Mais conteúdo relacionado Semelhante a New Media Ecosystem & Role of Data Journalism (20) Mais de Sarinee Achavanuntakul (20) New Media Ecosystem & Role of Data Journalism1. ื่
ระบบนิเวศใหม่ของสอ และบทบาท
ิ
ของวารสารศาสตร์เชงข ้อมูล
สฤณี อาชวานันทกุล
Fringer | คนชายขอบ
http://www.fringer.org/
ั
สมมนา Eisenhower Fellowships Alumni (Thailand), 8 ม.ค. 2557
ิ
งานนีเผยแพร่ภายใต ้ลิขสทธิ์ Creative Commons แบบ Attribution Non-commercial
้
Share Alike (by-nc-sa) โดยผู ้สร ้างอนุญาตให ้ทาซ้า แจกจ่าย แสดง และสร ้างงาน
่
่
ดัดแปลงจากสวนใดสวนหนึงของงานนีได ้โดยเสรี แต่เฉพาะในกรณีทให ้เครดิตผู ้สร ้าง ไม่
่
้
ี่
้
ิ ์
นาไปใชในทางการค ้า และเผยแพร่งานดัดแปลงภายใต ้ลิขสทธิเดียวกันนีเท่านัน
้
้
2. ื่
“ระบบนิเวศใหม่” ของสอ
- ชุมชนออนไลน์พดคุย
ู
และ “ขยาย” เรืองราวทีสอ
่
่ ื่
กระแสหลักสร ้าง
ื่
- ชุมชนเหล่านียงผลิตสอ
้ ั
่
แบบมีสวนร่วม รายงานข่าว
จากฐานราก แลกเปลียน
่
ความเห็น และตรวจสอบ
ข ้อเท็จจริง
ื่
- สอกระแสหลักสามารถใช ้
เนือหาของชุมชนเหล่านี้
้
เป็ นประโยชน์ ในฐานะ
แหล่งข่าว ไอเดียทาข่าว
และ cross-check ข ้อมูล
3. ื่
การหลอมรวมสอ (media convergence)
• “โทรทัศน์” กับ “คอมพิวเตอร์” (เริมไปถึง
่
สมาร์ทโฟน) จะไม่มความแตกต่างอีกต่อไป
ี
ื่
• หลอมรวมทัง “สอ” และ “อุปกรณ์” – ท่องเน็ ต
้
บนทีวได ้ ดูทวบนคอมพิวเตอร์ได ้
ี
ี ี
ื่
• ในเมือธรรมชาติของเน็ ต (new media) กับสอ
่
ดังเดิม (old media) แตกต่างกัน การหลอมรวม
้
ื่
สอจึงหลอมรวมตังแต่กระบวนการผลิตเนือหา
้
้
ถึงกระบวนการเสพ
5. New Media vs. Old Media
• การเข ้าถึง (access)
• ความคุ ้มค่า (cost effectiveness)
• อายุ (lifespan)
• ความรู ้ (knowledge)
• มีผู ้สร ้างเนือหาไม่หยุดนิง (active
้
่
content producers) | ผู ้เสพ=ผู ้สร ้าง
• การโต ้ตอบกัน (interactive)
10. ื่
ความท ้าทายในระบบนิเวศใหม่ของสอ
่
• การปกป้ องข ้อมูลสวนบุคคล
• ทักษะใหม่ๆ ทีจาเป็ น
่
• ความเร็ว vs. ความลึก vs. ความ “แท ้”
(authenticity)
• การกาหนดวาระข่าว / self-selection bias
ิ
• ลิขสทธิ์ & การให ้เครดิต
• พืนทีสวนตัว vs. พืนทีสาธารณะ
้ ่ ่
้ ่
• แหล่งรายได ้
11. ื่
ี
บทบาทสอ “มืออาชพ” ในระบบนิเวศใหม่
1. ต ้อง “ทาหน ้าที” ให ้ดีกว่าเดิม (นาเสนอ
่
ข ้อมูลข่าวสารทีเป็ นประโยชน์ตอประชาชน
่
่
เข ้าถึงและเข ้าใจง่าย)
ิ
2. ต ้อง “อยูรอด” เชงธุรกิจ (เผยแพร่เนือหาได ้
่
้
อย่างกว ้างขวาง และสามารถสร ้างรายได ้)
ประเด็นทีท ้าทาย คือ จะทา 1 และ 2 พร ้อมกัน
่
ได ้อย่างไร?
