Mais conteúdo relacionado Semelhante a Fact sheet TSPA & Members (20) Mais de Suganya Chatkaewmorakot (20) Fact sheet TSPA & Members2. โครงการความร่วมมือขยายซอฟต์แวร์พาร์คสู่ภูมิภาค
(Thailand Software Park Alliances: TSPA)
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันในหลายประเทศได้มีการจัดตั้งซอฟต์แวร์พาร์คขึ้นเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของ
ประเทศ โดยกําหนดให้ซอฟต์แวร์พาร์คมีบทบาทในการเป็นประตูสู่ตลาดผู้ใช้ทั้งในและต่างประเทศ เป็นช่อง
ทางการเข้าถึงผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ เป็นศูนย์กลางของข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และสร้างความ
เชื่อมั่นให้กับผู้ใช้และคู่ค้าจากทั้งในและนอกประเทศ ในหลายประเทศมีการจัดตั้งซอฟต์แวร์พาร์คมากกว่า 1
แห่ง เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ของประเทศให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
สําหรับประเทศไทย Software Park Thailand ได้ตระหนักถึงภารกิจดังกล่าว และได้ดําเนินงาน
ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศอย่างต่อเนื่องในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนา
เทคโนโลยี การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรม การส่งเสริมการตลาด และการส่งเสริมให้เกิดการนําไอทีไปใช้
ในอุตสาหกรรมอื่นๆ
นอกจากนี้ ภารกิจที่สําคัญอีกอย่างของ Software Park Thailand คือ การเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง
Software Park อื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในแต่ละภูมิภาคของประเทศ ซึ่งจัดตั้งและดําเนินการส่งเสริม สนับสนุนธุรกิจ
ซอฟต์แวร์อยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Software Park ในประเทศไทยแต่ละแห่งมีจุดแข็งที่ต่างกันออกไปและอยู่
ภายใต้การบริหารจัดการของหน่วยงานที่ต่างกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งสิ้น 4 พาร์ค ได้แก่ เขต
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขตอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์ภูเก็ต และศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาและอุตสาหกรรม องค์การ
บริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (Korat Software Park)
ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์พาร์คทั้ง 4 แห่งเล็งเห็นว่า การที่จะทําให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของไทยเข็มแข็งเพื่อ
แข่งขันกับนานาประเทศได้นั้น จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรวมตัวกัน เพื่อร่วมกันสร้างและแบ่งปันความรู้
ความสามารถของตนในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ในแต่ละพาร์คให้เข้มแข็ง มีความ
ทัดเทียมกัน สร้างความเป็นปึกแผ่นในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ให้ประสานและสอดคล้องกันอย่างแน่นแฟ้น
ไปในทิศทางเดียวกัน ให้เกิดความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้อุตสากรรมซอฟต์แวร์ไทย
สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
3. วัตถุประสงค์ความร่วมมือ
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่าง TSPA เพื่อให้เกิดผลในภาพรวมต่อ
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ
2. ขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ทั้งในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาค
3. ขยายผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ของ SWP ออกสู่ Park ในภูมิภาค
สมาชิกเครือข่าย TSPA
เครือข่าย Thailand Software Park Alliances (TSPA) เกิดจากความร่วมมือตั้งต้นระหว่างเขต
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ 4 แห่งในประเทศไทย ดังต่อไปนี้
สมาชิก TSPA ลักษะ หน่วยงานต้นสังกัด ปีที่ก่อตั้ง
หน่วยงาน (พ.ศ.)
1. เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย ภาครัฐ สํานักงานพัฒนา 2540
Software Park Thailand วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.)
2. ศูนย์ประสานงานเขตอุสาหกรรม ภาคการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2546
ซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
E-Saan Software Park
3. เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต ภาคเอกชน บริษัท บลูลากูน ภูเก็ต 2551
Software Park Phuket จํากัด
4. ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ ภาครัฐ องค์การบริหารส่วน 2552
สื่อสารเพื่อการศึกษาและอุตสาหกรรม จังหวัดนครราชสีมา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
Korat Software Park
4. ข้อมูลเพิ่มเติม
เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย
(Software Park Thailand)
ก่อตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2540 โดยเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลของ
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เพื่อทําหน้าที่สนับสนุน และเสริมสร้างความ
แข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยในทุกทาง ทั้งด้านบุคลากร การตลาด การลงทุน รวมถึงเทคโนโลยี
อันทันสมัยในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจทุกกลุ่มภายในประเทศ ทั้งภาคอุตสาหกรรม
ภาคการเกษตร และภาคการบริการ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะส่งผล
ให้ตลาดซอฟต์แวร์ภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันได้สร้างความมั่นใจให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์จาก
ต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย
วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรสนับสนุนผู้ประกอบการและสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยให้เทียบเท่าระดับโลก ทํา
ให้ซอฟต์แวร์เป็นส่วนสําคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย”
เขตอุ ต สาหกรรมซอฟต์ แ วร์ ป ระเทศไทยให้ ก ารสนั บ สนุ น และเสริ ม สร้ า งความแข็ ง แกร่ ง ให้ กั บ
ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย ทั้งยังช่วยผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีพันธ
กิจหลัก 5 ด้าน ดังนี้
o สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรไอที
o สนับสนุน และส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพของ
บริษัทซอฟต์แวร์ไทยสู่มาตรฐานสากล
o สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยในการ
ขยายช่องทางการตลาดทั้งใน และต่างประเทศ
o ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อ
สร้างผลิตภัณฑ์ หรือปรับปรุงบริการของหน่วยงาน
o ให้เช่าพื้นที่สํานักงาน ห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุม ห้องฝึกอบรม และสัมมนา
5. ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(E-Saan Software Park)
เป็นองค์กรในกํากับของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2546 โดยความร่วมมือ
และการสนับสนุนจาก 6 องค์กร ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น
สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น หอการค้าสวีเดน-ไทย และชมรมธุรกิจคอมพิวเตอร์จังหวัดขอนแก่น โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการเพิ่ม
ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ในรูปแบบของนครไอซีที (ICT City) และเพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการ
การศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการ และการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของมหาวิทยาลัย
ตามนโยบาย และยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ให้ เป็ นไปอย่า งมีป ระสิทธิภ าพตามเป้ าประสงค์ของ
มหาวิทยาลัยและของรัฐ ให้ศูนย์เป็นหน่วยงานในกํากับของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการดําเนินงานในลักษณะ
พึ่งตนเอง มีการบริหารจัดการที่เป็นอิสระจากระบบราชการ ซึ่งดําเนินการตามหลักการและเป้าประสงค์ที่
ได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น
6. เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต
(Software Park Phuket)
ซอฟต์แวร์พาร์คภูเก็ตเป็นพาร์คแรกที่ก่อตั้งโดย
โดยภาคเอกชน ในปี พ.ศ. 2551 ภายใต้การสนับสนุนของ
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งประเทศไทย
อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ และบริษัท บลูลากูนภูเก็ต จํากัด ในการดําเนินการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็น
Value Creation ให้กับภูเก็ตในการที่จะเสริมการท่องเ ่ยว และเป็นที่ที่ ICT Knowledge Worker มุ่งเข้ามา
งเที
เพื่อประกอบการ โดยมี 3 ภาระกิจหลักคือ
ภาระกิจที่ 1 การให้บริการพื้นที่สําหรับผู้ประกอบการด้าน ICT ทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับ
ความร่วมมือจาก CAT Telecom ในการติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่าน
Fiber Optic รองรับผู้มาใช้บริการ
ภาระกิจที่ 2 ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ หรือ Business Incubator Center ในชื่อ "ศูนย์สร้างสรรค์
นวัตกรรมภูเก็ต" โดยให้บริการบ่มเพาะผู้ประกอบการใหม่ทางด้าน ICT เพื่อสร้าง
โอกาสทางธุรกิจ นวัตกรรมและการจ้างงาน
ภาระกิจที่ 3 หน่วยวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรมและการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม หรือ
Research and Development Lab เพื่อส่งเสริมและต่อยอดงานวิจัยให้พัฒนาสู่
เชิงพาณิชย์
7. ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาและอุตสาหกรรม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
(Korat Software Park)
ก่อตั้งภายใต้การกํากับขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาในปี 2552 เพื่อป็นศูนย์รวมในการ
พัฒนาและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมหลักของจังหวัด
นครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง และเพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในจังหวัดและพื้นที่ในภาค
อีสานเป็นไปอย่างครบวงจร จึงได้ริเริ่มจัดทําโครงการจัดตั้ง “สถาบันเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารเขาใหญ่ (Kaoyai ICT Academy : KICTA)” ขึ้น ภายในพื้นที่ประมาณ 160 ไร่ ซึ่ง
อยู่ในเขตติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อให้เป็นสถาบันทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)
สาหรับลูกหลานชาวโคราช และพื้นที่ใกล้เคียง ที่มุ่งเน้นในการใช้ ICT เพื่อการสนับสนุน (Supporting
Industry) อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
กับการท่องเที่ยว เป็นต้น โดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดเมือง ICT
(Green City) ภายในโครงการดังกล่าวประกอบไปด้วย ๓ ส่วนหลักๆ ดังนี้
1) ส่วนการศึกษาและพัฒนาอุตสาหกรรมด้าน ICT (Education Zone) (ใช้พื้นที่ประมาณ 50% ของ
โครงการฯ) เป็นสถาบันการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในระดับอุดมศึกษาทางด้าน ICT แห่งแรก
ของประเทศไทย เพื่อรองรับความต้องการทางด้าน ICT ของภาคอุตสาหกรรมหลักในจังหวัดนครราชสีมา โดย
การเชื่อมโยงการศึกษาต่อยอดจากโรงเรียนมัธยมในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และสา
นักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อมุ่งเน้นให้นักเรียนและนักศึกษามีความเชี่ยวชาญทางด้าน ICT สามารถ
ประกอบอาชีพได้ทันที ตลอดจนการฝึกอบรมอาชีพทางด้าน ICT ต่อยอดจากนักศึกษาที่จบมาจาก
มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยในจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 1,500 คน / ปี
2) พื้นที่ประกอบอุตสาหกรรมทางด้าน ICT (Business Zone) (ใช้พื้นที่ประมาณ 30% ของโครงการฯ)
เป็นการส่งเสริมการลงทุนสาหรับผู้ประกอบการทั้งภายใน และภายนอกจังหวัดนครราชสีมา ตลอดจนนัก
ลงทุนจากต่างประเทศ ที่ต้องการประกอบกิจการทางด้าน ICT สาหรับเป็นตลาดแรงงานทางด้าน ICT ให้กับ
ลูกหลานชาวโคราช โดยผู้ประกอบการที่เข้ามาประกอบกิจการดังกล่าวนั้น จะต้องว่าจ้างลูกหลานชาวโคราชที่
ผ่านการพัฒนาอาชีพจากสถาบันฯ ให้เข้าทางานในหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการฯ
3) สาธารณูปการ และที่พักอาศัย (Facilities & Residential Zone) (ใช้พื้นที่ประมาณ 20% ของ
โครงการฯ) เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนที่พักอาศัยภายใน
โครงการฯ ที่จาเป็นสาหรับการศึกษา การประกอบการ และการอยู่อาศัย ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่นสอดคล้อง
กับภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพ การผ่อนคลายในการศึกษา และการทางาน
ตลอดจนเอื้อต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์