาเปนคลื่นตามขวาง ึ ื 2) อิเลคตรอนทีสนสะเทือน จะเหนี่ยวนําทําใหเกิดคลื่นแมเหล็กไฟฟารอบแนวการสั่น ่ ่ั ได ตัวอยางเชนอิเลคตรอนในเสนลวดตัวนําที่มีกระแสไฟฟาสลับไหลผาน หรือ อิเลคตรอน ในวัตถุที่มีอุณหภูมิสูง ๆ หรออเิ ลคตรอนทเ่ี ปลยนวงโคจรรอบๆ อะตอม ื ่ี 3) อเิ ลคตรอนทเ่ี คลอนทดวยความเรง จะเหนี่ยวนําใหเกิดคลื่นแมเหล็กไฟฟาไดเชนกัน ่ื ่ี 4) อิเลคตรอนทีสนสะเทือน จะทําใหเกิด ่ ่ั คลื่นแมเหล็กไฟฟารอบแนวการสั่นทุก ทิศทาง ยกเวนแนวที่ตรงกับการสั่นสะ เทอน จะไมมีคลื่นแผออกมา ื 5) คลื่นแมเหล็กไฟฟาทุกชนิด จะเคลอนทดวยความเรวเทากน คือ 3x108 เมตร/วินาที ่ื ่ี ็ ั 6) สนามแมเหล็ก และสนามไฟฟาทกสนามในคลนแมเ หลกไฟฟา ถือวาเกิดพรอมกันหมด ุ ่ื ็ ! "!
2.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา 2. ไฟฟากระแสตรงเหนี่ยวนําใหเกิดสนามแมเหล็กได แตไมเกิดคลื่นแมเหล็กไฟฟา เพราะ....................................................................................................................................... 3. ขอความตอไปนี้ขอใดกลาวถูกตองตามทฤษฎีเกี่ยวกับคลื่นแมเหล็กไฟฟา (ขอ ข.) 1. ขณะประจุเคลือนทีดวยความเรงหรือความหนวง จะแผคลื่นแมเหล็กไฟฟา ่ ่ 2. เมื่อสนามแมเหล็กเปลี่ยนแปลงจะเหนี่ยวนําใหเกิดสนามไฟฟาโดยรอบยกเวนบริเวณ นันเปนฉนวน ้ 3. บริเวณรอบตัวนําที่มีกระแสไฟฟาจะเกิดสนามแมเหล็ก ก. 1 , 2 และ 3 ข. 1 และ 3 ค. 3 เทานน ้ั ง. ตอบเปนอยางอืน ่ ตอบ 4(มช 38) คลื่นแมเหล็กไฟฟาเกิดจาก 1. กระแสไฟฟาที่มีคาคงที่ไหลจากแบตเตอรี่ผานตัวนําไฟฟาวงจรไฟฟา 2. การเคลือนทีของนิวตรอนดวยความเรง ่ ่ 3. วัตถุที่มีอุณหภูมิสูง 4. การเคลื่อนที่ของประจุไฟฟาดวยความเร็วคงที่ (ขอ 3.) ตอบ 5(มช 31) ขอใด ไมใช แหลงกําเนิดของคลื่นแมเหล็กไฟฟา (ขอ ง.) ก. วัตถุมีอุณหภูมิสูง ข. อะตอมปลดปลอยพลังงาน ค. อิเล็กตรอนปลดปลอยพลังงาน ง. อิเล็กตรอนในกระแสไฟฟาตรงปลดปลอยพลังงาน ตอบ 6(En 33) จงพิจารณาขอความตอไปนี้ ก. อเิ ลกตรอนเคลอนทดวยความเรวสง ่ื ่ี ็ ู ข. กลุมอิเลกตรอนเคลือนทีในตัวนํา ่ ่ ค. อเิ ลกตรอนเคลอนทดวยความหนวง ่ื ่ี เหตุการณที่จะทําใหเกิดคลื่นแมเหล็กไฟฟาคือ 1. ก และ ข 2. ข และ ค 3. ข 4. ค (ขอ 4.) ! #!
