2. หลักการใช้ Past Simple Tense
• 1. ใช้แสดงถึงการกระทำาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึนในอดีตและสิ้นสุดลงแล้ว โดย
้
จะระบุเวลาไว้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น
- Mark arrived at 7 o'clock yesterday.
- Joe bought a new car last week.
- The train stopped five minutes ago.
- They studied French last term.
• 2. ใช้แสดงถึงการกระทำาที่เป็นนิสัยหรือเกิดขึนเป็นประจำาในอดีต แต่ไม่ได้เกิด
้
ขึนแล้วในปัจจุบัน มักมี adverbs of frequency ที่แสดงความบ่อยรวมอยู่ใน
้
ประโยคเช่น always, usually, often, every........เป็นต้น และต้องมีคำาบอก
เวลาในอดีตแสดงไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น
- It often rained last week.
- He always played tennis last year.
- Jim drank coffee every two hours last night.
- They swam every evening last year.
• 3. ใน Past Simple Tense สามารถใช้ used to +คำากริยาช่องที่ 1 (เคย) แสดง
ถึงการกระทำาที่กระทำาอยู่ หรือที่เป็นอยู่เป็นประจำาในอดีต ตัวอย่างเช่น
- Sam used to travel to Japan on business.
- She used to work here.
- They used to live in Chiang Mai.
3. หลักการเปลียนคำากริยาให้เป็น Past
Tense
การเปลี่ยนรูปคำากริยาเป็น past tense มี 2 วิธี คือ
1, การเติม ed ที่ท้ายคำากริยาช่องที่ 1 (Regular Verb)
2. คำากริยาที่เปลี่ยนรูปใหม่ ( Irregular Verb)
หลักการเติมเติม ed ที่ท้ายคำากริยามีดังนี้
1.คำากริยาโดยทั่วไปเมื่อเปลี่ยนเป็นคำากริยาช่องที่ 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น
clean - cleaned
help - helped
watch – watched
2. คำากริยาที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ได้ทันทีเช่น
like - liked
bake - baked
live – lived
3. คำากริยาที่เป็นพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดตัว
ท้ายอีกหนึ่งตัวก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น
stop - stopped
fit - fitted
plan - planned
4. 4. คำากริยาที่มี 2 พยางค์ ออกเสียงเน้นหนักพยางค์หลังให้เพิ่มตัว
สะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัวก่อน แล้วจึงเติม ed
prefer - preferred
control – controlled
5. คำากริยาที่ลงท้ายด้วย yและหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลียน y
่
เป็น i แล้วจึงเติม ed เช่น
study - studied
cry - cried
carry - carried
แต่ถ้าหน้า y เป็นสระให้เติม ed ได้เลย เช่น
play played
stay - stayed
5. การทำาเป็นประโยคคำาถาม
1. ให้สังเกตว่าในประโยคมีกริยาช่วยหรือไม่ ถ้ามีให้นำา
กริยาช่วยมาวางไว้หน้าประโยคและใส่ เครื่องหมาย ?
(question mark)ดังนี้
- He was in the bathroom five minutes ago.
Was he in the bathroom five minutes ago?
Yes, he was./No,he wasn't.
2. ถ้าในประโยคนั้นไม่มีกริยาช่วย ให้ใช้ did มาช่วย (
ประธานทุกตัวใช้ did) โดยนำา did มาวางไว้หน้า
ประโยค ตามด้วยประธานและกริยาต้องอยู่ในรูปเดิม
( ช่องที่ 1) ท้ายประโยคใส่เครื่องหมาย?(question
mark)
Cathy lived with her parents.
Did Cathy live with her parents?
Yes, she did. / No, she didn't.
6. การทำาให้เป็นประโยคปฏิเสธ
1. ถ้าในประโยคมีกริยาช่วยให้ใส่ not หลังกริยาช่วยนั้น
เช่น
I was tired.
I was not tired หรือ I wasn't tired.
2. ถ้าไม่มกริยาช่วยให้ใช้ did มาช่วย (ประธานทุกตัวใช้
ี
did) แล้วใส่ not หลัง did และกริยาช่องที 2 ต้อง
เปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 1
Ben danced yesterday.
Ben did not(didn't) dance yesterday.
Angela saw the denteist last week.
Angela did not (didn't) see the dentist last
week.