SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 15
Baixar para ler offline
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต                                             การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
                                                                    การเคลื่อนไหว เปนการเคลื่อนยายเพียงบางสวนของ
                                                                    รางกาย
                                                                    การเคลื่อนที่ เปนการเคลื่อนยายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

                                                                  * การเคลื่อนที่จะตองมีการเคลื่อนไหวดวยเสมอ แตการเคลื่อนไหว
                                                                    ไมจําเปนตองมีการเคลื่อนที่ดวย




                                                                           การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลลเดียว
โครงรางสัตว(animal skeleton) แบงออกเปน 2 ประเภท คือ            การเคลื่อนไหวโดยอาศัยการไหลของไซโทพลาสซึม
1. Hydroskeleton or hydrostatic skeleton                                               อมีบา(amoeba)
2. Hard skeleton
    2.1 Exoskeleton
    2.2 Endoskeleton




               การเคลื่อนไหวของอมีบา                              ในเซลลอมีบา การยื่น pseudopodium ออกไปเกิดจากการ
                                                                  ยืดและหดตัวของ actin filaments

     การเคลื่อนไหวอาศัยการไหลของไซโทพลาสซึม โดยแบงเปน 2
     สวน คือ ectoplasm(แข็ง) และ endoplasm(เหลว)
     Actin และ Miosin ประกอบกันเปน microfilament(
     เปนเสนใยโปรตีนเล็กๆ) หดตัวและคลายตัวได ทําใหเกิดการไหล
     ของไซโทพลาสซึม
     ทําใหเกิดเทาเทียม(pseudopodium)
     การเคลื่อนที่แบบอะมีบา (amoebiod movement)
     ไดแก อมีบา เม็ดเลือดขาว ราเมือก




                                                                                                                                  1
การเคลื่อนไหวโดยการใชแฟลกเจลลัม หรือซิเลีย              Euglena
             แฟลกเจลลัม(flagellum)




                   ซิเลีย(cilia)               A comparison of the beating of flagella and cilia




Microtubules เปนแกนของ flagellum และ cilia




                                                                                                   2
Centrosome containing a pair of centrioles




การเคลื่อนที่ของไฮดรา
(Hydra)

   ตีลังกา
   เคลือบคลานเหมือนหนอน
   ลอยไปตามน้ํา




                        planaria                การเคลื่อนที่ของพลานาเรีย(planaria)
                                             Phylum platyhelminthes
                                             มีกลามเนื้อ 3 ชนิด คือ circular muscle
                                             ,longitudinal muscle,oblique muscle
                                             เคลื่อนที่ไปโดยการลอยไปตามผิวน้ําหรือคลืบคลาน
                                             ทางดานลางมีซิเลียชวยในการโบกพัดชวยใหเคลื่อนตัวไดดียิ่งขึ้น




                                                                                                                3
การเคลื่อนที่ของหนอนตัวกลม(round worm)                     การเคลื่อนทีของไสเดือน(earth worm)
                                                                               ่
Phylum nematoda ไดแก พยาธิไสเดือน พยาธิปากขอ
พยาธิเสนดาย หนอนน้ําสมสายชู
มีเฉพาะกลามเนื้อตามยาวของลําตัว(longitudinal
muscle)
การเคลื่อนที่ทําใหเกิดลักษณะสายไปสายมา




    การเคลื่อนที่ของไสเดือน(earth worm)

                          - Phylum annelida
                          - กลามเนื้อ 2 ชุดคือ กลามเนื้อวงกลม
                            (circular muscle) อยูทางดาน
                            นอก และกลามเนื้อตามยาว
                            (longitudinal muscle) ตลอด
                            ลําตัวอยูทางดานใน
                          - เดือย(setae)




     การเคลื่อนที่ของแมงกะพรุน(jelly fish)

                                                                  Phylum coelenterata
                                                                  เคลื่อนที่โดยการหดตัวของ
                                                                  เนื้อเยื่อที่อยูบริเวณของรมและ
                                                                  ผนังลําตัวทําใหน้ําพนออกมา
                                                                  ทางดานลาง




                                                                                                         4
การเคลื่อนที่ของหมึก(squid)
   การเคลื่อนที่ของหมึก(squid)




การเคลื่อนที่ของดาวทะเล(sea star)




                                                       Exoskeleton
                                    -พบในพวก mollusk และแมลง
                                    -เปนโครงรางเปลือกแข็งหุมอยูภายนอกรางกาย โดย
                                    สวนประกอบของเปลือกเปนพวก crystallized mineral
                                    salt และไมมเซลล (acellular) เชน แคลเซียมคารบอเนต
                                                  ี
                                    ใน mollusk, chitin ในแมลง
                                    -exoskeleton นอกจากจะทําหนาทีค้ําจุนรางกายแลว ยัง
                                                                       ่
                                    ชวยปองกันการสูญเสียน้ํา
                                    -การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นโดยการหด-คลายตัวของกลามเนื้อ
                                    ที่ยึดติดกับ exoskeleton