3.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา 7(มช 32) หากมีประจุเคลื่อนกลับไปมาคูหนึ่งดังรูป ตามทฤษฎีแมกซเวลล ประจุคูนี้จะแผคลื่นแมเหล็ก ไฟฟาออกมา แตมีแนวหนึ่งที่ไมมีคลื่นแผออกมา เลยแนวนนคอ ้ั ื (ขอ ก.) ก. A ข. B ค. C ง. D ตอบ 8(มช 33) สนามแมเหล็กที่มาพรอมกับการเคลื่อนที่ของแสงนั้นจะมีทิศทาง ก. ขนานกับทิศทางของการเคลื่อนที่ของแสง ข. ขนานกับสนามไฟฟา แตเฟสตางกัน 90 องศา ค. ตั้งฉากกับทั้งสนามไฟฟาและทิศทางการเคลื่อนที่ของแสง ง. ตั้งฉากกับสนามไฟฟา แตขนานกับทิศทางการ เคลอนทของแสง ่ื ่ี (ขอ ค.) ตอบ 9(มช 33) จงพิจารณาขอความตอไปนี้ ขอใดไมถูกตอง ก. การเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟาทําใหเกิดสนามแมเหล็ก และ การเปลี่ยนแปลงสนาม แมเหล็กทําใหเกิดสนามไฟฟา ข. สนามไฟฟาและสนามแมเหล็กของคลื่นแมเหล็กไฟฟามีเฟสตางกัน 90o ค. สําหรับคลื่นแมเหล็กไฟฟา สนามไฟฟา และ สนามแมเหล็กมีทิศตั้งฉากซึ่งกัน และกัน และตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่นดวย ง. ในตัวกลางเดียวกัน คลื่นแมเหล็กไฟฟาทุกความถี่มี ความเรวเทากันหมด ็ (ขอ ข.) ตอบ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ! $!
4.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา ! ตอนที่ 2 สเปกตรัมคลืนแมเหล็กไฟฟา! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ่ แหลงกําเนิดคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่ใหญที่สุดในจักรวาลนี้ คือ ดวงอาทิตย คลื่นแมเหล็กไฟฟาที่ออกมาจากดวงอาทิตย จะแบงแยกได 8 ชนด ดงตารางตอไปน้ี ิ ั การเรียง การเรียงลําดับ การเรียงลําดับ สเปกตรัม ลําดับความถี่ ความยาวคลื่น พลังงาน รังสีแกมมา มาก นอย มาก รังสีเอกซ รังสีอลตราไวโอเลต ั แสงขาว รังสีอนฟาเรด ิ คลนไมโครเวฟ ่ื คลื่นวิทยุ ไฟฟากระแสสลับ นอย มาก นอย อยาลืม คลื่นแมเหล็กไฟฟาทุกสเปกตรัม จะมความเรวเทากันหมด คือ 3x108 m/s ี ็ 10(มช 32) คลื่นแมเหล็กไฟฟาทุกชนิดขณะเคลื่อนที่ในสูญญากาศจะมีสิ่งหนึ่งเทากันเสมอ คือ ก. ความยาวคลื่น ข. แอมปลิจูด ค. ความถี่ ง. ความเร็ว (ขอ ง.) ตอบ ! 11(En 42/1) คลนวทยไมโครเวฟ และแสงเลเซอร มีความถี่ อยูในชวง 104 −109 เฮิรตซ ่ื ิ ุ 108 − 1012 เฮิรตซ และ 1014 เฮิรตซ ตามลําดับ ถาสงคลื่นเหลานี้จากโลกไปยัง ดาวเทยมดวงหนง ขอตอไปนี้ขอใดถูกตองมากที่สุด ี ่ึ 1. คลื่นวิทยุจะใชเวลาในการเคลื่อนที่ไปถึงดาวเทียมนอยที่สุด 2. แสงเลเซอรจะใชเวลาในการเคลื่อนที่ไปถึงดาวเทียมนอยที่สุด 3. คลื่นทั้งสามใชเวลาเดินทางไปถึงดาวเทียมเทากัน 4. หาคําตอบไมไดเพราะไมไดกําหนดคาความยาว คลื่นของคลื่นเหลานี้ (ขอ 3.) ตอบ ! %!
