More Related Content Similar to Organization and Management (OM) overview (ch.1) (20) More from Mahasarakham Business School, Mahasarakham University (20) Organization and Management (OM) overview (ch.1)1. Organization and Management Overview
ภาพรวมองค์ การและการจัดการ
Watjana Poopanee
Mahasarakham Business School
Mahasarakham University
E-mail : watjana.p@acc.msu.ac.th
1
3. Organization (องค์ การ)
องค์ การ (Organization) หมายถึง ศูนย์รวมกลุมบุคคลหรื อกิจการที่
่
ประกอบกันขึ ้นมาเป็ นหน่วยงานเดียวกัน เพื่อดาเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ที่
กาหนดไว้ ในกฎหมายหรื อในตราสารจัดตัง ซึ่งอาจเป็ นหน่วยงานของรั ฐ เช่น
้
องค์ ก ารของรั ฐ บาล เช่ น กระทรวง กรม มหาวิ ท ยาลัย มหาสารคาม หรื อ
หน่วยงานเอกชน เช่น บริ ษัทจากัด สมาคม หรื อ หน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น
องค์การสหประชาชาติ องค์การการค้ าโลก (WTO) เป็ นต้ น
Organization (องค์ การ)
VS
Organ (องค์ กร)
3
4. Organ (องค์ กร)
องค์ กร (Organ) หมายถึง บุคคล คณะบุคคล หรื อ
สถาบัน ซึ่งเป็ นส่วนประกอบของหน่วยงานใหญ่ ที่ ท าหน้ า ที่
สัมพันธ์ กนหรื อขึ ้นต่อกัน แต่ในบางกรณี องค์กรก็หมายรวมถึง
ั
องค์การด้ วย
4
6. Management (การจัดการ)
การจัดการ (Management) หมายถึง การที่ผ้ จัดการหรื อนักบริ หารประสาน
ู
กิจ กรรมในองค์ การต่า ง ๆ ให้ ดาเนินไปด้ ว ยกันอย่า งเหมาะสมเพื่อ มุ่งสู่เปาหมาย
้
ตามที่องค์ การกาหนดไว้ โดยอาศัยกระบวนการทางการบริ หาร (Management
process) ซึ่งได้ แก่ การวางแผน การจัดการองค์ การ การนา และการควบคุม เพื่อให้
การใช้ ท รั พ ยากรขององค์ ก ารนัน ๆ คื อ คน วัส ดุอุป กรณ์ เงิ น ทุน และเทคโนโลยี
้
สารสนเทศ ตลอดจนวิธีการจัดการที่เกี่ ยวข้ องให้ เป็ นไปอย่างมี ประสิทธิ ภาพและ
ประสิทธิผล
Management (การจัดการ)
VS
Administration (การบริ หาร)
6
7. Administration (การบริ หาร)
การบริหาร (Administration) เป็ นกระบวนการทางานร่วมกับคน และโดย
อาศัยคนเพื่อบรรลุเปาหมายขององค์ การภายใต้ สภาพแวดล้ อมที่ เปลี่ยนแปลงอยู่
้
ตลอดเวลา โดยสามารถแยกลักษณะของการบริหารออกเป็ น 5 อย่าง คือ
1) การทางานร่วมกับคน
2) การมีเปาหมายร่วมกันขององค์การ
้
3) การสร้ างความสมดุลระหว่างประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
4) การใช้ ทรัพยากร ที่มีอยูจากัดในโลกให้ เกิดประโยชน์สงสุด และ
่ ู
5) การบริหารจะต้ องเผชิญกับสภาพแวดล้ อม ที่เปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา
่
7
8. ความแตกต่ างระหว่ างการจัดการ (Management) และการบริหาร (Administration)
ความแตกต่ างระหว่ างการจัดการ (Management) และการบริหาร (Administration)
Management Administration
1. การจัดการมักใช้ ในวงการธุรกิจหรื อ 1. การบริ หารมักใช้ ในวงการสาธารณะหรื อ
