More Related Content
More from Nittaya Intarat
More from Nittaya Intarat (20)
Media
- 1. 04/11/53
1
Nittaya Wongyai
ตัวกลางในการสือสารข้อมูล : Media
เป็ นส่วนทีทําให้เกิดการเชือมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ เข้า
ด้วยก ัน และทําให้ข้อมูลเดินทางผ่านจากผู้ส่งไปสู่ผู้ร ับผ่าน
สือกลางทีใช้
การวัดปริมาณหรือความจุในการนําข้อมูลเรียกก ันว่า
แบนด์วิดธ์ (Bandwidth) มีหน่วยเป็ นจํานวน บิต ข้อมูลต่อ
วินาที (bits per second: bps)
ล ักษณะของต ัวกลางต่างๆ มีด ังต่อไปนี
สือกลางประเภทมีสาย
สือกลางประเภทไร้สาย
ตัวกลางในการสือสารข้อมูล : Media
สือกลางประเภทมีสาย หมายถึง สือกลางทีเป็ นสายซึง
ใช้ในการเชือมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพือใช้ในการ
ส่งผ่านข้อมูลในระยะทางทีห่างกันไม่มากนัก
สายคู่บิดเกลียว (twisted pair)
สายโคแอกเซียล (coaxial cable)
เส้นใยแก้วนําแสง (fiber optic)
สายคู่บิดเกลียว (twisted pair)
ประกอบด้วยเส้นลวดทองแดงทีหุ้มด้วยฉนวนป้ องกัน 2 เส้น
พันบิดเป็ นเกลียว
อัตราการส่งข้อมูลผ่านสายคู่บิดเกลียวจะขึนอยู่กับความหนา
ของสายทําให้สามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราส่งสูง
การส่งข้อมูลแบบดิจิทัล สัญญาณทีส่งเป็ นลักษณะคลืน
สีเหลียม สายคู่บิดเกลียวสามารถใช้ส่งข้อมูลได้ถึงร้อยเมกะ
บิตต่อวินาที ในระยะทางไม่เกินร้อยเมตร
มีราคาไม่แพงมาก ใช้ส่งข้อมูลได้ดี จึงได้รับความนิยมใช้กัน
มาก
สายคู่บิดเกลียว (twisted pair) สายคู่บิดเกลียว (twisted pair)
CAT1-CAT7
ใช ้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ
โทรศัพท์บ ้าน ใช ้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-11
สาย UTP ชนิด CAT5/CAT5e/CAT6 ใช ้กับระบบเครือข่าย
ท ้องถิน(LAN) ใช ้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-45
- 2. 04/11/53
2
สายคู่บิดเกลียว (twisted pair) สายคู่บิดเกลียว (twisted pair)
การเข ้าหัวสาย UTP กับหัวเชือมต่อแบบ RJ-45 มีอยู่สอง
มาตรฐานคือ
แบบ EIA/TIA 568A และ EIA/TIA 568B
สายคู่บิดเกลียว (twisted pair)
สายแพทช์คอร์ด เชือมต่อระหว่างอุปกรณ์ Hub กับ
คอมพิวเตอร์ ปลายของสาย UTP ทังสองด ้านต ้องเข ้าตาม
มาตรฐาน EIA/TIA 568B
สายครอสโอเวอร์ เชือมต่อระหว่าง Hub กับ Hub หรือ
ระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ ปลายของสาย UTP
ด ้านหนึงต ้องเข ้าแบบ EIA/TIA 568A ส่วนปลายของสาย
อีกด ้านหนึงเข ้าแบบ EIA/TIA 568B
สาย UTP ทีใช ้กับระบบ Ethernet
ความยาวของสายต ้องไม่เกิน
100 เมตร
สายโคแอกเชียล (coaxial)
มีแบนด์วิดธ์ทีสูงกว่าสายคู่บิดเกลียว
ประกอบด ้วยลวดทองแดงทีเป็นแกนหลักหนึงเส ้นทีหุ ้มด ้วยฉนวน
ชันหนึง เพือป้องกันกระแสไฟรัว จากนันจะหุ ้มด ้วยตัวนําซึงทําจาก
ลวดทองแดงถักเป็ นเปีย เพือป้องกันการรบกวนของคลืน
แม่เหล็กไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอืนๆ ก่อนจะหุ ้มชันนอกสุดด ้วย
ฉนวนพลาสติก
ลวดทองแดงทีถักเป็ นเปียเป็ นส่วนหนึงทีทําให ้สายประเภทนีมีช่วง
ความถีสัญญาณไฟฟ้าสามารถผ่านได ้สูงมาก และนิยมใช ้เป็น
ช่องสือสารสัญญาณแอนะล็อกเชืองโยงผ่านใต ้ทะเลและใต ้ดิน
ป้องกันสัญญาณรบกวนได ้ดี และเชือมต่อได ้ในระยะไกล
ราคาแพง สายมีขนาดใหญ่ และการติดตังหัวเชือมต่อ ค่อนข ้าง
ยุ่งยาก
สายโคแอกเชียล (coaxial) สายโคแอกเชียล (coaxial)
- 3. 04/11/53
3
เส ้นใยแก ้วนําแสง (fiber optic)
แกนกลางของสายประกอบด้วยเส้นใยแก้วบริสุทธิ ขนาด
เล็กหลายๆ เส้นอยู่รวมก ัน และห่อหุ้มด้วยเส้นใยอีกชนิด
หนึง ก่อนจะหุ้มชันนอกสุดด้วยฉนวน
สามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราความหนาแน่นของส ัญญาณ
ข้อมูลสูงมาก และไม่มีการก่อกวนของคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ า
การบิดงอสายส ัญญาณจะทําให้เส้นใยห ัก จึงไม่สามารถ
ใช้สือกลางนีในการเดินทางตามมุมตึกได้
เหมาะทีจะใช้ก ับการเชือมโยงระหว่างอาคารก ับอาคาร
หรือระหว่างเมืองก ับเมือง เส้นใยนําแสงจึงถูกนําไปใช้เป็ น
สายแกนหล ัก(Blackbone)
เส ้นใยแก ้วนําแสง (fiber optic)
โครงสรางของเสนใยแกวนําแสง
Cable jacket Strengthening Fibers
Coating
Cladding
Core
เส ้นใยแก ้วนําแสง (fiber optic)
เส ้นใยแก ้วนําแสงมี 2 ประเภทคือ
เส ้นใยแก ้วนําแสงแบบมัลติโหมด (Multimode Fiber Optic: MMF)
ภายในเส ้นใยแก ้วมีแนวลําแสงอยู่จํานวนหลายลําแสง
นิยมใช ้งานในระบบ LAN มากทีสุด
ขนาดทีนิยมใช ้เส ้นผ่านศูนย์กลางของแกนอยู่ที 62.5 micron
และขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลางของแกนและส่วนทีเป็น Cladding
อยู่ที 125 micron
มักนิยมเรียกเส ้นใยประเภทนีว่า 62.5/125 MMF
ขนาดทีเป็นทีนิยมรองลงมาคือ 50/125 MMF
เส ้นใยแก ้วนําแสง (fiber optic)
เส ้นใยแก ้วนําแสงแบบซิงเกิลโหมด (Singlemode Fiber Optic:
SMF)
มีเส ้นใยแก ้วเป็นส่วนแกนขนาดเล็กกว่าแบบมัลติโหมด
ขนาดของเส ้นผ่านศูนย์กลางของแกนประมาณ 8-10 micron
ส่วนทีเป็น Cladding ประมาณ 125 micron
เส ้นใยประเภท SMF นี จะอนุญาตให ้แสงเดินทางเพียงแนวเดียว
ทําให ้แสงไม่เกิดการแตกกระจาย ทําให ้สามารถรับสัญญาณที
ปลายสายได ้ดีกว่าแบบ MMF และสามารถส่งสัญญาณได ้ใน
ระยะทางทีไกลกว่า
เส ้นใยแก ้วนําแสง (fiber optic)
- 4. 04/11/53
4
ตัวกลางในการสือสารข้อมูล : Media
สือกลางประเภทไร้สาย หมายถึง สือกลางทีใช้การส่ง
ข้อมูลผ่านอากาศ โดยอาศัยพลังงานคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ าที
แพร่กระจายอยู่ทัวไป โดยคลืนแม่เหล็กไฟฟ้ าดังกล่าวมีทัง
คลืนความถีตําและคลืนความถีสูง
คลืนวิทยุ (Radio Frequency: RF)
ไมโครเวฟ (Terrestrial Microwave Transmission)
ดาวเทียม (Satellite)
อินฟราเรด (Infrared Transmission)
บลูทูธ (Bluetooth)
คลืนวิทยุ (Radio Frequency: RF)
การสือสารโดยอาศัยคลืนวิทยุ ทําโดยการส่งคลืนไปยัง
อากาศเพือเข ้าไปยังเครืองรับวิทยุ
ใช ้เทคนิคการมอดูเลต ด ้วยการรวมคลืนเสียงทีเป็ น
คลืนไฟฟ้าความถีเสียงรวมกัน
คลืนวิทยุมีความเร็วค่อนข ้างตําและไวต่อสัญญาณรบกวน
ไมโครเวฟ (Terrestrial Microwave Transmission)
เป็ นสัญญาณทีเดินทางในแนวเส ้นตรงระดับสายตา
ส่งสัญญาณจากสถานีหนึงไปยังสถานีอืนๆ ได ้หลาย
สถานี
มีแถบความถี (Bandwidth)สูง
นําไปใช ้งานร่วมกับระบบการสือสารทัวไปได ้อย่างดี
มีข ้อจํากัดด ้านภูมิประเทศ เช่นภูเขาหรือตึกอาคารสูง
ดาวเทียม (Satellite)
เป็ นการสือสารโดยใช ้สัญญาณไมโครเวฟ
อาศัยสถานีไมโครเวฟทีตังอยู่ในอวกาศรับสัญญาณ
ไมโครเวฟจากสถานีภาคพืนดินและแพร่สัญญาณกลับไปยัง
สถานีภาคพืนดินทัวประเทศ
สามารถส่งสัญญาณแพร่ออกไปได ้ไกลทัวโลก
อินฟราเรด(Infrared Transmission)
เป็ นคลืนสัญญาณความถีสัน
ส่งสัญญาณเป็ นแนนเส ้นตรงในระดับสายตา
นิยมนํามาใช ้งานสําหรับการสือสารระยะใกล ้
ไม่สามารถส่งคลืนทะลุสิงกีดขวางได ้
เช่น รีโมตคอนโทรล
บลูทูธ (Bluetooth)
เป็ นคลืนสัญญาณความถีระยะสัน
สามารถสือสารทะลุสิงกีดขวางหรือกําแพงได ้
บลูทูธสามารถสือสารระหว่างอุปกรณ์หลายๆ ร่วมกันได ้
เช่น เครืองคอมพิวเตอร์ เครืองพิมพ์ แฟกซ์
เครือข่ายขนาดเล็กทีมีการเชือมต่ออุปกรณ์ไม่เกิน 7 ชิน
เราเรียกว่าเครือข่าย PAN(Personal Area Network)