5.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา 12(มช 33) การแผรังสีคลื่นแมเหล็กไฟฟาตอไปนี้ขอใดมีความยาวคลื่นสั้นที่สุด ก. รังสีแกมมา ข. แสงทตามองเหน ่ี ็ ค. ไมโครเวฟ ง. รังสีอลตราไวโอเลต ั (ขอ ก.) ตอบ 13. คลื่นแมเหล็กไฟฟาตอไปนี้คลื่นชนิดใดมีพลังงานมากที่สุด ก. ไมโครเวฟ ข. อินฟราเรด ค. แสง ง. รังสีเอ็กซ (ขอ ง.) ตอบ พลังงานของคลื่นแมเหล็กไฟฟา เราสามารถหาคาพลังงานของคลื่นแมเหล็กไฟฟาไดจากสมการ E = hf และ E = hC λ เมือ ่ E = พลังงานของคลื่นแมเหล็กไฟฟา (จล) ู h = คานิจของพลังค = 6.62 x 10–34 J.s f = ความถี่ (s–1) λ = ความยาวคลื่น (m) C = ความเร็วคลื่นแมเหล็กไฟฟา = 3 x 108 m/s หรือ E = hef และ E = hC eλ เมือ ่ E = พลังงานของคลื่นแมเหล็กไฟฟา หนวยเปน อเิ ลคตรอนโวลต (eV) e = 1.6 x 10–19 หมายเหตุ 1eV = 1.6 x 10–19 จูล 14. คลื่นแมเหล็กไฟฟาชนิดหนึ่ง มีความถี่ 1x1014 Hz คลื่นนี้จะมีพลังงานกี่จูล (6.62x10–20) วิธทา ี ํ 15. จงหาพลังงานของคลื่นแมเหล็กไฟฟาซึ่งมีความยาวคลื่น 600 nm ในหนวยจล (3.31x10–19) ู วิธทา ี ํ ! &!
6.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา 16. คลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีพลังงาน 1.324 x 10–20 จล จะมีความถี่เทาใด ู (2x1013 Hz) วิธทา ี ํ 17(มช 36) จงหาความถี่ในหนวยเฮิรตซของแสงที่โฟตอนมีพลังงานเทากับ 1.5 ev (3.63x1014) วิธทา ี ํ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! คลื่ น วิ ท ยุ คลื่ น โทรทั ศ น คลื่นวิทยุมีความถี่อยูในชวง 106–109 เฮิรตช คลื่นวิทยุมี 2 ระบบ ไดแก 1. คลื่นวิทยุระบบ AM มีความถี่ตั้งแต 530–1600 กโลเฮรตซ ที่สถานีวิทยุสงออกอากาศ ิ ิ ในระบบเอเอ็ม เปนการสื่อสารโดยการผสม (modulate) คลื่นเสียงเขากับคลื่นวิทยุ ซึ่งเรียกวา คลื่นพาหนะ และสัญญาณเสียงจะบังคับใหแอมพลิจูดของคลื่นพาหนะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อคลื่นวิทยุที่ผสมสัญญาณเสียงกระจายออกจากสายอากาศไปยังเครื่องรับวิทยุเครื่องรับ วิทยุจะทําหนาที่แยกสัญญาณเสียงซึ่งอยูในรูปของสัญญาณไฟฟาออกจากสัญญาณคลื่นวิทยุ แลวขยายใหมีแอมพลิจูดสูงขึ้น เพื่อสงใหลําโพงแปลงสัญญาณออกมาเปนเสียงที่หูรับฟงได 2. คลื่นวิทยุระบบ FM เปนการผสมสัญญาณเสียงเขากับคลื่นพาหะโดยใหความถี่ของ คลื่นพาหะเปลี่ยนแปลงสัญญาณเสียง ! '!
