1. ๑.เด็กชาย พงศ์ ศิริ มินทะนา เลขที่ ๖
๒.เด็กหญิง อังคณา เป็ งอินทร์ เลขที่ ๒๕
๓.เด็กหญิง เกวลิน อินต๊ ะนาม เลขที่ ๒๗
๔.เด็กหญิง ศุทธินี ต่ างใจ เลขที่ ๓๔
๕.เด็กหญิง ปานทิพย์ จินะป๊ อก เลขที่ ๓๙

3. ประโยคบอกให้ ทราบ คือ ประโยคที่ผพดต้องการบอกเล่าหรื ออธิ บายเรื่ องราว
ู้ ู
ต่างๆ
ตัวอย่างเช่น
แม่ชอบทาแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา
พ่อไม่ชอบรับประทานอาหารที่ปรุ งจากเนื้อวัว
เมื่อช่างปั้นหม้อเสร็ จก็นาไปแกะสลักลวดลาย และนาไปอบในเตาเผา
ตาของข้าพเจ้ามีอาชีพทาไร่ ทานา
ใครๆ ก็ชอบอาหารฝี มือคุณยาย

4. ประโยคเสนอแนะ คือ ประโยคที่ผพดต้องการเสนอแนะเรื่ องต่างๆ อาจมี
ู้ ู
คาว่า ลอง ดู ควร นะ ซิ เป็ นต้น ตัวอย่างเช่น
เธอควรทาการบ้านด้วยตัวเองนะ
มาดูตรงนี้ซิ วิวดูสวยดีนะ
ไปนังตรงนั้นซิ เก้าอี้ดูนุ่มมาก
่
เธอควรตื่นนอนเช้าๆนะ

5. ประโยคคาสั่ ง คือ ประโยคที่ผพดต้องการให้ผฟังปฏิบติตาม มักมีคาว่า จง
ู้ ู ู้ ั
ต้อง นาหน้า มีคาว่า ซิ นะ ลงท้าย
ตัวอย่าง
จงนังเร็ วๆหน่อย
่
เธอพูดดีๆนะ
จงทาตามที่ฉนสังั ่
จงตอบคาถามต่อไปนี้
นังตรงนี้ซิ
่

6. ประโยคห้ าม คือ ประโยคที่ผพดสังห้ามไม่ให้กระทา มักมีคาว่า
ู้ ู ่
อย่า ห้าม หรื อลงท้ายว่า นะ
ตัวอย่างเช่น
อย่าเดินลัดสนาม
ห้ามทิ้งขยะลงชักโครก
ห้ามจับปลาฤดูวางไข่
ห้ามลืมลบกระดาน

7. ข้อที่ ๑ ข้อที่ ๖
ข้อที่ ๒ ข้อที่ ๗
ข้อที่ ๓ ข้อที่ ๘
ข้อที่ ๔ ข้อที่ ๙
ข้อที่ ๕ ข้อที่ ๑๐

8. ข้ อที่ ๑ ประโยคที่ผพดต้องการบอกเล่าหรื ออธิบายเรื่ องราวต่างๆ คือ
ู้ ู
ประโยคในข้อใด
ก. ประโยคเสนอแนะ
ข. ประโยคคาสัง
่
ค. ประโยคบอกให้ทราบ
ง. ประโยคขู่

9. ข้ อที่ ๒ “เธอควรเรี ยนรู ้ดวยตนเองก่อนขอความช่วยเหลือจากคนอื่นนะ”
้
คือประโยคอะไร
ก. ประโยคขู่
ข. ประโยคชักชวน
ค. ประโยคคาสัง
่
ง. ประโยคเสนอแนะ

10. ข้ อที่ ๓ ข้อใดเป็ นประโยคบอกให้ทราบ
ก. ไปนังตรงนั้นสิ
่
ข. แม่ชอบทาแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา
ค. นังลงซิ
่
ง. เธอไปดูหนังกับฉันนะ

11. ข้ อที่ ๔ ข้อใดคือ ความหมายของประโยคห้าม
ก. ประโยคที่ผพดต้องการให้ผฟังปฏิบติตาม
ู้ ู ู้ ั
ข. ประโยคที่ผพดมีเจตนาชักจูงให้ผฟังทาตาม
ู้ ู ู้
ค. ประโยคที่ผพดสังไม่ให้กระทา
ู้ ู ่
ง. ประโยคที่ตองการให้ผฟังคล้อยตาม
้ ู้

12. ข้ อที่ ๕ ความหมายของประโยคเสนอแนะในข้อใดถูกที่สุด
ก. ประโยคที่ผพดต้องการยกตัวอย่าง
ู้ ู
ข. ประโยคที่ผพดต้องการแนะนาผูฟัง
ู้ ู ้
ค. ประโยคที่ผฟังต้องการเสนอแนะ
ู้
ง. ประโยคที่ผพดต้องการเสนอแนะเรื่ องต่างๆ
ู้ ู

13. ข้ อที่ ๖ ประโยคที่ผพดต้องการให้ผฟังปฏิบติตามคือประโยคในข้อใด
ู้ ู ู้ ั
ก. ประโยคชักชวน
ข. ประโยคขู่
ค. ประโยคคาสัง
่
ง. ประโยคห้าม

14. ข้ อที่ ๗ ในประโยคคาสังมักจะมีคาว่า อะไร นาหน้าและลงท้าย
่
ก. ซิ, นะ นาหน้า ต้อง, จง ลงท้าย
ข. ต้อง, จง นาหน้า ซิ, นะ ลงท้าย
ค. ลอง, ดู นาหน้า จง, ต้อง ลงท้าย
ง. นะ, ซิ นาหน้า ควร, ดู ลงท้าย

15. ข้ อที่ ๘ ประโยคในข้อใด ไม่ใช่ ประโยคบอกให้ทราบ
ก. น้องเพลงคงกลับถึงบ้านแล้ว
ข. พ่อไม่ชอบรับประทานอาหารที่ปรุ งจากเนื้อไก่
่
ค. ตอนนี้คุณแม่อยูที่ไหนก็ไม่รู้
ง. ใครๆ ก็ชอบรับประทานอาหารฝี มือคุณยาย

16. ข้ อที่ ๙ ประโยคในข้อใดคือประโยคห้าม
ก. จงเลือกทาในสิ่ งที่ถูกต้องที่สุด
ข. หากงานไม่เสร็ จไม่ตองกลับบ้าน
้
ค. อย่าขับรถเร็ วนะ
่ ้
ง. พ่อกับแม่ไม่ชอบอยูบาน

17. ข้ อที่ ๑๐ ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. ประโยคคาสัง คือ ประโยคที่ผพดสังห้ามไม่ให้กระทา
่ ู้ ู ่
ข. ประโยคเสนอแนะ คือ ประโยคที่ผพดต้องการแนะนาเรื่ องต่างๆ
ู้ ู
ค. ประโยคบอกให้ทราบ คือ ประโยคที่ผพดต้องการบอกเล่าหรื ออธิบาย
ู้ ู
เรื่ องราวต่างๆ
ง. ประโยคห้าม คือ ประโยคที่ผพดต้องการให้ผฟังปฏิบติตาม
ู้ ู ู้ ั

20. อ้ างอิง
-http://www.school.net.th/
-http://guru.google.co.th
-หนังสือภาษาไทย หลักภาษาและการใช้ ภาษา ชันมัธยมศึกษาปี ที่ 2
้