เอกชนเป็ นหลัก ราชการ
2. การจัดการใช้ กบผู้ปฏิบติงานในระดับ
ั ั 2. การบริ หารใช้ กบผู้ปฏิบติงานในระดับสูง
ั ั
บริ หารรองลงมาที่มีหน้ าที่ในการนา ขององค์การที่มีหน้ าที่ในการกาหนดกรอบ
นโยบายไปปฏิบติมกเรี ยกบุคคลเหล่านี ้ว่า
ั ั นโยบายและแผนต่าง ๆ มักเรี ยกคนเหล่านี ้
“ผู้จดการ”
ั ว่า “ผู้บริ หาร”
8
9. Management Resource (ทรัพยากรที่ใช้ ในการจัดการ)
Man ทรั พยากรบุคคล, แรงงาน, พนักงาน
Money เงิน
Material วัตถุดบ, วัสดุอุปกรณ์
ิ
Machine เครื่ องจักร
Method กระบวนการ, การจัดการ, วิธีการ
Information ข้ อมูลข่ าวสาร, สารสนเทศ
Time เวลา
9
11. Organization and Management
องค์ การและการจัดการ (Organization and Management) เป็ น
ภารกิจที่สาคัญสาหรับผู้จดการในอันที่จะจัดการองค์การ และให้ มีการบริ หารจัดการ
ั
อย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพโดยมี ก ระบวนการวางแผน (Planning) การจัด องค์ ก าร
(Organizing) การชี ้นา (Leading) การควบคุม (Controlling) เพื่อให้ องค์การบรรลุ
วัตถุประสงค์ นันคือ ประหยัดทรัพยากร แรงงาน เวลา และได้ ผลผลิตสูงสุด สาหรับ
่
กระบวนการของการจัดองค์การ
11
13. Core Activities of Management (กิจกรรมหลักในการจัดการ)
Planning (การวางแผน) ประกอบด้ วย การกาหนดขอบเขตของธุรกิจ
ตังเปาหมายและวัตถุประสงค์ ตลอดจนกาหนดวิธีการเพื่อให้ สามารถดาเนินงานได้
้ ้
ตามวัตถุประสงค์หรื อเปาหมายที่ตงไว้
้ ั้
Organization (การจัดองค์ การ) ประกอบด้ วย การจัดบุคลากร แบ่งแผนก
งาน และจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ ให้ เหมาะสม สอดคล้ องกับแผนงาน เพื่อให้ องค์กร
สามารถดาเนินการตามแผนให้ บรรลุวตถุประสงค์และเปาหมายที่กาหนด
ั ้
13
14. Core Activities of Management (กิจกรรมหลักในการจัดการ)
Leading (การชีนา) ประกอบด้ วย เนื ้อหา 2 เรื่ องที่สาคัญ คือ ภาวะผู้นา
้
(Leadership) ซึ่งเกี่ ยวข้ องกับการพัฒนาผู้บริ หารเอง และ การจูงใจ (Motivation) ซึ่ง
เกี่ยวข้ องกับการชักจูงหรื อกระตุ้นให้ ผ้ อื่นทางานได้ เต็มที่ตามความรู้ความสามารถ
ู
Controlling (การควบคุม) เป็ นการควบคุมองค์การให้ การดาเนินงานต่าง ๆ
ภายในองค์การ เป็ นไปตามแผนงาน ความคาดหวังหรื อมาตรฐานที่กาหนด
14
15. ผลลัพธ์ ของการจัดการ (Output)
Efficiency (ประสิทธิภาพ) คือ ความสัมพันธ์ ระหว่างทรัพยากร ซึ่งเป็ นสิ่ง
นาเข้ า (input) ได้ แก่ คน เงิน วัสดุอปกรณ์ เครื่ องมือต่าง ๆ วิธีการผลิต ฯลฯ กับผลผลิต
ุ
ที่ออกมา (output) หากผลผลิตที่ได้ มามีมากกว่าทรั พยากรที่นาเข้ า นั่นแสดงว่า
ผู้บริ หารมีวิธีการในการทางานที่ใช้ ทรัพยากรอย่างประหยัด หรื อเสียค่าใช้ จ่ายต่าสุด
การทางานให้ สาเร็ จอย่างเดียวไม่พอ แต่จะต้ องคานึงถึงค่าใช้ จ่ายที่ประหยัดอีกด้ วย
จึงจะถือว่าองค์การมีประสิทธิ ภาพในการดาเนินงาน ซึ่งประสิทธิ ภาพจะเกี่ยวพันกับ
วิธีการดาเนินงาน (means) เช่น การประหยัดต้ นทุน การประหยัดเวลา เป็ นต้ น