7.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา การสงคลื่นในระบบ FM ใชชวงความถี่จาก 88–108 เมกะเฮิรตซ ระบบการสงคลื่น แบบเอเอ็มและเอฟเอ็มตางกันที่วิธีการผสมคลื่น ดังนันเครืองรับวิทยุระบบเอเอ็มกับเอฟเอ็มจึง ้ ่ ไมสามารถรับคลื่นวิทยุของอีกระบบหนึ่งได ในการสงกระจายเสียงดวยคลื่นวิทยุระบบเอเอ็ม คลื่นสามารถเดินทางถึงเครื่องรับวิทยุได สองทาง คือเคลื่อนที่ไปตรงๆในระดับสายตา ซึ่งเรียกวา คลื่นดิน สวนคลื่นที่สะทอนกลับลงมา จากชนไอโอโนสเฟยร ซึ่งเรียกวาคลื่นฟา สวนคลื่นวิทยุระบบเอฟเอ็ม ซึ่งมีความถี่สูงจะมีการ ้ั สะทอนทชนไอโอโนสเฟยรนอย ดังนั้นถาตองการสงกระจายเสียงดวยระบบเอฟเอ็มใหครอบ ่ี ้ั คลุมพื้นที่ไกลๆ จึงตองมีสถานีถายทอดเปนระยะๆ และผูรับตองตั้งสายอากาศใหสูง ในขณะที่ คลื่นวิทยุเคลื่อนที่ผานสิ่งกีดขวางที่มีขนาดใกลเคียงความยาวคลื่นจะมีการเลี้ยวเบนเกิดขึ้น ทํา ใหคลื่นวิทยุออมผานไปได แตถาสิ่งกีดขวางมีขนาดใหญมากเชน ภูเขา คลื่นวิทยุที่มีความยาว คลื่นสั้นจะไมสะทอนออนผานภูเขาไปได ทาใหดานตรงขามของภเู ขาเปนจดปลอดคลน ํ ุ ่ื โลหะมีสมบัติสามารถสะทอนและดูดกลืนคลื่นแมเหล็กไฟฟาไดดี ดังนั้นคลื่นวิทยุจะ ทะลุผานเขาไปถึงภายในโลหะไดยาก อาจจะสังเกตไดงายเมื่อฟงวิทยุในรถยนต เมือรถยนต่ ผานใตสะพานที่มีโครงสรางเปนเหล็ก เสียงวิทยุจะเบาลง หรือเงียบหายไป ในการสงกระจายเสียง สถานีสงคลื่นวิทยุหนึ่งๆ จะใชคลื่นวิทยุที่มีความถี่คลื่นโดยเฉพาะ เพราะถาใชคลื่นที่มีความถี่เดียวกัน จะเขาไปในเครืองรับพรอมกัน เสียงจะรบกวนกัน แตถา ่ สถานีสงวิทยุอยูหางกันมากๆ จนคลื่นวิทยุของสถานีทั้งสองไมสามารถรบกวนกันได สถานีทั้ง สองอาจใชความถี่เดียวกันได คลื่นโทรทัศนมีความถี่ประมาณ 108 เฮิรตซ คลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถี่สูงขนาดนี้จะ ไมสะทอนทชนไอโอโนสเฟยร แตจะทะลุผานชั้นบรรยากาศไปนอกโลก ดังนั้นการสงคลื่น ่ี ้ั โทรทัศนไปไกลๆ จะตองใชสถานีถายทอดคลื่นเปนระยะๆ เพื่อรับคลื่นโทรทัศนจากสถานีสง ซึงมาในแนวเสนตรง แลวขยายใหสัญญาณแรงขึ้นกอนที่จะสงไปยังสถานีที่อยูถัดไป เพราะ ่ สัญญาณเดินทางเปนเสนตรง ดังนั้นสัญญาณจะไปไดไกลสุดเพียงประมาณ 80 กิโลเมตร บนผว ิ โลกเทานั้น ทงนเ้ี พราะผวโลกโคง หรือาจใชคลื่นไมโครเวฟนําสัญญาณจากสถานีสงไปยังดาว ้ั ิ เทยมซงโคจรอยในวงโคจรทตาแหนงหยดนงเมอเทยบกบตาแหนงหนง ๆบนผิวโลก นนคอ ี ่ึ ู ่ี ํ ุ ่ิ ่ื ี ั ํ ่ึ ่ั ื ดาวเทยมมความเรวเชงมมเดยวกบความเรวในการหมนรอบตวเองของโลกจากนนดาวเทยมกจะ ี ี ็ ิ ุ ี ั ็ ุ ั ้ั ี ็ สงคลื่นตอไปยังสถานีรับที่อยูไกลๆได ! (!
