SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 161
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
                            ร่างกายของเรา
    ตอนที ่ 1
    กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ
ประสาท ระบบสืบพันธุ์
และระบบต่อมไร้ท่อ

กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 1 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่
1
ประกอบหัวข้อเรื่อง
    1.1 ความสำาคัญและหลักการของกระบวนการสร้างเสริมและดำารง
ประสิทธิภาพการทำางานของระบบ
          ต่าง ๆ ในร่างกาย
    1.2 ระบบประสาท
๑ ให้ น ั ก เรี ย นอธิ บ ายการทำ า งานของระบบประสาทในร่ า งกาย
มนุ ษ ย์ ม าพอสั ง เขป

____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
____________________________________________
__________________________________



                  กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 2
                              หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 1
ประกอบหัวข้อเรื่อง
    1.3 ระบบสืบพันธุ์
    1.4 ระบบต่อมไร้ท่อ
1. ให้ น ั ก เรี ย นอ่ า นข้ อ ความในข้ อ 1- 7 โดยให้ ร ะบุ ช ื ่ อ และ
บอกว่ า เป็ น ส่ ว นประกอบของอวั ย วะสื บ พั น ธุ ์ เ พศชาย หรื อ
อวั ย วะสื บ พั น ธุ ์ เ พศหญิ ง แล้ ว เติ ม คำ า ตอบลงในช่ อ งว่ า งท้ า ย
ข้ อ ที ่ ก ำ า หนด ตั ว อย่ า ง " มีลักษณะรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ยาวประมาณ 2 - 3 เซนติเมตรอยู่บริเวณปีกมดลูกแต่ละข้าง "

                  รังไข่                        อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง

 1) " ทำาหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของ
    ทารกเมื่อครบกำาหนดคลอด "

 2) " เป็นต่อมที่มีลักษณะคล้ายรูปไข่ ทำาหน้าที่สร้างตัวอสุจิ "

 3) " มีรูปร่างคล้ายชมพู่ อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกราน ทำาหน้าที่เป็นที่ฝัง
    ตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว "
4) " เป็นต่อมที่อยู่ตอนต้นของท่อปัสสาวะ ทำาหน้าที่หลั่งสารที่มีฤทธิ์
    เป็นด่างอ่อน ๆ "

 5) " เป็นถุงของผิวหนังอยู่นอกช่องท้อง ทำาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิให้
    พอเหมาะในการสร้างตัวอสุจิ "

 6) " เป็นท่อที่เชื่อมระหว่างรังไข่ทั่งสองข้างกับมดลูก ทำาหน้าที่เป็น
    ทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก "

   7) " มีลักษณะเป็นท่อเล็ก ๆ ขอทบไปมา รูปร่างคล้ายลูกนำ้าตัวเต็ม
วัย ทำาหน้าที่เก็บตัวอสุจิที่เจริญเต็มที่ "




2. ให้ น ั ก เรี ย นพิ จ ารณาภาพแสดงระบบต่ อ มไร้ ท ่ อ ในร่ า งกาย
มนุ ษ ย์ และเขี ย นบอกหน้ า ที ่ ข องต่ อ มไร้ ท ่ อ ลงในช่ อ งว่ า งที ่
กำ า หนด
      1) ต่อมใต้สมอง มีหน้าที่
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
    2) ต่อมไทรอยด์ มีหน้าที่
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________
    3) ต่อมพาราไทรอยด์ มีหน้าที่
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________
4) ต่อมไทมัส มีหน้าที่
___________________________________________________
__________________________________
  5) ต่อมหมวกไต มีหน้าที่
___________________________________________________
__________________________________
  6) รังไข่ มีหน้าที่
___________________________________________________
__________________________________
  7) อัณฑะ มีหน้าที่
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________
___________________________________________________
__________________________________




  การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 1
     เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน)
     ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 1. อธิบายความสำาคัญและหลักการ
ของกระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ
ประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายได้
1. ข้ อ ใดคื อ ความสำ า คั ญ ของกระบวนการสร้ า งเสริ ม และดำ า รง
ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบต่ า ง ๆ ในร่ า งกาย
     ก เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของบุคคล
     ข เพื่อให้ระบบต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
     ค เพื่อให้สามารถดำาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำาวันได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ
ง ถูกทุกข้อ
2. ข้ อ ใดไม่ ใ ช่ ห ลั ก การของกระบวนการสร้ า งเสริ ม และดำ า รง
ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบต่ า ง ๆ ในร่ า งกาย
    ก รักษาอนามัยส่วนบุคคล              ข ตรวจร่างกายเป็นประจำา
    ค ออกกำาลังกายเป็นบางครั้ง              ง บริโภคอาหารที่มี
ประโยชน์
3. หลั ก การสร้ า งเสริ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบ
ประสาทสามรถปฏิ บ ั ต ิ ไ ด้ ต ามข้ อ ใด
    ก มีอารมณ์ขัน                       ข มองโลกในแง่ดี
    ค พักผ่อนอย่างเพียงพอ                   ง ถูกทุกข้อ

ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 2. อธิบายองค์ประกอบและการทำางาน
ของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายได้
4. ข้ อ ใดไม่ ใ ช่ อ งค์ ป ระกอบของระบบประสาท
       ก รังไข่                               ข สมอง
       ค ไขสันหลัง                            ง เส้นประสาท
5. ข้ อ ใดคื อ องค์ ป ระกอบของระบบสื บ พั น ธุ ์ ใ นเพศหญิ ง
       ก มดลูก                          ข ถุงหุ้มอัณฑะ
       ค อัณฑะ                          ง ต่อมลูกหมาก
6. ต่ อ มไร้ ท ่ อ ในข้ อ ใดที ่ ม ี ค วามสำ า คั ญ ต่ อ การเจริ ญ เติ บ โต
ร่ า งกาย
       ก ต่อมไทมัส                            ข ต่อมหมวกไต
       ค ต่อมไทรอยด์                          ง ต่อมใต้สมอง



ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 3. อธิบายและเสนอแนะแนวทางใน
กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ
ประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่าในร่างกายได้
7. ข้อใดไม่ใช่แนวทางในการบำารุงรักษาระบบประสาท
     ก ไม่ใส่เสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น
     ข รับประทานอาหารที่ให้วิตามินบี 1 สูง
     ค ระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ
     ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง
8. ข้อใดคือวิธีบำารุงรักษาอวัยวะในระบบสืบพันธุ์
     ก ออกกำาลังกายสมำ่าเสมอ                  ข งดเครื่องดื่มที่มี
แอลกอฮอล์
     ค ทำาความสะอาดร่างกายอย่างทั่วถึง            ง ถูกทุกข้อ
ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 4. นำาแนวทางในกระบวนการสร้างเสริม
และดำารงประสิทธิภาพของกระบวนการการทำางานของระบบประสาท
ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย ไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำา
วันอย่างสมำ่าเสมอ
9. เพื่อให้ระบบประสาททำาหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพควรปฏิบัติตาม
ข้อใด
      ก รับประทานอาหารให้มาก ๆ                   ข ให้กล้ามเนื้อ
สะสมไขมันมาก ๆ
      ค รับประทานอาหารที่ให้วิตามีนบี 1 สูง           ง ถูกทุกข้อ
10. ใครสามารถดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ได้อย่างถูกต้อง
      ก มานพ ดื่มไวน์แดงเป็นประจำา
      ข สมพร สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดอยู่เสมอ
      ค วิชุดา ทำาความสะอาดร่างกายวันละ 1 ครั้ง
      ง กัลยา ใช้เสื้อผ้าร่วมกับน้องสาวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
11. การปฏิบัติในข้อใดที่ส่งผลเสียต่อระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายมาก
ที่สด
    ุ
      ก วิชัย ออกกำาลังกายอย่างสมำ่าเสมอ
      ข อำาพร ดืมนำ้าประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน
                  ่
      ค ปราณี ไม่รับประทานอาหารประเภทโปรตีน
      ง มนตรี ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
12. ใครปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
      ก ฤดี หลีกเลี่ยงยาชนิดต่าง ๆ ที่มีผลต่อสมอง
      ข ฤทัย ระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ
      ค สมจิต เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
      ง สมใจ มีความเครียดจากการทำางานและสะสมเป็นเวลานาน

ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 5. ตระหนักถึงคาวามสำาคัญของ
กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ
ประสาท ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย
๑ นั ก เรี ย นอ่ า นข้ อ ความในตารางแสดงความคิ ด เห็ น ที ่
กำ า หนดให้ แล้ ว เขี ย นเครื ่ อ งหมาย ลงในช่ อ งความคิ ด เห็ น
ตามความเป็ น จริ ง ประกอบด้ ว ย ก = เห็นด้วยอย่างยิ่ง ข =
ค่อนข้างเห็นด้วย ค = ไม่แน่ใจหรือกำ้ากึ่ง ง = ค่อนข้างไม่เห็น
ด้วย จ = ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ข้อความ                                         ความคิดเห็น    คะแน
                                             ก ข ค ง จ น
1. ระบบทุกระบบในร่างกายต้องทำางาน
สัมพันธ์กัน หากระบบใดทำางานผิดปกติ
ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ
2. การดูแลรักษาให้อวัยวะและระบบต่าง
ๆ ของร่างกายทำาหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่
ได้ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีได้
3. ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
อยู่เสมอ เพื่อดำารงประสิทธิภาพการ
ทำางานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่
ในภาวะปกติ
4. มนุษย์ตะดำารงอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัย
การทำางานของอวัยวะต่าง ๆ
5. ความเครียดในระบบประสาทส่งผล
ให้การทำางานของระบบย่อยอาหารผิด
ปกติ




             แบบทดสอบประจำ า หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 1
ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1
คะแนน)
1. กลุ่มเซลล์ในร่างกายที่ร่วมกันทำาหน้าที่เฉพาะ เรียกว่าอะไร
     ก ระบบ                 ข อวัยวะ
     ค เนื้อเยื่อ           ง เม็ดเลือด
2. เนื้อเยื่อชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันเมื่อร่วมกันทำาหน้าที่อย่างใด
อย่างหนึ่งเรียกว่าอะไร
ก เซลล์                       ข ระบบ
     ค อวัยวะ               ง เนื้อเยื่อ
3. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
     ก ระบบสืบพันธุ์ช่วยในการสืบทอดเผ่าพันธุ์
     ข ระบบประสาทจะประกอบด้วยเส้นประสาทเท่านั้น
     ค ระบบประสาทช่วยควบคุมการทำางานของอวัยวะทุกส่วน
     ง ระบบต่อมไร้ท่อผลิตฮอร์โมนไปตามกระแสเลือดสู่อวัยวะเป้า
หมาย
4. ข้อใดไม่ใช่การรักษาอนามัยส่วนบุคคลเพื่อดำารงประสิทธิภาพการ
ทำางานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
     ก อาบนำ้าให้สะอาดทุกวัน
     ข ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้สั้น
     ค สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่อับชื้น
     ง สระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
5. ข้อใดคือองค์ประกอบของระบบประสาท
     ก สมอง ท่อปัสสาวะ และไขสันหลัง
     ข สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท
     ค รังไข่ มดลูก และกระเพาะปัสสาวะ
     ง อัณฑะ ต่อมลูกหมาก และเส้นประสาท
6. ระบบประสาทส่วนกลางประกอบด้วยอะไร
     ก สมอง และไขสันหลัง
     ข สมอง และเส้นประสาทสมอง
     ค เส้นประสาทสมอง และไขสันหลัง
     ง เส้นประสาทสมอง และเส้นประสาทไขสันหลัง

7. สมองของคนเราแบ่งออกเป็นกี่ชั้น
    ก 1 ชั้น          ข 2 ชั้น
    ค 3 ชั้น          ง 4 ชั้น

8. สมองชั้นนอกที่มีสีเทา เรียกว่าอะไร
    ก ไวท์แมตเตอร์               ข พิงค์แมตเตอร์
    ค กรีนแมตเตอร์               ง เกรย์แมตเตอร์

9. สมองชั้นในที่มีขาว เรียกว่าอะไร
    ก ไวท์แมตเตอร์              ข พิงค์แมตเตอร์
    ค กรีนแมตเตอร์              ง เกรย์แมตเตอร์

10. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของสมอง
ก ซีรีบรัม          ข ทาลามัส
     ค ไฮโพทาลามัส       ง ต่อมคาวเปอร์

11. ส่วนใดของสมองที่มีหน้าที่เกี่ยวกับความจำาความนึกคิด และไหว
พริบ
     ก พอนส์            ข ซีรับรัม
     ค ทาลามัส          ง ซีรีเบลลัม

12. สมองส่วนใดที่ทำาหน้าที่ควบคุมการเคี้ยวอาหารและการหลั่งนำ้าลาย
    ก พอนส์              ข ซีรับรัม
    ค ทาลามัส            ง ซีรีเบลลัม

13. การเคลื่อนไหวลูกตาและม่านตาจะถูกควบคุมโดยสมองส่วนใด
    ก สมองส่วนหน้า           ข สมองส่วนท้าย
    ค สมองส่วนกลาง           ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง

14. สมองส่วนกลาง พอนส์ แบะเมดัลลาออบลองกาตา ทั้ง 3 ส่วนนี้
รวมกันเรียกว่าอะไร
     ก ไขสันหลัง           ข ก้านสมอง
     ค ปลายประสาท     ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง

15. ข้อใดจัดว่าเป็นปฏิกิริยารีเฟลกซ์
     ก การร้องเมื่อเจ็บปวด
     ข การหลั่งนำ้าตาเมื่อเกิดการเสียใจ
     ค การกระตุกมือหนีทันทีเมื่อถูกของร้อน
     ง ความสามารถในการแบกตู้หนัก ๆ หนีไฟไหม้
16. เส้นประสาทสมองมีจำานวนกี่คู่
     ก 6 คู่                     ข 12 คู่
     ค 16 คู่                    ง 22 คู่
17. เส้นประสาทไขสันกลังมีจำานวนกี่คู่
     ก 14 คู่                    ข 21 คู่
     ค 31 คู่               ง 41 คู่
18. ระบบประสาทอัตโนมัติจะควบคุมการทำางานในข้อใด
     ก การกะพริบตา
     ข การเคี้ยวอาหาร
     ค การหลั่งนำ้าย่อย
     ง การเคลื่อนไหวร่างกาย
19. ปฏิกิริยารีเฟลกซ์อยู่ในความควบคุมของข้อใด
ก เมดัลลา
     ข ไขสันหลัง
     ค สมองส่วนท้าย
     ง สมองส่วนกลาง
20. หากสมองส่วนซีรีบรัมได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงอาจ
ทำาให้เกิดผลอย่างไรต่อร่างกาย
     ก ทำาให้ความจำาเสื่อม
     ข ทำาให้หัวใจเต้นผิดปกติ
     ค ทำาให้กระดูกสันหลังหัก
     ง ทำาให้การเคลื่อนไหวช้าลง
21. บุคคลในข้อใดเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม
     ก กานดา รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำา
     ข นุสรา พักผ่อนสมองด้วยการนอนหลับ
     ค ภาวิณี คลายเครียดด้วยการออกกำาลังกาย
     ง โอภาส ชอบดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เป็นประจำา
22. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
     ก รังไข่ มดลูก และกระเพาะปัสสาวะ
     ข อัณฑะ ถุงหุ้มอัณฑะ และต่อมลูกหมาก
     ค อัณฑะ ต่อมลูกหมาก และต่อมคาวเปอร์
     ง หลอดเก็บตัวอสุจิ ต่อมลูกหมาก และต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ


23. ข้อใดคือหน้าที่ของอัณฑะ
    ก สร้างตัวอสุจิ
    ข ลำาเลียงตัวอสุจิ
    ค เก็บตัวอสุจิที่เจริญเต็มที่
    ง หลั่งสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ
24. ตัวสุจิจะเจริญได้ดีที่อณหภูมิตำ่ากว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย
                           ุ
ประมาณกี่องศา
    ก 1-2 องศาเซลเซียส
    ข 3-5 องศาเซลเซียส
    ค 6-8 องศาเซลเซียส
    ง 9-11 องศาเซลเซียส

25. ในเพศชายจะเริ่มสร้างตัวอสุจิเมื่ออายุเท่าใด
    ก 5-8 ปี                   ข 9-11 ปี
    ค 12-13 ปี                        ง 14-17 ปี
26. ต่อมชนิดใดที่ทำาหน้าที่หลั่งสารไปหล่อลื่นท่อปัสสาวะในขณะที่เกิด
การกระตุ้นทางเพศ
     ก ต่อมไทมัส
     ข ต่อมคาวเปอร์
     ค ต่อมลูกหมาก
     ง ต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ
27. ปริมาฯนำ้าอสุจิและตัวอสุจิจะแตกต่างกันไปตามข้อใด
     ก เชื้อชาติ
     ข สภาพแวดล้อม
     ค ความแข็งแรงของร่างกาย
     ง ถูกทุกข้อ
28. ถ้าหากตัวอสุจิมีรูปร่างผิดปกติมากกว่าร้อยละเท่าใดจะมีโอกาสเป็น
หมันในเพศชาย
     ก ร้อยละ 10                      ข ร้อยละ 15
     ค ร้อยละ 25                      ง ร้อยละ 30
29. ตัวอสุจิเมื่อออกสู่ภายนอกจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ชั่วโมง
     ก 1 ชั่วโมง
     ข 2-3 ชั่วโมง
     ค 4-6 ชั่วโมง
     ง 8-10 ชั่วโมง

30. ข้อใดคือส่วนประกอบของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง
     ก รังไข่ ท่อนำาไข่ และช่องคลอด
     ข อัณฑะ หลอดนำาตัวอสุจิ และต่อมคาวเปอร์
     ค ถุงหุ้มอัณฑะ หลอดนำาตัวอสุจิ และต่อมลูกหมาก
     ง ต่อมคาวเปอร์ ต่อมลูกหมาก และต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ
31. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของรังไข่
     ก ผลิตไข่ในเพศหญิง
     ข สร้างฮอร์โมนเอสโทรเจน
     ค สร้างฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน
     ง เป็นทางผ่านของไข่เข้าสู่มดลูก
32. การเกิดเสียงแหลมเล็ก สะโพกผายแบะการขยายขนาดของ
หน้าอกในเพศหญิงเกิดจากฮอร์โมนชนิดใด
     ก ไทรอกซิน
     ข เอสโทรเจน
     ค โพรเจสเทอโรน
     ง เทสโทสเตอโรน
33. ข้อใดคือหน้าที่ของท่อนำาไข่หรือปีกมดลูก
ก ผลิตไข่ในเพศหญิง
     ข สร้างฮอร์โมนเพศหญิง
     ค เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว
     ง เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก
34. ผนังขอมดลูกประกอบด้วยกล้ามเนื้อชนิดใด
     ก กล้ามเนื้อลายที่หนา
     ข กล้ามเนื้อลายที่บาง
     ค กล้ามเนื้อเรียบที่หนา
     ง กล้ามเนื้อเรียบที่บาง
35. ข้อใดคือลักษณะของมดลูกในเพศหญิง
     ก ยืดหดได้มากเป็นพิเศษ
     ข อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกราน
     ค ผนังเป็นกล้ามเนื้อเรียบที่หนา
     ง ถูกทุกข้อ
36. มดลูกประกอบด้วยโครงสร้างกี่ชั้น
     ก 1 ชั้น                      ข 2 ชั้น
     ค 3 ชั้น                ง 4 ชั้น
37. ข้อใดคือลักษณะของเยื่อบุมดลูก
     ก มีเยื่อบาง ๆ ปกคลุมอยู่
     ข เป็นกล้ามเนื้อเรียบที่หนา
     ค มีลักษณะรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์
     ง มีลักษณะบาง เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ปฏิบัติ
38. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของช่องคลอด
     ก เป็นทางผ่านของตัวอสุจิ
     ข ผลิตฮอร์โมนของเพศหญิง
     ค เป็นทางออกของทารกเมื่อครบกำาหนดคลอด
     ง เป็นช่องให้ประจำาเดือนออกมาสู่ภายนอก
39. ข้อใดคือผลเสียของแอลกอฮอล์ที่มีตอระบบสืบพันธุ์ในเพศชาย
                                        ่
     ก เกิดการเปลี่ยนแปลาเรื่องเพศ
     ข ทำาให้สมรรถภาพทางเพศลดลง
     ค ทำาให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง
     ง ถูกทุกข้อ
40. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่ถูกต้องในการดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ของ
ร่างกาย
     ก สุชาดา สวมใส่เสื้อผ้าชำ้า ๆ กันเป็นประจำา
     ข สนีย์ รับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่
     ค อารีย์ ทำาความสะอาดร่างกายวันละ 2 ครั้ง
     ง จารุณี งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
41. ระบบต่อมไร้ท่อเป็นระบบที่ผลิตอะไร
    ก นำ้าดี
    ข นำ้าย่อย
    ค เอนไซม์
    ง ฮอร์โมน
42. ระบบต่อมไร้ท่อจะทำางานโดยประสานกับระบบใด
    ก ระบบหายใจ
    ข ระบบขับถ่าย
    ค ระบบประสาท
    ง ระบบย่อยอาหาร



43. ต่อมใต้สมองส่วนใดเป็นศูนย์ควบคุมใหญ่ของร่างกาย
    ก ต่อใต้สมองส่วนข้าง
    ข ต่อมใต้สมองส่วนล่าง
    ค ต่อมใต้สมองส่วนหน้า
    ง โพรเจสเทอโรน
44. ฮอร์โมนในข้อใดที่สร้างจากต่อมหมวกไต
    ก ไทรอกซิน
    ข เอสโทรเจน
    ค อะดรีนาลิน
    ง โพรเจสเทอโรน
45. ไทรอกซินเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใด
    ก ต่อมไทมัส
    ข ต่อมไรอยด์
    ค ต่อมหมอกได
    ง ต่อมพาราไทรอยด์
46. ฮอร์โมนใดทำาหน้าที่ควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายให้อยู่
ในระดับที่เหมาะสม
    ก ไทรอกซิน
    ข พาราฮอร์โมน
    ค ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน
    ง ฮอร์โมนเทศโทสเตอโรน
47. ฮอร์โมนชนิดใดสร้างมาจากต่อมเดียวกัน
    ก thyroxin กับ cortisol
    ข adrenalin กับ cortisol
    ค prolactin กับ adrenalin
ง testosterone กับ thyroxin
48. ต่อมไร้ท่อชนิดใดจะมีขนาดใหญ่ในทารกแรกเกิดและจะค่อย ๆ
เล็กลงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
     ก ต่อมไทมัส
     ข ต่อมไรอยด์
     ค ต่อมหมอกได
     ง ต่อมพาราไทรอยด์



49. ถ้าหากต่อมที่อยู่ใต้ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินจะ
ทำาให้เกิดโรคใด
     ก โรคหัวใจ
     ข โรคมะเร็ง
     ค โรคคอพอก
     ง โรคเบาหวาน
50. เพื่อให้ระบบต่อมไร้ท่อมีประสิทธิภาพควรปฏิบัติตามข้อใด
     ก ลดอาหารที่มีรสหวานจัด
     ข ดื่มนำ้าในปริมาณที่เพียงพอ
     ค งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
     ง ถูกทุกข้อ

ตอนที ่ 2 ให้นักเรียนตอบคำาถามต่อไปนี้
1.หลักของระบบการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของ
ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีอะไรบ้าง (10 คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________

2.นักเรียนมีแนวทางในการบำารุงรักษาระบบประสาทอย่างไร(10
คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________

3.หากเกิดความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ในร่างกาย นักเรียนจะปฏิบัติตน
อย่างไร(10 คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________

4.นักเรียนคิดว่าฮอร์โมนจะทำางานประสานกับระบบประสาทได้อย่างไร
บ้าง จงอธิบาย(10 คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________

5.นักเรียนมีวิธีการแนะนำาวิธีบำารุงรักษาระบบต่อมไร้ท่อแก่สมาชิกใน
ครอบครัวอย่างไรบ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่างมาพอสังเขป(10
คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
__________________________________




                         หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2
                          สร้ า งกายให้ เ กิ ด สุ ข
                                 ตอนที ่ 2
                      การวางแผนดู แ ลสุ ข ภาพของ
                 บุ ค คลในครอบครั ว ชุ ม ชน และสั ง คม
                                 ครั ้ ง ที ่ 3
                         หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2

1.ให้ น ั ก เรี ย นตอบคำ า ถามต่ อ ไปนี ้ ใ ห้ ถ ู ก ต้ อ ง
    1) การวางแผนดูแลสุขภาพ หมายถึง
___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________

    2) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว หมายถึง

___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________

    3) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชน หมายถึง

___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________

    4) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในสังคม หมายถึง

___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________

___________________________________________________
____________________________
2.ให้ น ั ก เรี ย นสรุ ป แนวทางในการวางแผนดู แ ลสุ ข ภาพของ
บุ ค คลในครอบครั ว ลงในแผนผั ง ที ่ ก ำ า หนด


                               วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ
                                _______________________
           ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น
                        _______________________
_____________________________
              _______________________
_____________________________
                        _______________________
_____________________________



                                    วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ
                               _______________________
ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น
                 _______________________
_____________________________
                 _______________________
_____________________________
              _______________________
_____________________________

การดู แ ลสุ ข ภาพของ
บุ ค คลในครอบครั ว
                                          วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ
                                       _______________________
                ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น
                 _______________________
_____________________________
_______________________
_____________________________
                 _______________________
_____________________________


                                            วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ
                                      _______________________
               ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น
                                _______________________
_____________________________
                               _______________________
_____________________________
                               _______________________
_____________________________
กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้
ครั ้ ง ที ่ 4
หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2
    • ให้ น ั ก เรี ย นนำ า เสนอโครงการสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพใน
        ชุ ม ชนและสั ง คมของตนเองมา 1 โครงการ
        โดยบั น ทึ ก ผลลงในแบบบั น ทึ ก

                                       แบบบั น ทึ ก ผล
  1) ชื ่ อ โครงงาน
  2) หลั ก การและเหตุ ผ ล




  3) วั ต ถุ ป ระสงค์



  4) กลุ ่ ม เป้ า หมาย


  5) วิ ธ ี ด ำ า เนิ น การ
6) ระยะเวลาดำ า เนิ น การ
7) สถานที ่ ด ำ า เนิ น การ
8) งบประมาณ
9) ผลที ่ ค าดว่ า จะได้ ร ั บ




10)ผู ้ ร ั บ ผิ ด ชอบโครงการ




คำ า ถามจากโครงงานที ่ น ำ า เสนอ
1) ให้นักเรียนบอกผลดีของโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนและ
สังคมของนักเรียนว่ามีผลดีต่อสุขภาพอย่างไร
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_
2) การทำาให้บุคคลในชุมชนมีสุขภาพที่ดีได้นั้น ต้องอาศัยความร่วม
มือจากฝ่ายใดบ้าง ให้ยกตัวอย่างพร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_
3) ในชุมชนของนักเรียนมีหน่วยงานที่ให้คำาปรึกษาในการวางแผน
ดูแลสุขภาพอะไรบ้าง
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_

การวัดและประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ตอนที่ 2
• เขียนเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง
1. การวางแผนดูแลสุขภาพมีประโยชน์อย่างไร
    ก. เพื่อการมีสุขภาพที่ดี
    ข. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
    ค. เพื่อให้ดำารงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
    ง. ถูกทุกข้อ
2. การดูแลสุขภาพนั้นจะต้องเริ่มจากที่ใดเป็นลำาดับแรก
    ก. บุคคล
    ข. ชุมชน
    ค. สังคม
    ง. เพื่อนบ้าน
3. บุคคลใดที่มีส่วนสำาคัญในการวางแผนดูแลสุขภาพให้กับเด็กมาก
ที่สด
    ุ
    ก. ครู
    ข. พ่อแม่
    ค. ญาติพี่น้อง
    ง. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
4. ข้อใดคือแนวทางในการดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว
    ก. การพักผ่อน
    ข. การตรวจสุขภาพ
    ค. การออกกำาลังกาย
    ง. ถูกทุกข้อ
5. เด็กวัยเรียนควรตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยกี่เดือนต่อครั้ง
    ก. 1 เดือนต่อครั้ง
    ข. 4 เดือนต่อครั้ง
    ค. 8 เดือนต่อครั้ง
    ง. 12 เดือนต่อครั้ง
6. บุคคลใดปฏิบัติตนได้ถูกต้อง
    ก. นก ก้าวลงจากรถประจำาทางแล้วรีบข้ามถนนทันที
    ข. น้อย ขับรถอย่างระมัดระวังเมื่อตนเองดื่มสุรา
    ค. นัท ลงจากรถยนต์ส่วนบุคคลทางประตูด้านขวามือ
    ง. นุช คาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
7. ข้อใดคือแนวทางการวางแผนดูแลสุขภาพจิตของคนในชุมชนที่
ถูกต้อง
   ก. จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในชุมชน
   ข. จัดให้มีสวนสาธารณะในชุมชน
   ค. จัดให้มีการแข่งขันกีฬาภายในชุมชน
   ง. ถูกทุกข้อ
8. บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเสี่ยงและส่งผลถึงสุขภาพของบุคคลอื่นใน
สังคม
   ก. วันชัย ปลูกต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ
   ข. มานพ สูบบุหรี่บนรถโดยสารประจำาทาง
   ค. วันดี ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัว
   ง. สุชาติ จอดรถเมื่อเห็นคนชราจะข้ามถนนบนทางม้าลาย
9. เมื่อนักเรียนมีปัญหาด้านการวางแผนดูแลสุขภาพจะขอรับคำา
ปรึกษาจากผู้ใด
   ก. เพื่อนบ้าน
   ข. ผู้ใหญ่บ้าน
   ค. สถานีตำารวจ
   ง. สถานีบริการสาธารณสุข



10. โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพจะมุ่งเน้นในเรื่องใด
  ก. การรักษาพยาบาล
  ข. การป้องกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
  ค. การวางแผนครอบครัวและการป้องกันโรค
  ง. การสร้างเสริมสุขภาพด้วยตนเองของประชาชน
11. ข้อใดคือผลดีของโครงการสุขภาพในชุมชน
  ก. คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
  ข. ทำาให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีอย่างถ้วนหน้า
  ค. ทำาให้มีสิ่งอำานวยความสะดวกต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
  ง. ถูกทุกข้อ
12. ในกรณีที่เรามีการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย สถานบริการ
สาธารณสุขในข้อใดที่มีความเหมาะสมในการเข้ารับบริการ
  ก. คลินิกในชุมชน
  ข. โรงพยาบาลเอกชน
  ค. สาธารณสุขประจำาชุมชน
  ง. ร้านขายยาประจำาหมู่บ้าน
แบบทดสอบประจำ า หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2
ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง
1. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์จากการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคล
   ก. เพื่อการมีสุขภาพที่ดี
   ข. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ยั่งยืน
   ค. เพื่อให้บุคคลมีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น
   ง. เพื่อให้ดำารงชีวิตอยู่ในสังคมโดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
   ก. การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวจะมีหลักปฏิบัติ
เหมือนกัน
   ข. การวางแผนการดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชนทุกคนไม่
จำาเป็นต้องร่วมกันปฏิบัติ
   ค. ภาวะสุขภาพที่เกิดขึ้นในครอบครัว ชุมชน และสังคม ล้วนมีผล
ต่อสุขภาพของคนเรา
   ง. ถูกทุกข้อ




3. ข้อใดไม่ใช่แนวทางในการดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว
   ก. ออกกำาลังกายอย่างสมำ่าเสมอ
   ข. ตรวจสุขภาพอย่างน้อย 3 ปีต่อครั้ง
   ค. รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ
   ง. ทำากิจกรรมนันทนาการเพื่อผ่อนคลายความเครียด
4. บุคคลใดมีสุขนินัยที่ดีในการรับประทานอาหาร
   ก. แนน ชอบรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
   ข. ต้อม เลือกรับประทานอาหารที่ตนเองชอบ
   ค. อุย เลือกรับประทานอาหารที่ใหม่สะอาด
        ๋
   ง. ดวง รับประทานผักและผลไม้เป็นอาหารเช้าเพื่อลดความอ้วน
นำ า อั ก ษรหน้ า คำ า ตอบต่ อ ไปนี ้ เ ติ ม ลงในช่ อ งว่ า งท้ า ยคำ า ตอบ
                                ข้ อ 5 -7
           ก วัยเด็ก           ข วัยผู้ใหญ่                     ค วัยผู้สูง
อายุ

5. "การจัดอาหารควรเน้นอาหารที่ให้พลังงานและครบทั้ง 5 หมู่"
ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด
_________________________
6. "อาหารที่รับประทานควรจะเป็นอาหารในกลุ่มที่ช่วยส่งเสริมการ
เจริญเติบโตและครบทั้ง 5 หมู่"
ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด
_________________________
7. "อาหารที่รับประทานอาหารควรจะเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์แบบ
ย่อยง่าย โดยเฉพาะเนื้อปลาและควรลดอาหารประเภทแป้งและไข
มัน"
ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด
_________________________
8. หากในครอบครัวนักเรียนมีบุคคลที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง ควร
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด
    ก. ผักและผลไม้
    ข. ธัญพืชต่าง ๆ
    ค. เนื้อสัตว์ตดมัน
                  ิ
    ง. ถูกทุกข้อ
9. ข้อใดไม่ใช่หลักการวางแผนการออกกำาลังกายที่ถูกต้อง
    ก. กำาหนดโปรแกรมการออกกำาลังกาย
    ข. ในกรณีที่มีโรคประจำาตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการออกกำาลัง
กาย
    ค. เลือกกิจกรรมการออกกำาลังกายตามความพึงพอใจของตนเอง
เป็นสำาคัญ
    ง. เตรียมอุปกรณ์การออกกำาลังกายให้เหมาะสมกับชนิดของการ
ออกกำาลังกาย
10. การรำามวยจีนคือรูปแบบการออกกำาลังกายที่เหมาะสมกับวัยใด
มากที่สุด
    ก. วัยรุ่น
    ข. วัยเด็ก
    ค. วัยทารก
    ง. วัยผู้สูงอายุ
11. ข้อใดเป็นการกำาหนดโปรแกรมการออกกำาลังกายที่ไม่เหมาะสม
  ก. ออกกำาลังกายครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที
  ข. ออกกำาลังกายสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 3 วัน
  ค. ออกกำาลังกายครั้งละไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง
  ง. ไม่มีขอใดถูกต้อง
           ้
12. การวางแผนการออกกำาลังกายเพื่อสุขภาพควรคำานึงถึงเรี่องใด
  ก. ความเหมาะสมในเรื่องวัย
  ข. ความเหมาะสมในเรื่องเพศ
  ค. ความเหมาะสมกับสภาพร่างกาย
  ง. ถูกทุกข้อ
 13. กิจกรรมใดถือว่าเป็นการพักผ่อนเพื่อการมีสุขภาพที่ดี
  ก. การนอนหลับ
  ข. การอ่านหนังสือนิยาย
  ค. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์
  ง. การเที่ยวสถานบันเทิงตอนกลางคืน
14. บุคคลใดวางแผนการพักผ่อนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
  ก. ขวัญ นอนหลับวันละ 4 ชั่วโมง
  ข. ทราย เรียนพิเศษหลังเลิกเรียนทุกวัน
  ค. บอย เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทุกวันหลังเลิกเรียน
  ง. อ้อย ฝึกเรียนดนตรีหลังเลิกจากการเรียนหนังสือ
15. ในทารกแรกเกิดควรให้นอนหลับวันละประมาณกี่ชั่วโมง
  ก. 2 - 3 ชั่วโมง
  ข. 8 - 9 ชั่วโมง
  ค. 10 - 15 ชั่วโมง
  ง. 18 - 20 ชั่วโมง



16. การวางแผนเลือกกิจกรรมนันทนาการควรยึดหลักตามข้อใด
  ก. ความเหมาะสมกับวัยและสุขภาพร่างกาย
  ข. ต้องเป็นกิจกรรมตามความสนใจและความถนัด
  ค. ต้องเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมปฏิบัติในบุคคลทั่วไป
  ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
17. กิจกรรมใดที่จัดว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง
  ก. การนอนหลับ
  ข. การเรียนพิเศษ
  ค. การอ่านหนังสือการ์ตูน
ง. ถูกทุกข้อ
 18. ข้อใดคือผลเสียของการเกิดอาการเจ็บป่วย
   ก. ทำาให้ครอบครัวต้องเสียเงินในการรักษา
   ข. ก่อให้เกิดความเครียดส่งผลต่อสุขภาพจิต
   ค. อาจส่งผลให้สมาชิกคนอื่นในครอบครัวติดเชื้อและเจ็บป่วยได้
   ง. ถูกทุกข้อ

19. หากนักเรียนพบความผิดปกติหรือมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นควร
ปฏิบัติอย่างไร
  ก รีบไปปรึกษาเพื่อนบ้านทันที
  ข รับไปพบแพทย์เพื่อทำาการรักษา
  ค ปล่อยไว้เฉย ๆ อีกไม่นานก็หายเอง
  ง ไปซื้อยาจากร้านขายยามารับประทาน
20. บุคคลใดวางแผนการตรวจสุขภาพและเสริมสร้างความต้านทาน
โรคได้อย่างถูกต้อง
  ก เก๋ ไปตรวจสุขภาพ 2 ปีต่อครั้ง
  ข แตง เข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
  ค แก้ม ไปตรวจสุขภาพฟันเมื่อมีอาการปวดฟัน
  ง จิ๊บ มีอาการป่วยจึงไปซื้อยามารับประทาน
21. ข้อใดคือการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชนที่เหมาะ
สม
  ก จัดให้มีกองทุนกู้ยืมเงิน
  ข จัดให้มีศูนย์อนามัยชุมชน
  ค จัดให้มอาสาสมัครสาธารณสุประจำาหมู่บ้าน
             ี
  ง ถูกทั้งข้อ ข และ ค


22. ข้อใดไม่ใช่วิธีการวางแผนดูแลสุขภาพจิตของบุคคลในชุมชน
  ก จัดแข่งกีฬาภายในชุมชน
  ข จัดตั้งชมรมอาสากู้ภัยในชุมชน
  ค จัดกิจกรรมนันทนาการในชุมชน
  ง จัดให้มีสวนสาธารณะภายในชุมชน
23. การวางแผนดูแลสุขภาพทางจิตของบุคคลในชุมชนควรเป็น
หน้าที่ของใคร
  ก พระภิกษุ
  ข ผู้ใหญ่บ้า
  ค ทุกคนในชุมชน
  ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
24. ข้อใดไม่ใช่อุบัติภัยที่เกิดขึ้นในสังคม
   ก อุบัติภัยจากการจราจรทางนำ้า
   ข อุบัติภัยจากการราจรทางบก
   ค การเจ็บป่วยของบุคคลภายในบ้าน
   ง ภัยจากสถานที่ที่เข้าไปใช้บริการ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรง
ภาพยนตร์
25. การเกิดอุบัติภัยก่อให้เกิดปัญหาใดในสังคม
   ก ความสูญเสียทางด้านร่างกาย
   ข ความสูญเสียทางด้านทรัพย์สิน
   ค ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจ
   ง ถูกทุกข้อ
26. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง
   ก นพ ไม่ดื่มสุราขณะขับรส
   ข นก ข้ามถนนบนทางข้ามที่กำาหนด
   ค นัท ลงจากรถประจำาทางนอกป้ายจอดรถ
   ง แนน คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งขณะขับรถ
27. ข้อใดคือการวางแผนเพื่อป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรอย่างถูก
ต้อง
   ก ตรวจสภาพรถก่อนนำาออกมาใช้
   ข ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
   ค ถ้ามีอาการง่วงนอนให้จอดรถเพื่อหยุดพัก
   ง ถูกทุกข้อ



28. ข้อใดเป็นการป้องกันอุบัติภัยจากการเดินบนทางเท้าที่ถูกต้อง
   ก ถ้าไม่มีทางเท้าให้เดินชิดขวามือ
   ข ข้ามถนนในบริเวณที่มีความสะดวก
   ค เดินชิดขอบถนนทุกครั้งในการเดินเท้า
   ง ถูกทุกข้อ
29. เมื่อนักเรียนจะต้องโดยสารเรือควรวางแผนเพื่อป้องกันการเกิด
อุบัติภัยอย่างไร
   ก ควรสวมเสื้อผ้าที่หนาและหนัก
   ข ขณะยืนรอเรือควรยืนรอบนโป๊ะ
   ค ให้รีบขึ้นและลงเรือโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา
   ง หากว่ายนำ้าไม่เป็นควรใส่เสื้อชูชีพขณะโดยสารเรือ
30. ข้อใดคือการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องขณะโดยสารเครื่องบิน
   ก รัดเข็มขัดที่นั่งตลอดการบิน
   ข ใช้อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
ค ปฏิบัติตามคำาแนะนำาของเจ้าหน้าที่
  ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง
31. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงของบุคคลในสังคม
  ก สูบบุหรี่เพียงครึ่งมวน
  ข ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  ค เล่นดนตรีกับเพื่อนหลังเลิกเรียน
  ง ใช้ถุงยางอนามัยหลังมีเพศสัมพันธ์

32. บุคคลใดสามารถป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อตนเองและต่อบุคคล
อืน
  ่
    ก ตุ่น ดื่มสุราเมื่อมีงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน
    ข หน่อย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ทุกมื้อ
    ค หนุ่ย งดสูบบุหรี่เมื่อโดยสารรถประจำาทาง
    ง อ้น ชะลอรถทันทีที่เห็นคนข้ามถนนบนทางม้าลาย
33. ข้อใดคือการมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม
    ก การมีคู่นอนเพียงคนเดียว
    ข ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
    ค ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
    ง ถูกทุกข้อ