12. ี
่
ื่
โซเชยลมีเดียชวยงานสอได ้ แต่มข ้อจากัด
ี
ื
1. สบค ้น จัดระเบียบ จัดการข ้อมูลไม่ได ้
(Facebook, Twitter, Instagram ฯลฯ
“ขาย” ข ้อมูลเราให ้สปอนเซอร์ และไม่ได ้ถูก
ออกแบบมาเป็ นฐานข ้อมูลสาธารณะ)
ี่
2. ความเสยงทีจะ “ฟั งความข ้างเดียว” แต่ฝั่งที่
่
ตัวเองชอบ (echo chamber effect)
ี่
3. ความเสยงทีจะกระจายข ้อมูลเท็จ ปลอมแปลง
่
บิดเบือน พูดความจริงครึงเดียว ฯลฯ
่
13. บางอย่างทีสอ+ภาคประชาชน ควรร่วมกันทา
่ ื่
ิ
1. วารสารศาสตร์เชงข ้อมูล (data journalism)
สองแบบ
•
่
ให ้ประชาชนมีสวนร่วมสร ้างเนือหา วิเคราะห์
้
และตีความ
•
ื่
สอทาเอง
2. ผลักดันมาตรฐาน “ข ้อมูลเปิ ด” (Open Data)
3. ผลักดันมาตรฐาน “รัฐเปิ ด” (Open
Government)
15. ิ
ประโยชน์ของวารสารศาสตร์เชงข ้อมูล
้
่
• สามารถเขียนและใชโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชวย
สะสมรวบรวมและวิเคราะห์ข ้อมูลมหาศาล
• ทาให ้ข่าวมี “หางยาว” (long tail) กว่าปกติ
ั ้
• เปลียนรูปแบบการนาเสนอประเด็นซบซอนทีม ี
่
่
ข ้อมูลมหาศาล โดยเฉพาะตัวเลข ให ้เป็ น
Infographic เข ้าใจง่าย
่
• ปล่อยข ้อมูล = เปิ ดเวทีให ้ผู ้อ่านชวยวิเคราะห์
• สร ้างความแตกต่างจากคูแข่ง
่
ื่
• สร ้างแหล่งรายได ้ใหม่ให ้กับสอ
17. วิธทางาน ผลลัพธ์ และผลกระทบ
ี
้
• ปี 2012 Message Machine เริมต ้นจากผู ้ใชทวิตเตอร์บางคน
่
ั
ี
สงสยว่า ทาไมอีเมลหาเสยงทีตนได ้รับจากแคมเปญของโอบา
่
่ ุ
มาถึงได ้มีเนือหาทีแตกต่างกัน ไม่ใชทกคนได ้รับอีเมลเดียวกัน
้
่
่
่
• ทีมข่าว ProPublica ประกาศให ้ผู ้อ่านชวยสงอีเมลแบบนีให ้
้
สุดท ้ายได ้อีเมลกว่า 30,000 ฉบับจากคนอ่าน
• โค ้ดโมเดลคอมพิวเตอร์ เทคนิค Decision Tree (AI) มาวิเคราะห์
• พบว่าประเด็นทีแตกต่างทีสดคือ จานวนเงินทีขอบริจาคขึนอยูกบ
่
่ ุ
่
้
่ ั
ว่าผู ้รับอีเมลเคยบริจาคเงินให ้พรรคเท่าไร ถ ้าเคยบริจาคจะขอ
$500 ถ ้าไม่เคยจะขอ $3 ตังต ้น
้
• แสดงผลการวิเคราะห์และอีเมลทุกฉบับบนเว็บ ทาให ้คนมองเห็น
่
บางสวนของ “กลยุทธ์การกาหนดกลุมเป้ าหมาย”
่
ี