8.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา คลื่นไมโครเวฟ คลื่นไมโครเวฟมีความถี่ตั้งแต 1x109 เฮิรตซ ถึง 3x1011 เฮิรตซ ปจจุบันเราใชคลื่น ไมโครเวฟที่มีความถี่ 2400 เมกะเฮิรตซ ในการทําอาหาร เปดปดประตโรงรถ ถายภาพพื้นผิว ู ดาวเคราะห ศึกษากําเนิดของจักรวาล เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟสะทอนจากผิวโลหะไดดี ดังนัน ้ จึงมีการนําสมบัตินี้ไปใชประโยชน ในการตรวจหาตาแหนงของอากาศยาน ตรวจจบอตราเรว ํ ั ั ็ ของรถยนต ซึ่งอุปกรณดังกลาวเรียกวา เรดาร รงสอนฟราเรด ั ีิ เปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถี่ในชวง 1011–1014 เฮิรตซ สามารถแบงเปน 3 ชวง 1. อินฟราเรดใกล (0.7–1.5 ไมโครเมตร) 2. อินฟราเรดปานกลาง (1.5–4.0 ไมโครเมตร) 3. อินฟราเรดไกล (4.0–1000 ไมโครเมตร) วตถรอนจะแผรงสอนฟราเรดทมความยาวคลนสนกวา 100 ไมโครเมตร ประสาทสัมผัสทาง ั ุ ั ีิ ่ี ี ่ื ้ั ผิวหนังของมนุษยรับรังสีอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่นบางชวงได ฟลมถายรูปบางชนิดสามารถ ตรวจจับรังสีอนฟราเรดได ตามปกตแลวสงมชวตทกชนดจะแผรงสอนฟราเรดตลอดเวลา และ ิ ิ ่ิ ี ี ิ ุ ิ ั ีิ รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผานเมฆหมอกที่หนาทึบเกินกวาที่แสงธรรมดาจะผานได นักเทค โนโลยีจึงอาศัยสมบัตินี้ในการถายภาพพื้นโลกจากดาวเทียม เพื่อศึกษาการแปรสภาพของปาไม หรอการอพยพเคลอนทยายของฝงสตวเ ปนตน รงสอนฟราเรดมใชในระบบควบคมทเ่ี รยกวา ื ่ื ่ี ู ั ั ีิ ี ุ ี รโทคอนโทรล (remote control) หรือการควบคุมระยะไกล ซึ่งเปนระบบควบคุมการทํางานของ ี เครองรบโทรทศนจากระยะไกล เชนทําการปดเปดเครือง การเปลี่ยนชอง ฯลฯ ในกรณีนี้รังสี ่ื ั ั ่ อินฟราเรดจะเปนตัวนําคําสังจากอุปกรณควบคุมไปยังเครืองรับ นอกจากนี้ในทางการทหารก็มี ่ ่ การนํารังสีอินฟราเรดมาใชควบคุมอาวุธนําวิถีใหเคลื่อนไปยังเปาหมายไดอยางแมนยํา เทคโนโลยีปจจุบันใชการสงสัญญาณดวยเสนใยนําแสง (optical fiber) และคลื่นที่เปน พาหะนาสญญาณคอ รงสอนฟราเรด เพราะการใชแสงธรรมดานาสญญาณอาจถูกรบกวนโดย ํ ั ื ั ีิ ํ ั แสงภายนอกไดงาย! ! ! ! ! ! )!