34. บุคคลใดปฏิบัติคนไม่ถูกต้อง
  ก อุ้ม ทิ้งขยะลงบนพื้นสวนสาธารณะ
  ข ต้าร์ จัดบ้านของตนเองให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ
  ค เมฆ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ชุมชนจัดขึ้น
  ง ฟ้า ช่วยกำาจัดแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคในบริเวณชุมชนของ
ตนเอง
35. ข้อใดคือโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชน
  ก โครงการทูบีนัมเบอร์วัน
  ข โครงการขยับกายสบายชีวี
  ค โครงการชมรมสร้างสุขภาพ
  ง ถูกทุกข้อ
36. ข้อใดคือเป้าหมายของโครงการเมืองน่าอยู่ชุมชนน่าอยู่
  ก จัดหางานให้กับคนในชุมชน
  ข ทำาให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
  ค สร้างความเข้มแข็งของชุมชนและให้ประชาชนมีสุขภาพดี
  ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง
37. ศูนย์สุขภาพชุมชนเป็นการจัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ก ให้บริการทางการแพทย์
    ข การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
    ค พัฒนาความรู้ของประชาชนในการดูแลตนเองยามเจ็บป่วย
    ง ถูกทุกข้อ
  38. การดำาเนินโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนเป็นความรับผิด
  ชอบของหน่วยงานใด
    ก กระทรวงกลาโหม
    ข กระทรวงมหาดไทย
    ค กระทรวงวัฒนธรรม
    ง กระทรวงสาธรณสุข
  39. ข้อใดคือการดำาเนินงานของชมรมสร้างเสริมสุขภาพ
    ก จัดกิจกรรมการออกกำาลังกาย
    ข จัดกิจกรรมเรื่องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย
    ค เสริมสร้างทักษะเรื่องอารมณ์ อนามัยชุมชน และอโรคยา
    ง ถูกทุกข้อ



  40. หน่วยงานใดไม่ใช่หน่วยงานที่ให้คำาปรึกษาในการวางแผนดูแล
  สุขภาพ
     ก ครินิกในชุมชน
     ข มูลนิธิร่วมกตัญญู
     ค โรงพยาบาลชุมชน
     ง ศูนย์บริการสาธารณสุข

  ตอนที ่ 2 ให้ น ั ก เรี ย นตอบคำ า ถามต่ อ ไปนี ้
  1. นักเรียนมีแนวทางในการวางแผนดูแลสุขภาพ ของบุคคลใน
     ครอบครัวอย่างไรบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง (20 คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
  2. การวางแผนดูแลสุขภาพทางกายของบุคคลในชุมชนทำาได้
     อย่างไรบ้าง จงอธิบาย (20 คะแนน)
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
___________________________________________________
_________________
  3. นักเรียนสามารถวางแผนป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงของบุคคลใน
  สังคมได้อย่างไรบ้าง จงอธิบาย
  (20 คะแนน)
  _________________________________________________
  _________________________________________________
  _________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
____

                                หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3
                               สั ม พั น ธภาพสร้ า งมิ ต ร
                                          ตอนที ่ 3
                   วั ย รุ ่ น กั บ ปั จ จั ย ทางสั ง คมที ่ ส ่ ง ผล
                        ต่ อ พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศ
กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้
ครั ้ ง ที ่ 5
หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3
ประกอบหัวข้อเรื่อง
    3.1 ปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
    3.2 ลักษณะและผลกระทบของปัจจัยทางสังคมที่ก่อให้เกิด
พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
• ให้ น ั ก เรี ย นหาข่ า วหรื อ เหตุ ก ารณ์ ต ่ า ง ๆ จากสื ่ อ
    หนั ง สื อ พิ ม พ์ ท ี ่ เ กี ่ ย วข้ อ งกั บ ปั ญ หาของวั ย รุ ่ น กั บ
    พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศมา 1 ข่ า ว โดยวิ เ คราะห์ ถ ึ ง
    สาเหตุ แ บะผลกระทบที ่ เ กิ ด ขึ ้ น แล้ ว แสดงความคิ ด เห็ น
    ถึ ง แนวทางในการแก้ ไ ขปั ญ หาที ่ เ กิ ด ขึ ้ น
สาระของข่าว :
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_
สาเหตุของปัญหา :
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_
ผลกระทบที่เกิดขึ้น :
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_
แนวทางในการแก้ไขปัญหา :
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
_________________________________________________
__

กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้
ครั ้ ง ที ่ 6
หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3
ประกอบหัวข้อเรื่อง
3.3 แนวทางในการป้องกันปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลให้เกิด
พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
  3.4 ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำาเนินชีวิต
• ให้ น ั ก เรี ย นเขี ย นแผนที ่ ค วามคิ ด (mind mapping)
  เพื ่ อ แสดงถึ ง แนวทางในการป้ อ งกั น ปั จ จั ย ทางสั ง คมที ่ ส ่ ง
  ผลให้ เ กิ ด พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศลงในกรอบที ่ ก ำ า หนด




 การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 3
• เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน)
ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 1. อธิบายความหมายและความสำาคัญ
ของปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศได้
1. ข้อใดคือปัจจัยสำาคัญที่ส่งผลต่อการมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศได้
โดยง่ายในปัจจุบัน
   ก สภาพสังคม
   ข สภาพครอบครัว
   ค ฐานะทางเศรษฐกิจ
   ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง
2. ข้อใดคือปัจจัยทางสังคมที่มีความสำาคัญต่อพฤติกรรมเสี่ยงทาง
เพศของวัยรุ่น
   ก อิทธิพลของสื่อ
   ข ค่านิยมทางเพศของวัยรุ่น
   ค ลักษณะของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
   ง ถูกทุกข้อ

3. ข้อใดหมายถึงปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
     ก สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางสังคมที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัยรุ่นมี
พฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
     ข สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัย
  รุ่นมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่
         เหมาะสม
ค สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางครอบครัวที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัย
  รุ่นมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่
         เหมาะสม
     ง ถูกทุกข้อ

4. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยทางสังคมที่นำาไปสู่ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงทาง
เพศของวัยรุ่น
      ก การเที่ยวต่างจังหวัด
      ข การพักอยู่กับผู้ปกครองต่างจังหวัด
      ค การเช่าที่อยู่อาศัยอย่างอิสระของวัยรุ่น
      ง การพบปะสังสรรค์กลางคืนของวัยรุน
5. การเช่าที่พักอาศัยอยู่อย่างอิสระของวัยรุ่นเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา
ใดมากที่สุด
      ก ปัญหาครอบครัว
      ข ปัญหาการเจ็บป่วย
      ค ปัญหาความยากจน
      ง ปัญหาการถูกลวนลามหรือถูกข่มขืน
6. ข้อใดเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
จากการเช่าที่อยู่อาศัยของวัยรุ่น
      ก จัดระเบียบการเข้าพักอาศัย
      ข เปิดโอกาสให้คนนอกเข้าออกตามสบาย
      ค แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำารวจถ้าพบว่ามีสิ่งผิดปกติ
      ง ถูกทั้งข้อ ก และ ค
7. ข้อใดเป็นแนวทางในการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศจากสังคม
ที่ถูกต้องเหมาะสม
      ก จัดให้มีสถานที่ออกกำาลังกาย
      ข จัดให้มีสถานบันเทิงตอนกลางคืน
      ค จัดให้มีงานพบปะสังสรรค์ของวัยรุ่น
      ง ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดคือค่านิยมทางเพศที่นักเรียนควรนำามาปฏิบัติ
      ก ค่านิยมของชาติตะวันตก
      ข ค่านิยมไม่ชิงสุกก่อนห่าม
      ค ค่านิยมการรักนวลสงวนตัว
      ง ถูกทั้งข้อ ข และ ค

9. การปฏิบัติตามค่านิยมรักนวลสงวนตัว สามารถป้องกันภัยจากสิ่ง
ใดมากที่สุด
   ก ภัยทางเพศ
   ข ภัยจากสารเสพติด
ค ภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
    ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง


10. ใครปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง
   ก ก้อย ใช้คำาพูดสุภาพเรียบร้อย
   ข กุ้ง แต่งกายตามวัฒนธรรมไทย
   ค ตั้ม โอบเอวเพื่อนหญิงพื่อข้ามถนน
   ง จอย ไปทัศนศึกษากับเพื่อนที่โรงเรียน




                                   ตอนที ่ 4
                 วั ย รุ ่ น กั บ การคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ

กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้
ครั ้ ง ที ่ 7
หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3
       4.1 ความหมายและความสำาคัญของการคบเพื่อนต่างเพศ
       4.2 รูปแบบของการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่น
1. ให้ น ั ก เรี ย นวิ เ คราะห์ ร ู ป แบบของการคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ
ในวั ย รุ ่ น ว่ า มี อ ะไรบ้ า ง แล้ ว เขี ย นลงในผั ง ก้ า งปลาที ่
กำ า หนด
กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้
       ครั ้ ง ที ่ 8
       หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3
       1. ให้ น ั ก เรี ย นสำ า รวจพฤติ ก รรมการปฏิ บ ั ต ิ ต นในการคบ
           เพื ่ อ นต่ า งเพศในชั ้ น เรี ย นว่ า มี แ นวทางในการปฏิ บ ั ต ิ
           อย่ า งไรบ้ า ง และเขี ย นเครื ่ อ งหมายย ลงในช่ อ งว่ า งว่ า
           พฤติ ก รรมการปฏิ บ ั ต ิ ต นดั ง กล่ า วเหมาะสมหรื อ ไม่ เ หมาะ
           สม

                                                ความเหมาะสม
ที ่           รายการปฏิ บ ั ต ิ ต น         เหมาะสม ไม่ เ หมาะสม
2. ให้ น ั ก เรี ย นนำ า วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ ต นในการคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ
ที ่ ไ ม่ เ หมาะสมจากข้ อ 1 เขี ย นลงในช่ อ งว่ า งพร้ อ มบอกถึ ง
ทั ก ษะในการแก้ ไ ขปั ญ หา

                   แนวทางปฏิ บ ั ต ิ


                                                ทั ก ษะในการแก้ ไ ข
ปั ญ หา
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__


__________________________________________
__
ทั ก ษะในการแก้ ไ ขปั ญ หา
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__


__________________________________________
__




                             ทั ก ษะในการแก้ ไ ข
ปั ญ หา
 _________________________

__________________________________________
__
__________________________

__________________________________________
__
__________________________
__________________________________________
  __
  __________________________

  __________________________________________
  __


  __________________________________________
  __
   การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 4
  • เขียนเครื่องหมาย ย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1
     คะแนน)
  1. ข้อใดไม่ใช่ความสำาคัญของการคบเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่น
         ก เพื่อทำาให้ตนเองเป็นจุดเด่น
         ข เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคม
         ค เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพศ
         ง เพื่อให้รู้จักวิธีการปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศได้อย่าง
เหมาะสม
  2. บุคคลใดที่มีความสำาคัญและมีอิทธิพลต่อการดำารงชีวิตในวัยรุ่น
  มากที่สุด
         ก เพื่อน
         ข พระสงฆ์
         ค ญาติพี่น้อง
         ง ครู อาจารย์
  3. ข้อใดหมายถึงการคบเพื่อนต่างเพศ
         ก การคบหาสมาคมกับบุคคลเพศเดียวกันกับตนเอง
         ข การคบหาสมาคมกับบุคคลที่ต่างจากเพศเดียวกับตน
         ค การคบหาสมาคมกับคนภายในครอบครัวของตนเท่านั้น
         ง ถูกทุกข้อ
  4. การคบเพื่อนของวัยรุ่นถือว่าเป็นรูปแบบของพัฒนาการที่สำาคัญ
  ทางด้านใด
         ก ด้านจิตใจ
         ข ด้านสังคม
         ค ด้านร่างกาย
         ง ด้านเศรษฐกิจ
  5. ข้อใดคือข้อดีของการคบเพื่อนต่างเพศเป็นเพื่อนสนิท
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1teerachon
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกFah Philip
 
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)teerachon
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5sripayom
 
Biology bio16
 Biology bio16 Biology bio16
Biology bio16Bios Logos
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ Thitaree Samphao
 
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdfแบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdfssuser2feafc1
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีmaethaya
 
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1cookie47
 
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)ครูเฒ่าบุรีรัมย์ ย่าแก่
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3Wuttipong Tubkrathok
 
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4โครงสร้างสาระวิทย์ป.4
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4supphawan
 
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติแบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติKantiya Dornkanha
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stadnangnut
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาSuriyawaranya Asatthasonthi
 

Mais procurados (20)

แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
แบบทดสอบ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
 
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
5.แนวข้อสอบ o net สุขศึกษา(ม.3)
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
 
Biology bio16
 Biology bio16 Biology bio16
Biology bio16
 
แผนการจัดการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง ม.1
แผนการจัดการเรียนรู้  หน้าที่พลเมือง ม.1แผนการจัดการเรียนรู้  หน้าที่พลเมือง ม.1
แผนการจัดการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง ม.1
 
การแบ่งเซลล์
การแบ่งเซลล์การแบ่งเซลล์
การแบ่งเซลล์
 
ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ ต่อมไร้ท่อ
ต่อมไร้ท่อ
 
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdfแบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
 
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
14แบบทดสอบสารพันธุกรรม
 
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ม.6 ชุด 1
 
Lessonplan 4animalreproduce2
Lessonplan 4animalreproduce2Lessonplan 4animalreproduce2
Lessonplan 4animalreproduce2
 
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)
1.แบบประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมต่อต้านยาไอซ์ในโรงเรียน (1)
 
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
 
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4โครงสร้างสาระวิทย์ป.4
โครงสร้างสาระวิทย์ป.4
 
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติแบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
แบบประเมินกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stad
 
หน่วย 3
หน่วย 3 หน่วย 3
หน่วย 3
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
 

Semelhante a แบบฝึกหัดสุขศึกษา

พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2Kobchai Khamboonruang
 
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2Wichai Likitponrak
 
เล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย Newเล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย Newsavong0
 