15
16. ผลลัพธ์ ของการจัดการ (Output)
Effectiveness (ประสิทธิผล) คือ การทางานให้ ประสบผลสาเร็ จตามที่
ก าหนด นั่น คื อ การบรรลุเ ป าหมายขององค์ ก าร ซึ่ ง ประสิ ท ธิ ผ ลจะเกี่ ย วพัน กั บ
้
จุด มุ่ง หมาย หรื อ เป าหมาย ( ends) เช่ น บริ ษั ท สามารถบรรลุวัต ถุป ระสงค์ ด้ า น
้
ยอดขายตามที่กาหนดไว้ ได้
Productivity (ผลผลิตหรื อการเพิ่มผลผลิต) คือ อัตราส่วน “ระหว่าง
ผลผลิตที่ได้ และสิ่งที่ปอนเข้ าไป (วัตถุดิบที่ใช้ ไปเพื่อการผลิตได้ ผลผลิตจานวนนัน )
้ ้
ในทางปฏิบติแล้ ว เมื่อพูดถึง “การเพิ่มผลผลิต ” เราควรจะต้ องพิจารณาอีก 2 ปั จจัย
ั
สาคัญพร้ อมกันไปด้ วย คือ ประสิทธิภาพ (Efficiency) และประสิทธิผล (Effectiveness)
16
17. ผลลัพธ์ ของการจัดการ (Output)
Satisfaction of Customer (ความพึงพอใจของลูกค้ า)
คือ ความรู้ สึกที่ ดีมีความสุข เมื่ อ ลูกค้ า ได้ รับผลสาเร็ จ ตามความมุ่งหมาย (goals)
ความต้ องการ (need) หรื อแรงจูงใจ (motivation)
Satisfaction of Employee (ความพึงพอใจของพนั กงาน)
คือ ความรู้ สึกที่ดีมีความสุข เมื่อพนักงานได้ รับผลสาเร็ จ ตามความมุ่งหมาย (goals)
ความต้ องการ (need) หรื อแรงจูงใจ (motivation)
17
18. Holistic Management (ระบบการบริหารแบบองค์ รวม)
INPUT PROCESS OUTPUT
• Man • Efficiency
• Money P O • Effectiveness
• Material
• Productivity
• Machine
• Satisfaction of
• Method Customer
• Information C L • Satisfaction of
• Time Employee
18
19. Importance of Management
การจั ด การนั บ ว่ า เป็ นงานที่ มี ค วามส าคัญ เป็ นอย่ า งมากในองค์ ก าร
เพราะว่าระบบการจัดการถือว่า เป็ นกลไกหลักของการดาเนินงานตามแผนการที่
องค์ ก ารได้ ก าหนดไว้ และยัง เกี่ ย วข้ อ งกับ การจัด สร้ างและรั ก ษาความสัม พัน ธ์
ระหว่า งทรั พยากรทังหมด โดยมี การระบุถึงทรั พยากรที่ จะใช้ สาหรั บการดาเนิ น
้
กิจกรรมที่ได้ กาหนดไว้
ความสาคัญของการจัดการยังช่วยให้ ผ้ จดการสามารถลดจุดอ่อนของการ
ูั
จัดการและช่วยลดต้ นทุนค่าใช้ จ่ายให้ ต่าลงและทาให้ เกิดผลผลิตในองค์การได้ เพิ่ม
มากขึน จึงนับได้ ว่าผู้จัดการเป็ นผู้มีอิทธิ พลอย่างมากในทุกช่วงระยะขององค์การ
้
สมัยใหม่
19
20. Value Chain (ห่ วงโซ่ คุณค่ า)
ห่ วงโซ่ คุณค่ า (Value Chain) คือ การวิเคราะห์ห่วงโซ่แห่งคุณค่า ซึงแสดงให้
่
เห็นถึงคุณค่าที่องค์กรส่งมอบให้ แก่ลกค้ า โดยแต่ละกิจกรรมใน Value Chain มี
ู
ส่วนช่วยก่อให้ เกิดคุณค่าทัวทังองค์กร ซึ่งแต่ละกิจกรรมเป็ นพื ้นฐานในการสร้ าง
่ ้
คุณค่าขององค์กรให้ กบลูกค้ า ด้ วยการเริ่มต้ นแยกแยะองค์ประกอบของทรัพยากร
ั
ต่าง ๆ
Michael E. Porter (1985)
20
22. ลาดับขันของการจัดการในองค์ การ
้
Top Management Corporate Strategy
(President/CEO)
Management Business Level Strategy
(Manager/Supervisor)
Functional
Operation
(Official/ Staff)
22