9.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา แสง! แสงมีความถี่โดยประมาณตั้งแต 4x1014 เฮิรตซ ถึง 8x1014 เฮิรตซ ประสาทตาของมนุษย ไวตอคลื่นแมเหล็กไฟฟาชวงนี้มาก วัตถุที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ เชน ไสหลอดไฟฟาที่มีอุณหภูมิ สูงประมาณ 2500 องศาเซลเซียส หรือผิวดวงอาทิตยทมอณหภูมประมาณ 6000 องศาเซลเซียส ่ี ี ุ ิ จะเปลงแสงได สําหรับแสงที่มีความยาวคลื่นประมาณ 700 นาโนเมตร ประสาทตาจะรบรเู ปน ั แสงสีแดง สวนแสงที่มีความยาวคลื่นนอยกวาประสาทตาจะรับรูเปนแสงสีสม เหลือง เขียว น้าเงิน ตามลําดับ จนถึงแสงสีมวง ซึ่งมีความยาวคลื่นประมาณ 400 นาโนเมตร แสงสีตางๆ ที่ ํ กลาวมานี้เมื่อรวมกันดวยปริมาณที่เหมาะสม จะเปนแสงสีขาว แสงเปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาเชนเดียวกับคลื่นวิทยุ ดังนั้นอาจใชแสงเปนคลื่นพาหนะนํา ขาวสารในการสื่อสารไดเชนเดียวกับการใชคลื่นวิทยุและคลื่นโทรทัศนเปนพาหะนําเสียงและ ภาพดังกลาวแลว เหตุที่ไมสามารถใชแสงที่เกิดจากวัตถุรอนเปนคลื่นพาหะเพราะวาแสงเหลานี้ มีหลายความถี่และเฟสที่ไมแนนอน ปจจบนเรามเี ครองกาเนดเลเซอร ซึ่งเปนแหลงกําเนิดแสง ุ ั ่ื ํ ิ อาพันธที่ใหแสงได ไดมีผูทดลองผสมสัญญาณเสียงและภาพกับเลเซอรไดสําเร็จ นอกจากใชสื่อ สารแลว เลเซอรยังใชในวงการตางๆไดอยางกวางขวาง เชน วงการแพทย ใชในการผาตัดนัยน ตาเปนตน เลเซอรเขียนภาษาอังกฤษวา LASER ซึ่งยอมาจาก Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation ที่แปลเปนภาษาไทยไดวา “การขยายสัญญาณแสงโดยการปลอยรังสี แบบเรงเรา” เพราะแสงเลเซอรเปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่ไดจากกระบสนการปลอยรังสีแบบเรง เรา และสญญาณแสงถูกขยาย ั รงสอลตราไวโอเลต ั ีั ! เปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถี่อยูในชวง 1015 ถึง 1018 เฮิรตซ รังสีอลตราไวโอเลต ั ทมในธรรมชาติ สวนใหญมาจากดวงอาทิตย และรังสีนี้ทําใหบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟยรมี ่ี ี ประจอสระ และไอออน เพราะรังสีอลตราไวโอเลต มีพลังงานสูงพอที่จะทําใหอิเล็กตรอนหลุด ุิ ั จากโมเลกุลของอากาศพบวา ในไอโอโนสเฟยรมีโมเลกุลหลายชนิด เชน โอโซน ซึ่งสามารถ กนรงสอลตราไวโอเลตไดดี ตามปกติรังสีอัลตราไวโอเลตไมสามารถทะลุผานสิ่งกีดขวางที่หนา ้ั ั ี ั ได รงสนสามารถฆาเชอโรคบางชนดได ในวงการแพทยจึงใชรังสีอัลตราไวโอเลตในปริมาณ ั ี ้ี ้ื ิ พอเหมาะรกษาโรคผวหนงบางชนด แตถารังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตยสงลงมาถึงพื้น ั ิ ั ิ ! *!