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2Kobchai Khamboonruang
 
จุลสารโครงงานสุขภาพ
จุลสารโครงงานสุขภาพจุลสารโครงงานสุขภาพ
จุลสารโครงงานสุขภาพtassanee chaicharoen
 
เสถียรธรรมสถาน1 Copy
เสถียรธรรมสถาน1   Copyเสถียรธรรมสถาน1   Copy
เสถียรธรรมสถาน1 CopyVolunteer SdsElite
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทnokbiology
 
ชุดที่ 1 ระบบภายในร่างกาย
ชุดที่ 1  ระบบภายในร่างกายชุดที่ 1  ระบบภายในร่างกาย
ชุดที่ 1 ระบบภายในร่างกายO-SOT Kanesuna POTATO
 
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.44.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4Kruthai Kidsdee
 
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว4LIFEYES
 
สิ่งพิมพ์12
สิ่งพิมพ์12สิ่งพิมพ์12
สิ่งพิมพ์12PaChArIn27
 

Semelhante a แบบฝึกหัดสุขศึกษา (20)

พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
พื้นฐานทางสรีรวิทยาของพฤติกรรม Present2
 
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
บทที่ 3 ระบบร่างกาย ม.2
 
เล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย Newเล่ม ระบบร่างกาย New
เล่ม ระบบร่างกาย New
 
การสืบพันธ์
การสืบพันธ์การสืบพันธ์
การสืบพันธ์
 
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2
พัฒนาการของพฤติกรรมมนุษย์ Present2
 
ชุดการสอนที่ 7 ต่อมไทมัสและเนื้อเยื่ออื่นๆ
ชุดการสอนที่ 7 ต่อมไทมัสและเนื้อเยื่ออื่นๆ ชุดการสอนที่ 7 ต่อมไทมัสและเนื้อเยื่ออื่นๆ
ชุดการสอนที่ 7 ต่อมไทมัสและเนื้อเยื่ออื่นๆ
 
Body system
Body systemBody system
Body system
 
จุลสารโครงงานสุขภาพ
จุลสารโครงงานสุขภาพจุลสารโครงงานสุขภาพ
จุลสารโครงงานสุขภาพ
 
เสถียรธรรมสถาน1 Copy
เสถียรธรรมสถาน1   Copyเสถียรธรรมสถาน1   Copy
เสถียรธรรมสถาน1 Copy
 
Pb
PbPb
Pb
 
answer
answeranswer
answer
 
โครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาทโครงสร้างของระบบประสาท
โครงสร้างของระบบประสาท
 
ชุดที่ 1 ระบบภายในร่างกาย
ชุดที่ 1  ระบบภายในร่างกายชุดที่ 1  ระบบภายในร่างกาย
ชุดที่ 1 ระบบภายในร่างกาย
 
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
 
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.44.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4
4.วิเคราะห์โครงสร้างการจัดการเรียนรู้สุขศึกษาม.4
 
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
5อ 1พ เพื่อสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว
 
Chapter6
Chapter6Chapter6
Chapter6
 
สิ่งพิมพ์12
สิ่งพิมพ์12สิ่งพิมพ์12
สิ่งพิมพ์12
 
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกายชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
ชุดการสอนที่ 1ต่อมไร้ท่อ.ในร่างกาย
 
06 art50
06 art5006 art50
06 art50
 

Mais de krulam007

แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษาแบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษาkrulam007
 
องค์ประกอบร่างกาย 1
องค์ประกอบร่างกาย 1องค์ประกอบร่างกาย 1
องค์ประกอบร่างกาย 1krulam007
 
การดูนก
การดูนกการดูนก
การดูนกkrulam007
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาทkrulam007
 
Vallaballtest
VallaballtestVallaballtest
Vallaballtestkrulam007
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์krulam007
 

Mais de krulam007 (6)

แบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษาแบบฝึกหัดสุขศึกษา
แบบฝึกหัดสุขศึกษา
 
องค์ประกอบร่างกาย 1
องค์ประกอบร่างกาย 1องค์ประกอบร่างกาย 1
องค์ประกอบร่างกาย 1
 
การดูนก
การดูนกการดูนก
การดูนก
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
Vallaballtest
VallaballtestVallaballtest
Vallaballtest
 
