25. 25
ภาพประกอบ 1 พฤติกรรมองค์ การ : กรอบองค์ การประกอบ (บริบท)
การศึกษา OB เป็ นการศึกษาในลักษณะสหวิชา (Interdisciplinary) มีความเกี่ยวพันทางทฤษฎี การ
วิจย วิธีวจยจากจิตวิทยา (Psychology) สังคมวิทยา (Sociology) มานุษยวิทยา (Anthropology) ศาสตร์ทาง
ั ิั
การเมือง (Politic logy) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และเวชกรรมหรื อแพทย์ศาสตร์ (Medicine)
เนื่องจากความสลับซับซ้อน และพื้นฐานหลายมิติของปั ญหาองค์การ ทาให้การศึกษาเป็ นรายกรณี
หรื อกรณี ศึกษา (Contingency approach) มีความจาเป็ น เพราะสถานการณ์ เหตุการณ์ ปั ญหา ต่างกรรมต่าง
วาระ ต่างบริ บทย่อมต้องการวิธีแก้ปัญหา ต้องการคาตอบต่างกัน บางครั้งผูนาอ าจใช้สไตล์รองแทนสไตล์
้
หลักตามความเหมาะสม ถึงอย่างไรก็ตาม “พฤติกรรมองค์การ ” หรื อ “Organizational behavior” มีกรอบ
แนวคิด ซึ่ งถือว่าเป็ นเครื่ องมือนาไปสู่ การปฏิบติโดยอาศัยกรอบ แนวคิด ในการรวบรวมข้อมูล
ั (Gather
information) ช่วยในการตัดสิ นใจ (Make judgments) และตัดสิ นใจในวิธีการที่จะทางานให้ประสบ
ผลสาเร็ จ (Determine how best to get things done… Frames are also tools for action, and every tool has its
strengths and limitations)
26. 26
การที่จะเป็ นนักบริ หาร หรื อผูจดการที่มีประสิ ทธิ ภาพอย่างแท้จริ งนั้น ต้องใช้เครื่ องมือ
้ั อย่าง
หลากหลาย (Need multiple tools) มีทกษะในการใช้เครื่ องมือแต่ล่ะประเภท และมีสติปัญญา มีความฉลาด
ั
ในการใช้กรอบแนวคิดให้เหมาะกับสถานการณ์ (The truly effective manager and administrator will need
multiple tools, the skill to use each of them, and the wisdom to match frames to situations)
กรอบ 4 ด้านที่ทาให้เกิดความเข้าใจพฤติกรรมองค์การ และมีความสาคัญต่อทุกองค์การได้แก่
1. กรอบแนวคิดด้านโครงสร้าง (The structural frame) ได้แก่บทบาทอย่างเป็ นทางการ (formal
roles)ปฏิสัมพันธ์(relationships) และความรับผิดชอบ (responsibility)
2. กรอบแนวคิดด้านทรัพยากรบุคคล (The human resource frame) ได้แก่ ความต้องการ
ความรู ้สึก และอคติส่วนบุคคล (Individual’s needs feelings and prejudices) และการสร้าง
สมรรถนะให้บุคคลสามารถทางานได้สาเร็ จ ด้วยความภาคภูมิใจ