10.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา โลกในประเทศใดมากเกินไปประชากรจํานวนมากในประเทศนั้นอาจเปนมะเร็งผิวหนังได เพราะไดรับรังสีนี้ในปริมาณมากเกินควร รังสีเอกซ เปนคลื่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถี่อยูในชวง 1017–1021 เฮิรตซ รังสีเอกซ สามารถทะลุ ผานสิ่งกีดขวางหนาๆ ได ดังนันวงการอุตสาหกรรม จงใชรงสเี อกซตรวจหารอยราวภายในชน ้ ึ ั ็ ้ิ สวนโลหะขนาดใหญ เจาหนาทีดานตรวจก็ใชรงสีเอ็กซตรวจหาอาวุธปนหรือวัตถุระเบิดใน ่ ั กระเปาเดนทางโดยไมตองเปดกระเปา โดยอาศัยหลักการวา รังสีเอกซจะถูกขวางกั้นโดย ิ อะตอมของธาตุหนักไดดีกวาธาตุเบา แพทยจึงใชวิธีฉายรังสีเอกซผานรางกายคน ไปตกบน ฟลมเพื่อตรวจดูลักษณะผิดปกติของอวัยวะภายในและกระดูก เมื่อฉายรังสีเอกซที่มีความยาวคลื่นประมาณ 10 นาโนเมตร ซึ่งเปนความยาวคลื่นที่ใกลเคียง กนกบขนาดของอะตอม และระยะหางระหวางอะตอมของผลึกผานผลึกของโลหะที่จัดเรียงตัว ั ั กันอยางมีระเบียบ จะเกิดปรากฏการณเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ เชนเดยวกบเมอแสงผานเกรตตง ี ั ่ื ิ ทําใหสามารถคํานวณหาระยะหางระหวางอะตอมและลักษณะการจัดเรียงตัวของอะตอม จึงทํา ใหทราบโครงสรางของผลึกแตละชนิดได รังสีแกมมา รังสีแกมมาเปนคลี่นแมเหล็กไฟฟาที่มีความถี่สูงกวารังสีเอกซ แตเ ดมรงสแกมมาเปนชอ ิ ั ี ่ื เรียกคลื่นแมเหล็กไฟฟาความถี่สูงที่เกิดจากการสลายของนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี แตใน ปจจุบันคลื่นแมเหล็กไฟฟาใด ๆที่มีความถี่สูงกวารังสีเอกซ โดยทั่วไปจะเรียก รังสีแกมมา ทั้ง นัน ปฏิกิริยานิวเคลียรบางปฏิกิริยาปลดปลอยรังสีแกมมา การระเบิดของลูกระเบิดนิวเคลียรก็ ้ ใหรังสีแกมมาปริมาณมาก การมีความถี่สูงทําใหรังสีนี้เปนอันตรายตอสิ่งมีชีวิตทุกชนิด นอก จากนี้ยังมีรังสีแกมมาที่ไมไดเกิดจากการสลายของธาตุกัมมันตรังสี เชน รังสีแกมมาที่มาจาก อวกาศและรังสีคอสมิกนอกโลก อนภาคประจไฟฟาทถกเรงในเครองเรงอนภาคกสามารถให ุ ุ ่ี ู ่ื ุ ็ กําเนิดรังสีแกมมาไดเชนกัน ! ! "+!