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
 

แบบฝึกหัดสุขศึกษา

  • 1. หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ร่างกายของเรา ตอนที ่ 1 กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ ประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 1 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 1 ประกอบหัวข้อเรื่อง 1.1 ความสำาคัญและหลักการของกระบวนการสร้างเสริมและดำารง ประสิทธิภาพการทำางานของระบบ ต่าง ๆ ในร่างกาย 1.2 ระบบประสาท ๑ ให้ น ั ก เรี ย นอธิ บ ายการทำ า งานของระบบประสาทในร่ า งกาย มนุ ษ ย์ ม าพอสั ง เขป ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________
  • 2. ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ ____________________________________________ __________________________________ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 2 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 1 ประกอบหัวข้อเรื่อง 1.3 ระบบสืบพันธุ์ 1.4 ระบบต่อมไร้ท่อ 1. ให้ น ั ก เรี ย นอ่ า นข้ อ ความในข้ อ 1- 7 โดยให้ ร ะบุ ช ื ่ อ และ บอกว่ า เป็ น ส่ ว นประกอบของอวั ย วะสื บ พั น ธุ ์ เ พศชาย หรื อ อวั ย วะสื บ พั น ธุ ์ เ พศหญิ ง แล้ ว เติ ม คำ า ตอบลงในช่ อ งว่ า งท้ า ย ข้ อ ที ่ ก ำ า หนด ตั ว อย่ า ง " มีลักษณะรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยาวประมาณ 2 - 3 เซนติเมตรอยู่บริเวณปีกมดลูกแต่ละข้าง " รังไข่ อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง 1) " ทำาหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของ ทารกเมื่อครบกำาหนดคลอด " 2) " เป็นต่อมที่มีลักษณะคล้ายรูปไข่ ทำาหน้าที่สร้างตัวอสุจิ " 3) " มีรูปร่างคล้ายชมพู่ อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกราน ทำาหน้าที่เป็นที่ฝัง ตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว "
  • 3. 4) " เป็นต่อมที่อยู่ตอนต้นของท่อปัสสาวะ ทำาหน้าที่หลั่งสารที่มีฤทธิ์ เป็นด่างอ่อน ๆ " 5) " เป็นถุงของผิวหนังอยู่นอกช่องท้อง ทำาหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิให้ พอเหมาะในการสร้างตัวอสุจิ " 6) " เป็นท่อที่เชื่อมระหว่างรังไข่ทั่งสองข้างกับมดลูก ทำาหน้าที่เป็น ทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก " 7) " มีลักษณะเป็นท่อเล็ก ๆ ขอทบไปมา รูปร่างคล้ายลูกนำ้าตัวเต็ม วัย ทำาหน้าที่เก็บตัวอสุจิที่เจริญเต็มที่ " 2. ให้ น ั ก เรี ย นพิ จ ารณาภาพแสดงระบบต่ อ มไร้ ท ่ อ ในร่ า งกาย มนุ ษ ย์ และเขี ย นบอกหน้ า ที ่ ข องต่ อ มไร้ ท ่ อ ลงในช่ อ งว่ า งที ่ กำ า หนด 1) ต่อมใต้สมอง มีหน้าที่ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ 2) ต่อมไทรอยด์ มีหน้าที่ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________ 3) ต่อมพาราไทรอยด์ มีหน้าที่ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________
  • 4. 4) ต่อมไทมัส มีหน้าที่ ___________________________________________________ __________________________________ 5) ต่อมหมวกไต มีหน้าที่ ___________________________________________________ __________________________________ 6) รังไข่ มีหน้าที่ ___________________________________________________ __________________________________ 7) อัณฑะ มีหน้าที่ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________ ___________________________________________________ __________________________________ การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 1  เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 1. อธิบายความสำาคัญและหลักการ ของกระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ ประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายได้ 1. ข้ อ ใดคื อ ความสำ า คั ญ ของกระบวนการสร้ า งเสริ ม และดำ า รง ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบต่ า ง ๆ ในร่ า งกาย ก เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของบุคคล ข เพื่อให้ระบบต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ค เพื่อให้สามารถดำาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำาวันได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
  • 5. ง ถูกทุกข้อ 2. ข้ อ ใดไม่ ใ ช่ ห ลั ก การของกระบวนการสร้ า งเสริ ม และดำ า รง ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบต่ า ง ๆ ในร่ า งกาย ก รักษาอนามัยส่วนบุคคล ข ตรวจร่างกายเป็นประจำา ค ออกกำาลังกายเป็นบางครั้ง ง บริโภคอาหารที่มี ประโยชน์ 3. หลั ก การสร้ า งเสริ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการทำ า งานของระบบ ประสาทสามรถปฏิ บ ั ต ิ ไ ด้ ต ามข้ อ ใด ก มีอารมณ์ขัน ข มองโลกในแง่ดี ค พักผ่อนอย่างเพียงพอ ง ถูกทุกข้อ ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 2. อธิบายองค์ประกอบและการทำางาน ของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายได้ 4. ข้ อ ใดไม่ ใ ช่ อ งค์ ป ระกอบของระบบประสาท ก รังไข่ ข สมอง ค ไขสันหลัง ง เส้นประสาท 5. ข้ อ ใดคื อ องค์ ป ระกอบของระบบสื บ พั น ธุ ์ ใ นเพศหญิ ง ก มดลูก ข ถุงหุ้มอัณฑะ ค อัณฑะ ง ต่อมลูกหมาก 6. ต่ อ มไร้ ท ่ อ ในข้ อ ใดที ่ ม ี ค วามสำ า คั ญ ต่ อ การเจริ ญ เติ บ โต ร่ า งกาย ก ต่อมไทมัส ข ต่อมหมวกไต ค ต่อมไทรอยด์ ง ต่อมใต้สมอง ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 3. อธิบายและเสนอแนะแนวทางใน กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ ประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่าในร่างกายได้ 7. ข้อใดไม่ใช่แนวทางในการบำารุงรักษาระบบประสาท ก ไม่ใส่เสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น ข รับประทานอาหารที่ให้วิตามินบี 1 สูง ค ระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 8. ข้อใดคือวิธีบำารุงรักษาอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ ก ออกกำาลังกายสมำ่าเสมอ ข งดเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ ค ทำาความสะอาดร่างกายอย่างทั่วถึง ง ถูกทุกข้อ
  • 6. ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 4. นำาแนวทางในกระบวนการสร้างเสริม และดำารงประสิทธิภาพของกระบวนการการทำางานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย ไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำา วันอย่างสมำ่าเสมอ 9. เพื่อให้ระบบประสาททำาหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพควรปฏิบัติตาม ข้อใด ก รับประทานอาหารให้มาก ๆ ข ให้กล้ามเนื้อ สะสมไขมันมาก ๆ ค รับประทานอาหารที่ให้วิตามีนบี 1 สูง ง ถูกทุกข้อ 10. ใครสามารถดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ได้อย่างถูกต้อง ก มานพ ดื่มไวน์แดงเป็นประจำา ข สมพร สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดอยู่เสมอ ค วิชุดา ทำาความสะอาดร่างกายวันละ 1 ครั้ง ง กัลยา ใช้เสื้อผ้าร่วมกับน้องสาวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 11. การปฏิบัติในข้อใดที่ส่งผลเสียต่อระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายมาก ที่สด ุ ก วิชัย ออกกำาลังกายอย่างสมำ่าเสมอ ข อำาพร ดืมนำ้าประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน ่ ค ปราณี ไม่รับประทานอาหารประเภทโปรตีน ง มนตรี ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ 12. ใครปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ก ฤดี หลีกเลี่ยงยาชนิดต่าง ๆ ที่มีผลต่อสมอง ข ฤทัย ระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ ค สมจิต เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ง สมใจ มีความเครียดจากการทำางานและสะสมเป็นเวลานาน ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 5. ตระหนักถึงคาวามสำาคัญของ กระบวนการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของระบบ ประสาท ระบบสืบพันธุ์และระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย ๑ นั ก เรี ย นอ่ า นข้ อ ความในตารางแสดงความคิ ด เห็ น ที ่ กำ า หนดให้ แล้ ว เขี ย นเครื ่ อ งหมาย ลงในช่ อ งความคิ ด เห็ น ตามความเป็ น จริ ง ประกอบด้ ว ย ก = เห็นด้วยอย่างยิ่ง ข = ค่อนข้างเห็นด้วย ค = ไม่แน่ใจหรือกำ้ากึ่ง ง = ค่อนข้างไม่เห็น ด้วย จ = ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ข้อความ ความคิดเห็น คะแน ก ข ค ง จ น
  • 7. 1. ระบบทุกระบบในร่างกายต้องทำางาน สัมพันธ์กัน หากระบบใดทำางานผิดปกติ ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ 2. การดูแลรักษาให้อวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำาหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ ได้ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีได้ 3. ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อยู่เสมอ เพื่อดำารงประสิทธิภาพการ ทำางานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่ ในภาวะปกติ 4. มนุษย์ตะดำารงอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัย การทำางานของอวัยวะต่าง ๆ 5. ความเครียดในระบบประสาทส่งผล ให้การทำางานของระบบย่อยอาหารผิด ปกติ แบบทดสอบประจำ า หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 1 ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) 1. กลุ่มเซลล์ในร่างกายที่ร่วมกันทำาหน้าที่เฉพาะ เรียกว่าอะไร ก ระบบ ข อวัยวะ ค เนื้อเยื่อ ง เม็ดเลือด 2. เนื้อเยื่อชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันเมื่อร่วมกันทำาหน้าที่อย่างใด อย่างหนึ่งเรียกว่าอะไร
  • 8. ก เซลล์ ข ระบบ ค อวัยวะ ง เนื้อเยื่อ 3. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ก ระบบสืบพันธุ์ช่วยในการสืบทอดเผ่าพันธุ์ ข ระบบประสาทจะประกอบด้วยเส้นประสาทเท่านั้น ค ระบบประสาทช่วยควบคุมการทำางานของอวัยวะทุกส่วน ง ระบบต่อมไร้ท่อผลิตฮอร์โมนไปตามกระแสเลือดสู่อวัยวะเป้า หมาย 4. ข้อใดไม่ใช่การรักษาอนามัยส่วนบุคคลเพื่อดำารงประสิทธิภาพการ ทำางานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ก อาบนำ้าให้สะอาดทุกวัน ข ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้สั้น ค สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่อับชื้น ง สระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 5. ข้อใดคือองค์ประกอบของระบบประสาท ก สมอง ท่อปัสสาวะ และไขสันหลัง ข สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท ค รังไข่ มดลูก และกระเพาะปัสสาวะ ง อัณฑะ ต่อมลูกหมาก และเส้นประสาท 6. ระบบประสาทส่วนกลางประกอบด้วยอะไร ก สมอง และไขสันหลัง ข สมอง และเส้นประสาทสมอง ค เส้นประสาทสมอง และไขสันหลัง ง เส้นประสาทสมอง และเส้นประสาทไขสันหลัง 7. สมองของคนเราแบ่งออกเป็นกี่ชั้น ก 1 ชั้น ข 2 ชั้น ค 3 ชั้น ง 4 ชั้น 8. สมองชั้นนอกที่มีสีเทา เรียกว่าอะไร ก ไวท์แมตเตอร์ ข พิงค์แมตเตอร์ ค กรีนแมตเตอร์ ง เกรย์แมตเตอร์ 9. สมองชั้นในที่มีขาว เรียกว่าอะไร ก ไวท์แมตเตอร์ ข พิงค์แมตเตอร์ ค กรีนแมตเตอร์ ง เกรย์แมตเตอร์ 10. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของสมอง
  • 9. ก ซีรีบรัม ข ทาลามัส ค ไฮโพทาลามัส ง ต่อมคาวเปอร์ 11. ส่วนใดของสมองที่มีหน้าที่เกี่ยวกับความจำาความนึกคิด และไหว พริบ ก พอนส์ ข ซีรับรัม ค ทาลามัส ง ซีรีเบลลัม 12. สมองส่วนใดที่ทำาหน้าที่ควบคุมการเคี้ยวอาหารและการหลั่งนำ้าลาย ก พอนส์ ข ซีรับรัม ค ทาลามัส ง ซีรีเบลลัม 13. การเคลื่อนไหวลูกตาและม่านตาจะถูกควบคุมโดยสมองส่วนใด ก สมองส่วนหน้า ข สมองส่วนท้าย ค สมองส่วนกลาง ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 14. สมองส่วนกลาง พอนส์ แบะเมดัลลาออบลองกาตา ทั้ง 3 ส่วนนี้ รวมกันเรียกว่าอะไร ก ไขสันหลัง ข ก้านสมอง ค ปลายประสาท ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 15. ข้อใดจัดว่าเป็นปฏิกิริยารีเฟลกซ์ ก การร้องเมื่อเจ็บปวด ข การหลั่งนำ้าตาเมื่อเกิดการเสียใจ ค การกระตุกมือหนีทันทีเมื่อถูกของร้อน ง ความสามารถในการแบกตู้หนัก ๆ หนีไฟไหม้ 16. เส้นประสาทสมองมีจำานวนกี่คู่ ก 6 คู่ ข 12 คู่ ค 16 คู่ ง 22 คู่ 17. เส้นประสาทไขสันกลังมีจำานวนกี่คู่ ก 14 คู่ ข 21 คู่ ค 31 คู่ ง 41 คู่ 18. ระบบประสาทอัตโนมัติจะควบคุมการทำางานในข้อใด ก การกะพริบตา ข การเคี้ยวอาหาร ค การหลั่งนำ้าย่อย ง การเคลื่อนไหวร่างกาย 19. ปฏิกิริยารีเฟลกซ์อยู่ในความควบคุมของข้อใด
  • 10. ก เมดัลลา ข ไขสันหลัง ค สมองส่วนท้าย ง สมองส่วนกลาง 20. หากสมองส่วนซีรีบรัมได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงอาจ ทำาให้เกิดผลอย่างไรต่อร่างกาย ก ทำาให้ความจำาเสื่อม ข ทำาให้หัวใจเต้นผิดปกติ ค ทำาให้กระดูกสันหลังหัก ง ทำาให้การเคลื่อนไหวช้าลง 21. บุคคลในข้อใดเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม ก กานดา รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำา ข นุสรา พักผ่อนสมองด้วยการนอนหลับ ค ภาวิณี คลายเครียดด้วยการออกกำาลังกาย ง โอภาส ชอบดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เป็นประจำา 22. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย ก รังไข่ มดลูก และกระเพาะปัสสาวะ ข อัณฑะ ถุงหุ้มอัณฑะ และต่อมลูกหมาก ค อัณฑะ ต่อมลูกหมาก และต่อมคาวเปอร์ ง หลอดเก็บตัวอสุจิ ต่อมลูกหมาก และต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ 23. ข้อใดคือหน้าที่ของอัณฑะ ก สร้างตัวอสุจิ ข ลำาเลียงตัวอสุจิ ค เก็บตัวอสุจิที่เจริญเต็มที่ ง หลั่งสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ 24. ตัวสุจิจะเจริญได้ดีที่อณหภูมิตำ่ากว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย ุ ประมาณกี่องศา ก 1-2 องศาเซลเซียส ข 3-5 องศาเซลเซียส ค 6-8 องศาเซลเซียส ง 9-11 องศาเซลเซียส 25. ในเพศชายจะเริ่มสร้างตัวอสุจิเมื่ออายุเท่าใด ก 5-8 ปี ข 9-11 ปี ค 12-13 ปี ง 14-17 ปี
  • 11. 26. ต่อมชนิดใดที่ทำาหน้าที่หลั่งสารไปหล่อลื่นท่อปัสสาวะในขณะที่เกิด การกระตุ้นทางเพศ ก ต่อมไทมัส ข ต่อมคาวเปอร์ ค ต่อมลูกหมาก ง ต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ 27. ปริมาฯนำ้าอสุจิและตัวอสุจิจะแตกต่างกันไปตามข้อใด ก เชื้อชาติ ข สภาพแวดล้อม ค ความแข็งแรงของร่างกาย ง ถูกทุกข้อ 28. ถ้าหากตัวอสุจิมีรูปร่างผิดปกติมากกว่าร้อยละเท่าใดจะมีโอกาสเป็น หมันในเพศชาย ก ร้อยละ 10 ข ร้อยละ 15 ค ร้อยละ 25 ง ร้อยละ 30 29. ตัวอสุจิเมื่อออกสู่ภายนอกจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ชั่วโมง ก 1 ชั่วโมง ข 2-3 ชั่วโมง ค 4-6 ชั่วโมง ง 8-10 ชั่วโมง 30. ข้อใดคือส่วนประกอบของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง ก รังไข่ ท่อนำาไข่ และช่องคลอด ข อัณฑะ หลอดนำาตัวอสุจิ และต่อมคาวเปอร์ ค ถุงหุ้มอัณฑะ หลอดนำาตัวอสุจิ และต่อมลูกหมาก ง ต่อมคาวเปอร์ ต่อมลูกหมาก และต่อมสร้างนำ้าเลี้ยงอสุจิ 31. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของรังไข่ ก ผลิตไข่ในเพศหญิง ข สร้างฮอร์โมนเอสโทรเจน ค สร้างฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน ง เป็นทางผ่านของไข่เข้าสู่มดลูก 32. การเกิดเสียงแหลมเล็ก สะโพกผายแบะการขยายขนาดของ หน้าอกในเพศหญิงเกิดจากฮอร์โมนชนิดใด ก ไทรอกซิน ข เอสโทรเจน ค โพรเจสเทอโรน ง เทสโทสเตอโรน 33. ข้อใดคือหน้าที่ของท่อนำาไข่หรือปีกมดลูก