(microtargeting) ในแคมเปญหาเสยงของพรรคการเมือง
18. ี ี ์ ่
ซรสขาว “Do No Harm” โดย Las Vegas Sun
19. วิธทางาน ผลลัพธ์ และผลกระทบ
ี
• ปี 2010 Las Vegas Sun วิเคราะห์ข ้อมูลบิลโรงพยาบาลในกรุง
ิ้
้
ลาสเวกัสกว่า 2.9 ล ้านชน จากการใชกฏหมายข ้อมูลข่าวสาร
ราชการขอข ้อมูลมา
่
ื้
• ผลการวิเคราะห์ค ้นพบกรณีทป้องกันได ้ เชน การติดเชอ การรับตัว
ี่
ผู ้ป่ วยมาใหม่ (readmit) และข ้อผิดพลาดในการผ่าตัด รวมกัน
3,600 กรณี ในจานวนนีม ี 300 กรณีทผู ้ป่ วยตายจากความ
้
ี่
ผิดพลาดทีป้องกันได ้
่
ี ี ์ ี้ ี ั ้
้
• ข่าวในซรสนมทงข ้อเขียน แผนที่ เสนเวลา (timeline) แสดงให ้
ื้ ่
เห็นการติดเชอทีกระจายไปทีละโรงพยาบาล และกราฟฟิ กเล่นได ้
(interactive graphics) ให ้คนอ่านเรียงข ้อมูลตามประเภทที่
ื่
ต ้องการ (ชอโรงพยาบาล ประเภทของอาการทีป้องกันได ้ ฯลฯ)
่
ี ี ์ ี ิ
• หลังจากซรสตพมพ์ สภามลรัฐเนวาดาออกกฏหมาย 5 ฉบับ เพิม
่
ความโปร่งใสในโรงพยาบาล ปี 2011
21. วิธทางาน ผลลัพธ์ และผลกระทบ
ี
• ตังแต่ปี 2010 Texas Tribune จัดทาฐานข ้อมูลเงินเดือน
้
ั
ข ้าราชการในมลรัฐเท็กซสและอัพโหลดขึนเว็บให ้คนเข ้าไปค ้น
้
ฟรี ปั จจุบนมีข ้อมูลของข ้าราชการกว่า 660,000 คน
ั
ื่
ื่
ื่
• สามารถค ้นตามชอคน ชอตาแหน่ง ชอหน่วยงาน และจานวน
เงินเดือนได ้
• ข ้าราชการบางคนติดต่อขอให ้ลบข ้อมูลออก บางคนมองว่าความ
่
เป็ นสวนตัวถูกละเมิด หลังจากพบว่าเงินเดือนตัวเองเป็ นลิงก์แรก
ื่
ทีกเกิลแสดงผล เวลาไปค ้นชอตัวเองในกูเกิล บรรณาธิการ
่ ู
ื
หนังสอพิมพ์โพสอธิบายยืนยันเหตุผล
• หน ้าโครงการ data journalism ทานองนี้ (ปั จจุบนมีกว่า 50
ั
โครงการ) รวมกันดึงดูดคนอ่านมากกว่าหน ้าข่าวอืนๆ ของ Texas
่
Tribune ทังหมด
้
22. ตัวอย่างหัวข ้อทีน่าทา data journalism ในไทย
่
• ติดตามร่างกฏหมายทีเข ้าสภา
่
ี
– ร่างกฎหมายเป็ นประโยชน์กบคนกลุมไหน ใครเสยประโยชน์
ั
่
– แสดงความคืบหน ้าของกฏหมาย
– สส. สว. คนไหนยกมือผ่าน ไม่ผาน
่
้
ั
• การใชจ่ายเงินประชาสมพันธ์ของรัฐ
• ป้ ายโฆษณาทีมหน ้านักการเมือง
่ ี
– ขนาด ตาแหน่ง ประเภท (ผลงาน พีอาร์ ฯลฯ) และจานวน