11.
Math Online VI
http://www.pec9.com บทที่ 18 คลื่นแมเหล็กไฟฟา ! ตอนที่ 3 โพลาไรเซชันของคลืนแมเหล็กไฟฟา! ่ ปกติแลวคลื่นแมเหล็กไฟฟาของแสงทั่วไป จะมีระนาบการเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟา (E ) ประกอบกันอยูหลายระนาบ ถาเราสามารถทําใหระนาบของสนามไฟฟา( E) ในคลื่นแมเหล็ก ไฟฟา เหลือเพียงระนาบเดียวได คลื่นแมเหล็กไฟฟานั้นจะเรียกเปน คลื่นโพลาไรส สําหรับแสงที่ไมโพลาไรส เราสามารถทําใหโพลาไรสได ซึ่งอาจทําไดหลายวิธีเชน 1. ฉายแสงผานแผนโพลารอยด แผนโพลารอยดเปนแผนพลาสติกที่มีโมเลกุลของพอลิไวนิลแอลกอฮอล (polyvinyl alcohol) ฝงอยูในเนื้อพลาสติก และแผนพลาสติกถูกยึดใหโมเลกุลยาวเรียงตัวในแนวขนานกับ เมือแสงผานแผนโพลารอยด สนามไฟฟาที่มีทิศตั้งฉากกับแนวการเรียงตัวของโมเลกุลจะผาน ่ แผนโพลารอยดออกไปได สวนสนามไฟฟาที่มีทิศขนานกับแนวการเรียงตัวของโมเลกุลจะถูก โมเลกุลดูดกลืน ตอไปจะเรยกแนวทตงฉากกบแนวการเรยงตวของโมเลกลนวา ทิศของโพลา ี ่ี ้ั ั ี ั ุ ้ี ไรส 2. ใชการสะทอนแสง เมื่อใหแสงไมโพลาไรสตกกระทบผิววัตถุ เชน แกว น้า หรือ ํ กระเบือง หากใชมุมตกกระทบที่เหมาะสม แสงที่สะทอนออกมาจะเปนแสงโพลาไรส ้ มุมที่ทําใหแสงสะทอนเปนแสงโพลาไรส สามารถหาคาไดจากสมการ tanθB = n ( สมการนีเ้ รียกวา กฏของบรูสเตอร ) เมือ n คือ คาดัชนีหักเหของสสารที่แสงตกกระทบ ่ 18. แสงไมโพลาไรสตกกระทบผิววัตถุ โดยทํามุมตกกระทบเทากับ 48 องศา พบวาแสง สะทอนจากผิววัตถุเปนแสงโพลาไรส ดรรชนหกเหของวตถนเ้ี ปนเทาใด ี ั ั ุ วธทา ิี ํ 19. นิลในอากาศ จงคานวณหามมบรสเตอรของนล ถามุมวิกฤตของนิลเทากับ 34.4 องศา ํ ุ ู ิ วธทา ิี ํ 3. โพลาไรเซชันโดยการกระเจิงของแสง เมื่อแสงอาทิตยผานเขามาในบรรยากาศของโลก แสงจะกระทบโมเลกุลของอากาศหรือ อนภาคในบรรยากาศ อิเล็กตรอนในโมเลกุลจะดูดกลืนแสงที่ตกกระทบนั้น และจะปลดปลอย ุ แสงนั้นออกมาอีกครั้งหนึ่งในทุกทิศทาง ปรากฏการณนี้เรียกวา การกระเจิงของแสง แสงที่ กระเจิงออกมาจะเนแสงโพลาไรส !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ! ! ""!
Baixar agora