  • 12. ก ผลิตไข่ในเพศหญิง ข สร้างฮอร์โมนเพศหญิง ค เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ง เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก 34. ผนังขอมดลูกประกอบด้วยกล้ามเนื้อชนิดใด ก กล้ามเนื้อลายที่หนา ข กล้ามเนื้อลายที่บาง ค กล้ามเนื้อเรียบที่หนา ง กล้ามเนื้อเรียบที่บาง 35. ข้อใดคือลักษณะของมดลูกในเพศหญิง ก ยืดหดได้มากเป็นพิเศษ ข อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกราน ค ผนังเป็นกล้ามเนื้อเรียบที่หนา ง ถูกทุกข้อ 36. มดลูกประกอบด้วยโครงสร้างกี่ชั้น ก 1 ชั้น ข 2 ชั้น ค 3 ชั้น ง 4 ชั้น 37. ข้อใดคือลักษณะของเยื่อบุมดลูก ก มีเยื่อบาง ๆ ปกคลุมอยู่ ข เป็นกล้ามเนื้อเรียบที่หนา ค มีลักษณะรูปร่างคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ง มีลักษณะบาง เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ปฏิบัติ 38. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของช่องคลอด ก เป็นทางผ่านของตัวอสุจิ ข ผลิตฮอร์โมนของเพศหญิง ค เป็นทางออกของทารกเมื่อครบกำาหนดคลอด ง เป็นช่องให้ประจำาเดือนออกมาสู่ภายนอก 39. ข้อใดคือผลเสียของแอลกอฮอล์ที่มีตอระบบสืบพันธุ์ในเพศชาย ่ ก เกิดการเปลี่ยนแปลาเรื่องเพศ ข ทำาให้สมรรถภาพทางเพศลดลง ค ทำาให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ง ถูกทุกข้อ 40. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่ถูกต้องในการดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ของ ร่างกาย ก สุชาดา สวมใส่เสื้อผ้าชำ้า ๆ กันเป็นประจำา ข สนีย์ รับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ค อารีย์ ทำาความสะอาดร่างกายวันละ 2 ครั้ง ง จารุณี งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • 13. 41. ระบบต่อมไร้ท่อเป็นระบบที่ผลิตอะไร ก นำ้าดี ข นำ้าย่อย ค เอนไซม์ ง ฮอร์โมน 42. ระบบต่อมไร้ท่อจะทำางานโดยประสานกับระบบใด ก ระบบหายใจ ข ระบบขับถ่าย ค ระบบประสาท ง ระบบย่อยอาหาร 43. ต่อมใต้สมองส่วนใดเป็นศูนย์ควบคุมใหญ่ของร่างกาย ก ต่อใต้สมองส่วนข้าง ข ต่อมใต้สมองส่วนล่าง ค ต่อมใต้สมองส่วนหน้า ง โพรเจสเทอโรน 44. ฮอร์โมนในข้อใดที่สร้างจากต่อมหมวกไต ก ไทรอกซิน ข เอสโทรเจน ค อะดรีนาลิน ง โพรเจสเทอโรน 45. ไทรอกซินเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใด ก ต่อมไทมัส ข ต่อมไรอยด์ ค ต่อมหมอกได ง ต่อมพาราไทรอยด์ 46. ฮอร์โมนใดทำาหน้าที่ควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายให้อยู่ ในระดับที่เหมาะสม ก ไทรอกซิน ข พาราฮอร์โมน ค ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน ง ฮอร์โมนเทศโทสเตอโรน 47. ฮอร์โมนชนิดใดสร้างมาจากต่อมเดียวกัน ก thyroxin กับ cortisol ข adrenalin กับ cortisol ค prolactin กับ adrenalin
  • 14. ง testosterone กับ thyroxin 48. ต่อมไร้ท่อชนิดใดจะมีขนาดใหญ่ในทารกแรกเกิดและจะค่อย ๆ เล็กลงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ก ต่อมไทมัส ข ต่อมไรอยด์ ค ต่อมหมอกได ง ต่อมพาราไทรอยด์ 49. ถ้าหากต่อมที่อยู่ใต้ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินจะ ทำาให้เกิดโรคใด ก โรคหัวใจ ข โรคมะเร็ง ค โรคคอพอก ง โรคเบาหวาน 50. เพื่อให้ระบบต่อมไร้ท่อมีประสิทธิภาพควรปฏิบัติตามข้อใด ก ลดอาหารที่มีรสหวานจัด ข ดื่มนำ้าในปริมาณที่เพียงพอ ค งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ง ถูกทุกข้อ ตอนที ่ 2 ให้นักเรียนตอบคำาถามต่อไปนี้ 1.หลักของระบบการสร้างเสริมและดำารงประสิทธิภาพการทำางานของ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีอะไรบ้าง (10 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ 2.นักเรียนมีแนวทางในการบำารุงรักษาระบบประสาทอย่างไร(10 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________
  • 15. ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ 3.หากเกิดความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ในร่างกาย นักเรียนจะปฏิบัติตน อย่างไร(10 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________ 4.นักเรียนคิดว่าฮอร์โมนจะทำางานประสานกับระบบประสาทได้อย่างไร บ้าง จงอธิบาย(10 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________ 5.นักเรียนมีวิธีการแนะนำาวิธีบำารุงรักษาระบบต่อมไร้ท่อแก่สมาชิกใน ครอบครัวอย่างไรบ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่างมาพอสังเขป(10 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________
  • 16. ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ __________________________________ หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2 สร้ า งกายให้ เ กิ ด สุ ข ตอนที ่ 2 การวางแผนดู แ ลสุ ข ภาพของ บุ ค คลในครอบครั ว ชุ ม ชน และสั ง คม ครั ้ ง ที ่ 3 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2 1.ให้ น ั ก เรี ย นตอบคำ า ถามต่ อ ไปนี ้ ใ ห้ ถ ู ก ต้ อ ง 1) การวางแผนดูแลสุขภาพ หมายถึง
  • 17. ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________ 2) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว หมายถึง ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________ 3) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชน หมายถึง ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________ 4) การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในสังคม หมายถึง ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________ ___________________________________________________ ____________________________
  • 18. 2.ให้ น ั ก เรี ย นสรุ ป แนวทางในการวางแผนดู แ ลสุ ข ภาพของ บุ ค คลในครอบครั ว ลงในแผนผั ง ที ่ ก ำ า หนด วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ _______________________ ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ _______________________ ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ การดู แ ลสุ ข ภาพของ บุ ค คลในครอบครั ว วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ _______________________ ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น _______________________ _____________________________
  • 19. _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ _______________________ ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ _______________________ _____________________________ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 4 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2 • ให้ น ั ก เรี ย นนำ า เสนอโครงการสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพใน ชุ ม ชนและสั ง คมของตนเองมา 1 โครงการ โดยบั น ทึ ก ผลลงในแบบบั น ทึ ก แบบบั น ทึ ก ผล 1) ชื ่ อ โครงงาน 2) หลั ก การและเหตุ ผ ล 3) วั ต ถุ ป ระสงค์ 4) กลุ ่ ม เป้ า หมาย 5) วิ ธ ี ด ำ า เนิ น การ
  • 20. 6) ระยะเวลาดำ า เนิ น การ 7) สถานที ่ ด ำ า เนิ น การ 8) งบประมาณ 9) ผลที ่ ค าดว่ า จะได้ ร ั บ 10)ผู ้ ร ั บ ผิ ด ชอบโครงการ คำ า ถามจากโครงงานที ่ น ำ า เสนอ 1) ให้นักเรียนบอกผลดีของโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนและ สังคมของนักเรียนว่ามีผลดีต่อสุขภาพอย่างไร _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _ 2) การทำาให้บุคคลในชุมชนมีสุขภาพที่ดีได้นั้น ต้องอาศัยความร่วม มือจากฝ่ายใดบ้าง ให้ยกตัวอย่างพร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _ 3) ในชุมชนของนักเรียนมีหน่วยงานที่ให้คำาปรึกษาในการวางแผน ดูแลสุขภาพอะไรบ้าง _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________
  • 21. _________________________________________________ _ การวัดและประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ตอนที่ 2 • เขียนเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง 1. การวางแผนดูแลสุขภาพมีประโยชน์อย่างไร ก. เพื่อการมีสุขภาพที่ดี ข. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ค. เพื่อให้ดำารงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ง. ถูกทุกข้อ 2. การดูแลสุขภาพนั้นจะต้องเริ่มจากที่ใดเป็นลำาดับแรก ก. บุคคล ข. ชุมชน ค. สังคม ง. เพื่อนบ้าน 3. บุคคลใดที่มีส่วนสำาคัญในการวางแผนดูแลสุขภาพให้กับเด็กมาก ที่สด ุ ก. ครู ข. พ่อแม่ ค. ญาติพี่น้อง ง. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 4. ข้อใดคือแนวทางในการดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว ก. การพักผ่อน ข. การตรวจสุขภาพ ค. การออกกำาลังกาย ง. ถูกทุกข้อ 5. เด็กวัยเรียนควรตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยกี่เดือนต่อครั้ง ก. 1 เดือนต่อครั้ง ข. 4 เดือนต่อครั้ง ค. 8 เดือนต่อครั้ง ง. 12 เดือนต่อครั้ง 6. บุคคลใดปฏิบัติตนได้ถูกต้อง ก. นก ก้าวลงจากรถประจำาทางแล้วรีบข้ามถนนทันที ข. น้อย ขับรถอย่างระมัดระวังเมื่อตนเองดื่มสุรา ค. นัท ลงจากรถยนต์ส่วนบุคคลทางประตูด้านขวามือ ง. นุช คาดเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
  • 22. 7. ข้อใดคือแนวทางการวางแผนดูแลสุขภาพจิตของคนในชุมชนที่ ถูกต้อง ก. จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในชุมชน ข. จัดให้มีสวนสาธารณะในชุมชน ค. จัดให้มีการแข่งขันกีฬาภายในชุมชน ง. ถูกทุกข้อ 8. บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเสี่ยงและส่งผลถึงสุขภาพของบุคคลอื่นใน สังคม ก. วันชัย ปลูกต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ ข. มานพ สูบบุหรี่บนรถโดยสารประจำาทาง ค. วันดี ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับครอบครัว ง. สุชาติ จอดรถเมื่อเห็นคนชราจะข้ามถนนบนทางม้าลาย 9. เมื่อนักเรียนมีปัญหาด้านการวางแผนดูแลสุขภาพจะขอรับคำา ปรึกษาจากผู้ใด ก. เพื่อนบ้าน ข. ผู้ใหญ่บ้าน ค. สถานีตำารวจ ง. สถานีบริการสาธารณสุข 10. โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพจะมุ่งเน้นในเรื่องใด ก. การรักษาพยาบาล ข. การป้องกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค. การวางแผนครอบครัวและการป้องกันโรค ง. การสร้างเสริมสุขภาพด้วยตนเองของประชาชน 11. ข้อใดคือผลดีของโครงการสุขภาพในชุมชน ก. คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ข. ทำาให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีอย่างถ้วนหน้า ค. ทำาให้มีสิ่งอำานวยความสะดวกต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ง. ถูกทุกข้อ 12. ในกรณีที่เรามีการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย สถานบริการ สาธารณสุขในข้อใดที่มีความเหมาะสมในการเข้ารับบริการ ก. คลินิกในชุมชน ข. โรงพยาบาลเอกชน ค. สาธารณสุขประจำาชุมชน ง. ร้านขายยาประจำาหมู่บ้าน
  • 23. แบบทดสอบประจำ า หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 2 ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง 1. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์จากการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคล ก. เพื่อการมีสุขภาพที่ดี ข. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ยั่งยืน ค. เพื่อให้บุคคลมีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น ง. เพื่อให้ดำารงชีวิตอยู่ในสังคมโดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ 2. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวจะมีหลักปฏิบัติ เหมือนกัน ข. การวางแผนการดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชนทุกคนไม่ จำาเป็นต้องร่วมกันปฏิบัติ ค. ภาวะสุขภาพที่เกิดขึ้นในครอบครัว ชุมชน และสังคม ล้วนมีผล ต่อสุขภาพของคนเรา ง. ถูกทุกข้อ 3. ข้อใดไม่ใช่แนวทางในการดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว ก. ออกกำาลังกายอย่างสมำ่าเสมอ ข. ตรวจสุขภาพอย่างน้อย 3 ปีต่อครั้ง ค. รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ ง. ทำากิจกรรมนันทนาการเพื่อผ่อนคลายความเครียด 4. บุคคลใดมีสุขนินัยที่ดีในการรับประทานอาหาร ก. แนน ชอบรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ข. ต้อม เลือกรับประทานอาหารที่ตนเองชอบ ค. อุย เลือกรับประทานอาหารที่ใหม่สะอาด ๋ ง. ดวง รับประทานผักและผลไม้เป็นอาหารเช้าเพื่อลดความอ้วน
  • 24. นำ า อั ก ษรหน้ า คำ า ตอบต่ อ ไปนี ้ เ ติ ม ลงในช่ อ งว่ า งท้ า ยคำ า ตอบ ข้ อ 5 -7 ก วัยเด็ก ข วัยผู้ใหญ่ ค วัยผู้สูง อายุ 5. "การจัดอาหารควรเน้นอาหารที่ให้พลังงานและครบทั้ง 5 หมู่" ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด _________________________ 6. "อาหารที่รับประทานควรจะเป็นอาหารในกลุ่มที่ช่วยส่งเสริมการ เจริญเติบโตและครบทั้ง 5 หมู่" ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด _________________________ 7. "อาหารที่รับประทานอาหารควรจะเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์แบบ ย่อยง่าย โดยเฉพาะเนื้อปลาและควรลดอาหารประเภทแป้งและไข มัน" ข้ อ ความดั ง กล่ า วเป็ น แนวทางการจั ด อาหารสำ า หรั บ วั ย ใด _________________________ 8. หากในครอบครัวนักเรียนมีบุคคลที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง ควร หลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด ก. ผักและผลไม้ ข. ธัญพืชต่าง ๆ ค. เนื้อสัตว์ตดมัน ิ ง. ถูกทุกข้อ 9. ข้อใดไม่ใช่หลักการวางแผนการออกกำาลังกายที่ถูกต้อง ก. กำาหนดโปรแกรมการออกกำาลังกาย ข. ในกรณีที่มีโรคประจำาตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการออกกำาลัง กาย ค. เลือกกิจกรรมการออกกำาลังกายตามความพึงพอใจของตนเอง เป็นสำาคัญ ง. เตรียมอุปกรณ์การออกกำาลังกายให้เหมาะสมกับชนิดของการ ออกกำาลังกาย 10. การรำามวยจีนคือรูปแบบการออกกำาลังกายที่เหมาะสมกับวัยใด มากที่สุด ก. วัยรุ่น ข. วัยเด็ก ค. วัยทารก ง. วัยผู้สูงอายุ
  • 25. 11. ข้อใดเป็นการกำาหนดโปรแกรมการออกกำาลังกายที่ไม่เหมาะสม ก. ออกกำาลังกายครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที ข. ออกกำาลังกายสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 3 วัน ค. ออกกำาลังกายครั้งละไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ง. ไม่มีขอใดถูกต้อง ้ 12. การวางแผนการออกกำาลังกายเพื่อสุขภาพควรคำานึงถึงเรี่องใด ก. ความเหมาะสมในเรื่องวัย ข. ความเหมาะสมในเรื่องเพศ ค. ความเหมาะสมกับสภาพร่างกาย ง. ถูกทุกข้อ 13. กิจกรรมใดถือว่าเป็นการพักผ่อนเพื่อการมีสุขภาพที่ดี ก. การนอนหลับ ข. การอ่านหนังสือนิยาย ค. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ง. การเที่ยวสถานบันเทิงตอนกลางคืน 14. บุคคลใดวางแผนการพักผ่อนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก. ขวัญ นอนหลับวันละ 4 ชั่วโมง ข. ทราย เรียนพิเศษหลังเลิกเรียนทุกวัน ค. บอย เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทุกวันหลังเลิกเรียน ง. อ้อย ฝึกเรียนดนตรีหลังเลิกจากการเรียนหนังสือ 15. ในทารกแรกเกิดควรให้นอนหลับวันละประมาณกี่ชั่วโมง ก. 2 - 3 ชั่วโมง ข. 8 - 9 ชั่วโมง ค. 10 - 15 ชั่วโมง ง. 18 - 20 ชั่วโมง 16. การวางแผนเลือกกิจกรรมนันทนาการควรยึดหลักตามข้อใด ก. ความเหมาะสมกับวัยและสุขภาพร่างกาย ข. ต้องเป็นกิจกรรมตามความสนใจและความถนัด ค. ต้องเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมปฏิบัติในบุคคลทั่วไป ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข 17. กิจกรรมใดที่จัดว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง ก. การนอนหลับ ข. การเรียนพิเศษ ค. การอ่านหนังสือการ์ตูน