ื้
• การจัดซอจัดจ ้างในโครงการของรัฐ
– ราคาทีรัฐจ่าย เปรียบเทียบกับราคาตลาด
่
24. “ข ้อมูลเปิ ด” : Open Data
้ ้
“ข ้อมูลเปิ ด (open data) คือข ้อมูลทีทกคนสามารถนาไปใช ้ ใชซา
่ ุ
และเผยแพร่ได ้ฟรี ภายใต ้เงือนไขอย่างมากคือ ให ้เครดิตทีมา และ
่
่
ให ้เผยแพร่แบบเดียวกันเท่านัน” - http://opendefinition.org/
้
ลักษณะของ open data:
่
• เข ้าถึงง่าย : เชน เผยแพร่ผานเน็ต ทาซ้าได ้โดยมีต ้นทุนตามาก
่
่
หรือไม่มเลย อยูในรูปแบบทีใชสะดวกและดัดแปลงได ้
ี
่
่ ้
้
้
• ใชซ้าและเผยแพร่ได ้ : เผยแพร่โดยอนุญาตให ้คนอืนนาไปใชฟรี
่
เผยแพร่ฟรี และนาไปผสมรวมกับชุดข ้อมูลอืนได ้
่
่
ิ
้
• ทุกคนมีสวนร่วมได ้ : ทุกคนมีสทธินาไปใช ้ ใชซ้า และเผยแพร่ ไม่
่
้
ึ
เลือกปฏิบตใดๆ เชน ไม่มเงือนไขว่าจะต ้องใชในการศกษาเท่านัน
ั ิ
ี ่
้
้ ่
ห ้ามนาไปใชเพือการค ้า ฯลฯ
27. Open Government คืออะไร?
รัฐบาลทีประกาศเป็ น “รัฐบาลเปิ ด” (Open Government) จะ
่
ทุมเทในสามเรืองใหญ่ๆ
่
่
1. ความโปร่งใส (Transparency)
• องค์กรสาธารณะ (หน่วยงานราชการและองค์กรอิสระ) จะ “โปร่งใสเป็ นค่า
้
ตังต ้น” (ไม่ต ้องรอให ้ใครใชกฏหมายข ้อมูลข่าวสารขอข ้อมูล)
้
ั
• เปิ ดเผยข ้อมูลต่างๆ เกียวกับกระบวนการทังหลายอย่างชดเจนและสมาเสมอ
่
้
่
้
้
• ใชรูปแบบ (format) ข ้อมูลทีเป็ นข ้อมูลเปิ ด ได ้มาตรฐาน และใชซ้าได ้
่
2.
่
การมีสวนร่วม (Participation)
• รับฟั งความคิดเห็นจากประชาชนสาหรับกิจกรรมทังหมด
้
• ทางานร่วมกับประชานชนในหน ้าทีสาคัญๆ
3.
การเพิมพลัง (Empowerment)
่
• เปิ ดข ้อมูลและบริการต่างๆ ในทางทีคนอืนนาไปต่อยอดได ้ ให ้ทรัพยากรกับ
่
่
พลเมืองในการแก ้ปั ญหา
ิ
่
่
• เคารพในสทธิความเป็ นสวนตัว ประชาชนเป็ นเจ ้าของข ้อมูลสวนบุคคลของ
ิ
้
ตัวเอง มีสทธิตรวจสอบและควบคุมว่าจะให ้รัฐใชข ้อมูลนั นๆ ด ้วยวิธใดบ ้าง
้
ี
32. “You never change things by fighting the
existing reality.
To change something, build a new model
that makes the existing model obsolete.”
--R. Buckminster Fuller