  • 26. ง. ถูกทุกข้อ 18. ข้อใดคือผลเสียของการเกิดอาการเจ็บป่วย ก. ทำาให้ครอบครัวต้องเสียเงินในการรักษา ข. ก่อให้เกิดความเครียดส่งผลต่อสุขภาพจิต ค. อาจส่งผลให้สมาชิกคนอื่นในครอบครัวติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ ง. ถูกทุกข้อ 19. หากนักเรียนพบความผิดปกติหรือมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นควร ปฏิบัติอย่างไร ก รีบไปปรึกษาเพื่อนบ้านทันที ข รับไปพบแพทย์เพื่อทำาการรักษา ค ปล่อยไว้เฉย ๆ อีกไม่นานก็หายเอง ง ไปซื้อยาจากร้านขายยามารับประทาน 20. บุคคลใดวางแผนการตรวจสุขภาพและเสริมสร้างความต้านทาน โรคได้อย่างถูกต้อง ก เก๋ ไปตรวจสุขภาพ 2 ปีต่อครั้ง ข แตง เข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ค แก้ม ไปตรวจสุขภาพฟันเมื่อมีอาการปวดฟัน ง จิ๊บ มีอาการป่วยจึงไปซื้อยามารับประทาน 21. ข้อใดคือการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในชุมชนที่เหมาะ สม ก จัดให้มีกองทุนกู้ยืมเงิน ข จัดให้มีศูนย์อนามัยชุมชน ค จัดให้มอาสาสมัครสาธารณสุประจำาหมู่บ้าน ี ง ถูกทั้งข้อ ข และ ค 22. ข้อใดไม่ใช่วิธีการวางแผนดูแลสุขภาพจิตของบุคคลในชุมชน ก จัดแข่งกีฬาภายในชุมชน ข จัดตั้งชมรมอาสากู้ภัยในชุมชน ค จัดกิจกรรมนันทนาการในชุมชน ง จัดให้มีสวนสาธารณะภายในชุมชน 23. การวางแผนดูแลสุขภาพทางจิตของบุคคลในชุมชนควรเป็น หน้าที่ของใคร ก พระภิกษุ ข ผู้ใหญ่บ้า ค ทุกคนในชุมชน ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
  • 27. 24. ข้อใดไม่ใช่อุบัติภัยที่เกิดขึ้นในสังคม ก อุบัติภัยจากการจราจรทางนำ้า ข อุบัติภัยจากการราจรทางบก ค การเจ็บป่วยของบุคคลภายในบ้าน ง ภัยจากสถานที่ที่เข้าไปใช้บริการ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรง ภาพยนตร์ 25. การเกิดอุบัติภัยก่อให้เกิดปัญหาใดในสังคม ก ความสูญเสียทางด้านร่างกาย ข ความสูญเสียทางด้านทรัพย์สิน ค ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจ ง ถูกทุกข้อ 26. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง ก นพ ไม่ดื่มสุราขณะขับรส ข นก ข้ามถนนบนทางข้ามที่กำาหนด ค นัท ลงจากรถประจำาทางนอกป้ายจอดรถ ง แนน คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งขณะขับรถ 27. ข้อใดคือการวางแผนเพื่อป้องกันอุบัติภัยจากการจราจรอย่างถูก ต้อง ก ตรวจสภาพรถก่อนนำาออกมาใช้ ข ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ค ถ้ามีอาการง่วงนอนให้จอดรถเพื่อหยุดพัก ง ถูกทุกข้อ 28. ข้อใดเป็นการป้องกันอุบัติภัยจากการเดินบนทางเท้าที่ถูกต้อง ก ถ้าไม่มีทางเท้าให้เดินชิดขวามือ ข ข้ามถนนในบริเวณที่มีความสะดวก ค เดินชิดขอบถนนทุกครั้งในการเดินเท้า ง ถูกทุกข้อ 29. เมื่อนักเรียนจะต้องโดยสารเรือควรวางแผนเพื่อป้องกันการเกิด อุบัติภัยอย่างไร ก ควรสวมเสื้อผ้าที่หนาและหนัก ข ขณะยืนรอเรือควรยืนรอบนโป๊ะ ค ให้รีบขึ้นและลงเรือโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา ง หากว่ายนำ้าไม่เป็นควรใส่เสื้อชูชีพขณะโดยสารเรือ 30. ข้อใดคือการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องขณะโดยสารเครื่องบิน ก รัดเข็มขัดที่นั่งตลอดการบิน ข ใช้อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
  • 28. ค ปฏิบัติตามคำาแนะนำาของเจ้าหน้าที่ ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 31. ข้อใดไม่จัดว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงของบุคคลในสังคม ก สูบบุหรี่เพียงครึ่งมวน ข ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ค เล่นดนตรีกับเพื่อนหลังเลิกเรียน ง ใช้ถุงยางอนามัยหลังมีเพศสัมพันธ์ 32. บุคคลใดสามารถป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อตนเองและต่อบุคคล อืน ่ ก ตุ่น ดื่มสุราเมื่อมีงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน ข หน่อย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ทุกมื้อ ค หนุ่ย งดสูบบุหรี่เมื่อโดยสารรถประจำาทาง ง อ้น ชะลอรถทันทีที่เห็นคนข้ามถนนบนทางม้าลาย 33. ข้อใดคือการมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม ก การมีคู่นอนเพียงคนเดียว ข ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ค ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ง ถูกทุกข้อ 34. บุคคลใดปฏิบัติคนไม่ถูกต้อง ก อุ้ม ทิ้งขยะลงบนพื้นสวนสาธารณะ ข ต้าร์ จัดบ้านของตนเองให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ ค เมฆ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ชุมชนจัดขึ้น ง ฟ้า ช่วยกำาจัดแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคในบริเวณชุมชนของ ตนเอง 35. ข้อใดคือโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชน ก โครงการทูบีนัมเบอร์วัน ข โครงการขยับกายสบายชีวี ค โครงการชมรมสร้างสุขภาพ ง ถูกทุกข้อ 36. ข้อใดคือเป้าหมายของโครงการเมืองน่าอยู่ชุมชนน่าอยู่ ก จัดหางานให้กับคนในชุมชน ข ทำาให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ค สร้างความเข้มแข็งของชุมชนและให้ประชาชนมีสุขภาพดี ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 37. ศูนย์สุขภาพชุมชนเป็นการจัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใด
  • 29. ก ให้บริการทางการแพทย์ ข การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ค พัฒนาความรู้ของประชาชนในการดูแลตนเองยามเจ็บป่วย ง ถูกทุกข้อ 38. การดำาเนินโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนเป็นความรับผิด ชอบของหน่วยงานใด ก กระทรวงกลาโหม ข กระทรวงมหาดไทย ค กระทรวงวัฒนธรรม ง กระทรวงสาธรณสุข 39. ข้อใดคือการดำาเนินงานของชมรมสร้างเสริมสุขภาพ ก จัดกิจกรรมการออกกำาลังกาย ข จัดกิจกรรมเรื่องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ค เสริมสร้างทักษะเรื่องอารมณ์ อนามัยชุมชน และอโรคยา ง ถูกทุกข้อ 40. หน่วยงานใดไม่ใช่หน่วยงานที่ให้คำาปรึกษาในการวางแผนดูแล สุขภาพ ก ครินิกในชุมชน ข มูลนิธิร่วมกตัญญู ค โรงพยาบาลชุมชน ง ศูนย์บริการสาธารณสุข ตอนที ่ 2 ให้ น ั ก เรี ย นตอบคำ า ถามต่ อ ไปนี ้ 1. นักเรียนมีแนวทางในการวางแผนดูแลสุขภาพ ของบุคคลใน ครอบครัวอย่างไรบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง (20 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________
  • 30. ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ 2. การวางแผนดูแลสุขภาพทางกายของบุคคลในชุมชนทำาได้ อย่างไรบ้าง จงอธิบาย (20 คะแนน) ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ _________________ 3. นักเรียนสามารถวางแผนป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงของบุคคลใน สังคมได้อย่างไรบ้าง จงอธิบาย (20 คะแนน) _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________
  • 31. _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ ____ หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3 สั ม พั น ธภาพสร้ า งมิ ต ร ตอนที ่ 3 วั ย รุ ่ น กั บ ปั จ จั ย ทางสั ง คมที ่ ส ่ ง ผล ต่ อ พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 5 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3 ประกอบหัวข้อเรื่อง 3.1 ปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ 3.2 ลักษณะและผลกระทบของปัจจัยทางสังคมที่ก่อให้เกิด พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ • ให้ น ั ก เรี ย นหาข่ า วหรื อ เหตุ ก ารณ์ ต ่ า ง ๆ จากสื ่ อ หนั ง สื อ พิ ม พ์ ท ี ่ เ กี ่ ย วข้ อ งกั บ ปั ญ หาของวั ย รุ ่ น กั บ พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศมา 1 ข่ า ว โดยวิ เ คราะห์ ถ ึ ง สาเหตุ แ บะผลกระทบที ่ เ กิ ด ขึ ้ น แล้ ว แสดงความคิ ด เห็ น ถึ ง แนวทางในการแก้ ไ ขปั ญ หาที ่ เ กิ ด ขึ ้ น สาระของข่าว : _________________________________________________
  • 32. _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _ สาเหตุของปัญหา : _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _ ผลกระทบที่เกิดขึ้น : _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _ แนวทางในการแก้ไขปัญหา : _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ _________________________________________________ __ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 6 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3 ประกอบหัวข้อเรื่อง
  • 33. 3.3 แนวทางในการป้องกันปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลให้เกิด พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ 3.4 ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำาเนินชีวิต • ให้ น ั ก เรี ย นเขี ย นแผนที ่ ค วามคิ ด (mind mapping) เพื ่ อ แสดงถึ ง แนวทางในการป้ อ งกั น ปั จ จั ย ทางสั ง คมที ่ ส ่ ง ผลให้ เ กิ ด พฤติ ก รรมเสี ่ ย งทางเพศลงในกรอบที ่ ก ำ า หนด การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 3 • เขียนเครื่องหมาย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) ผลการเรี ย นรู ้ ท ี ่ ค าดหวั ง 1. อธิบายความหมายและความสำาคัญ ของปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศได้ 1. ข้อใดคือปัจจัยสำาคัญที่ส่งผลต่อการมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศได้ โดยง่ายในปัจจุบัน ก สภาพสังคม ข สภาพครอบครัว ค ฐานะทางเศรษฐกิจ ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 2. ข้อใดคือปัจจัยทางสังคมที่มีความสำาคัญต่อพฤติกรรมเสี่ยงทาง เพศของวัยรุ่น ก อิทธิพลของสื่อ ข ค่านิยมทางเพศของวัยรุ่น ค ลักษณะของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ง ถูกทุกข้อ 3. ข้อใดหมายถึงปัจจัยทางสังคมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ก สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางสังคมที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัยรุ่นมี พฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม ข สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัย รุ่นมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ เหมาะสม
  • 34. ค สภาวการณ์ต่าง ๆ ทางครอบครัวที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้วัย รุ่นมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ เหมาะสม ง ถูกทุกข้อ 4. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยทางสังคมที่นำาไปสู่ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงทาง เพศของวัยรุ่น ก การเที่ยวต่างจังหวัด ข การพักอยู่กับผู้ปกครองต่างจังหวัด ค การเช่าที่อยู่อาศัยอย่างอิสระของวัยรุ่น ง การพบปะสังสรรค์กลางคืนของวัยรุน 5. การเช่าที่พักอาศัยอยู่อย่างอิสระของวัยรุ่นเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา ใดมากที่สุด ก ปัญหาครอบครัว ข ปัญหาการเจ็บป่วย ค ปัญหาความยากจน ง ปัญหาการถูกลวนลามหรือถูกข่มขืน 6. ข้อใดเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ จากการเช่าที่อยู่อาศัยของวัยรุ่น ก จัดระเบียบการเข้าพักอาศัย ข เปิดโอกาสให้คนนอกเข้าออกตามสบาย ค แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำารวจถ้าพบว่ามีสิ่งผิดปกติ ง ถูกทั้งข้อ ก และ ค 7. ข้อใดเป็นแนวทางในการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศจากสังคม ที่ถูกต้องเหมาะสม ก จัดให้มีสถานที่ออกกำาลังกาย ข จัดให้มีสถานบันเทิงตอนกลางคืน ค จัดให้มีงานพบปะสังสรรค์ของวัยรุ่น ง ถูกทุกข้อ 8. ข้อใดคือค่านิยมทางเพศที่นักเรียนควรนำามาปฏิบัติ ก ค่านิยมของชาติตะวันตก ข ค่านิยมไม่ชิงสุกก่อนห่าม ค ค่านิยมการรักนวลสงวนตัว ง ถูกทั้งข้อ ข และ ค 9. การปฏิบัติตามค่านิยมรักนวลสงวนตัว สามารถป้องกันภัยจากสิ่ง ใดมากที่สุด ก ภัยทางเพศ ข ภัยจากสารเสพติด
  • 35. ค ภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ง ไม่มีข้อใดถูกต้อง 10. ใครปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง ก ก้อย ใช้คำาพูดสุภาพเรียบร้อย ข กุ้ง แต่งกายตามวัฒนธรรมไทย ค ตั้ม โอบเอวเพื่อนหญิงพื่อข้ามถนน ง จอย ไปทัศนศึกษากับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนที ่ 4 วั ย รุ ่ น กั บ การคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 7 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3 4.1 ความหมายและความสำาคัญของการคบเพื่อนต่างเพศ 4.2 รูปแบบของการคบเพื่อนต่างเพศในวัยรุ่น 1. ให้ น ั ก เรี ย นวิ เ คราะห์ ร ู ป แบบของการคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ ในวั ย รุ ่ น ว่ า มี อ ะไรบ้ า ง แล้ ว เขี ย นลงในผั ง ก้ า งปลาที ่ กำ า หนด
  • 36. กิ จ กรรมพั ฒ นาการเรี ย นรู ้ ครั ้ ง ที ่ 8 หน่ ว ยการเรี ย นรู ้ ท ี ่ 3 1. ให้ น ั ก เรี ย นสำ า รวจพฤติ ก รรมการปฏิ บ ั ต ิ ต นในการคบ เพื ่ อ นต่ า งเพศในชั ้ น เรี ย นว่ า มี แ นวทางในการปฏิ บ ั ต ิ อย่ า งไรบ้ า ง และเขี ย นเครื ่ อ งหมายย ลงในช่ อ งว่ า งว่ า พฤติ ก รรมการปฏิ บ ั ต ิ ต นดั ง กล่ า วเหมาะสมหรื อ ไม่ เ หมาะ สม ความเหมาะสม ที ่ รายการปฏิ บ ั ต ิ ต น เหมาะสม ไม่ เ หมาะสม
  • 37. 2. ให้ น ั ก เรี ย นนำ า วิ ธ ี ก ารปฏิ บ ั ต ิ ต นในการคบเพื ่ อ นต่ า งเพศ ที ่ ไ ม่ เ หมาะสมจากข้ อ 1 เขี ย นลงในช่ อ งว่ า งพร้ อ มบอกถึ ง ทั ก ษะในการแก้ ไ ขปั ญ หา แนวทางปฏิ บ ั ต ิ ทั ก ษะในการแก้ ไ ข ปั ญ หา __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________________________ __
  • 38. ทั ก ษะในการแก้ ไ ขปั ญ หา __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________________________ __ ทั ก ษะในการแก้ ไ ข ปั ญ หา _________________________ __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________
  • 39. __________________________________________ __ __________________________ __________________________________________ __ __________________________________________ __ การวั ด และประเมิ น ผลตามจุ ด ประสงค์ ก ารเรี ย นรู ้ ตอนที ่ 4 • เขียนเครื่องหมาย ย ล้อมรอบคำาตอบที่ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) 1. ข้อใดไม่ใช่ความสำาคัญของการคบเพื่อนต่างเพศของวัยรุ่น ก เพื่อทำาให้ตนเองเป็นจุดเด่น ข เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคม ค เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพศ ง เพื่อให้รู้จักวิธีการปฏิบัติตนในการคบเพื่อนต่างเพศได้อย่าง เหมาะสม 2. บุคคลใดที่มีความสำาคัญและมีอิทธิพลต่อการดำารงชีวิตในวัยรุ่น มากที่สุด ก เพื่อน ข พระสงฆ์ ค ญาติพี่น้อง ง ครู อาจารย์ 3. ข้อใดหมายถึงการคบเพื่อนต่างเพศ ก การคบหาสมาคมกับบุคคลเพศเดียวกันกับตนเอง ข การคบหาสมาคมกับบุคคลที่ต่างจากเพศเดียวกับตน ค การคบหาสมาคมกับคนภายในครอบครัวของตนเท่านั้น ง ถูกทุกข้อ 4. การคบเพื่อนของวัยรุ่นถือว่าเป็นรูปแบบของพัฒนาการที่สำาคัญ ทางด้านใด ก ด้านจิตใจ ข ด้านสังคม ค ด้านร่างกาย ง ด้านเศรษฐกิจ 5. ข้อใดคือข้อดีของการคบเพื่อนต่างเพศเป็นเพื่อนสนิท