                                                                                           5
-กลามเนื้อที่ทําใหเกิดการเคลื่อนไหวมี 2 ชุด คือ                   การเคลื่อนทีของแมลง
                                                                                ่
1. Flexors ทําใหเกิดการโคงงอของขอตอเมื่อหดตัว
2. Extensors ทําใหเกิดการยืดตัวของขอตอเมื่อ
  หดตัว
-กลามเนื้อทั้งสองชุดนี้จะทํางานตรงขามกัน เมื่อ
  กลามเนื้อชนิดหนึ่งหดตัว อีกชนิดหนึ่งจะคลายตัว
  (antagonism)




                                                     Moving the exoskeleton: Joints and muscle attachments
                    insect
  Exoskeleton เปนสารพวกไคติน
  ขอตอขอแรกของขากับลําตัว แบบ ball and
  socket สวนขอตออื่นๆเปนแบบบานพับ
  การเคลื่อนไหวเกิดจาการทํางานสลับกันของกลามเนื้อ
  flexer กับ extensor เปนแบบ
  antagonism                                             Flexor = งอ
                                                         Extensor = คลาย




                                                                                                             6
การเคลื่อนที่ของปลา   มีรูปรางแบนเพรียวบาง และเมือก มีเกล็ด ชวยลดแรงเสียดทาน
                      เมื่อกลามเนื้อที่ยึดติดกับกระดูกสันหลังดานใดดานหนึ่งหดตัว(เริ่ม
                      จากสวนหัวมาทางหาง)ทําใหเกิดการโบกพัดของครีบหาง
                      (cadal fin) ดันใหตัวพุงไปขางหนาโดยมีครีบหลัง(drosal
                      fin) ชวยในการทรงตัวไมใหเสียทิศทาง
                      เมื่อกลามเนื้อที่ยึดติดกระดูกสันหลังดานหนึ่งหดตัว(เริ่มจากสวน
                      หัวมาทางสวนหาง)
                      ครีบอก(pectoral fin) และครีบตะโพก (pelvicfin) ซึ่ง
                      เทียบไดกับขาหนาและขาหลังของสัตวบก จะทําหนาที่ชวยพยุง
                      ลําตัวปลา และชวยใหเกิดการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง




                      การเคลื่อนที่ของเตาทะเล แมวน้ํา และสิงโตทะเล




                       มีขาคูหนาที่เปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะเปนพาย ที่เรียกวา ฟลิบเปอร
                       (flipper)




                                                                                           7
การเคลื่อนที่ของสัตวปก                                             การเคลื่อนที่ของนก
                                                           มีกระดูกที่กลวง ทําใหเบา
                                                           มีกลามเนื้อที่ใชในการขยับปกที่แข็งแรง
                                                           - กลามเนื้อ pectoralis major
                                                           - กลามเนื้อ pectoralis minor
                                                           มีถุงลม (air sac)
                                                           มีขน (feather)




                                                                                     Endoskeleton
               ถุงลม (air sac)                         -พบในสัตวมกระดูกสันหลังทุกชนิด
                                                                      ี
                                                       -เปนโครงรางแข็งที่แทรกตัวอยูในเนือเยือ (soft tissues) หรือภายในรางกาย
                                                                                             ้ ่
                                                       -endoskeleton ประกอบดวย living and metabolizing cells (ตางจาก exoskeleton) แบงเปน
                                                        1. cartilage เปนสวนประกอบของ protein collagen และ complex polysaccharide
                                                        2. bone ประกอบดวย collagen ปนอยูกับ apatite (calcium and phosphate salt)
                                                       -นักกายวิภาคศาสตรแบงกระดูกออกเปน 2 สวน
                                                        1. Axial skeleton: กระดูกกะโหลก (skull), กระดูกสันหลัง (vertebral column),
                                                          กระดูกซี่โครง (rib)
                                                        2. Appendicular skeleton: เปนกระดูกที่ตอออกมาจาก axial skeleton แบงเปน
                                                          2.1 Fore-limb bone (กระดูกแขน) ยึดติดกับ axial skeleton โดยกระดูก pectoral
                                                              girdle (clavicle, scapula)
                                                         2.2 Hind-limb bone (กระดูกขา) ยึดติดกับ axial skeleton โดยกระดูก pelvic girdle
                                                             (ilium, sacrum, pubis, ischium)




              โครงสรางของกระดูก
                                                                                       (pectoral girdle)

การจําแนกชนิดกระดูก
1. กระดูกแทงยาว (long bone) ไดแก ตนแขน,ปลาย         สีน้ําเงิน คือ กระดูกแกน 80 ชิ้น                                       ilium
   แขน,ตนขา,หนาแขง,กระดูกนอง,ไหปลารา                                                                                     sacrum
                                                                                                                                   pubis
                                                        สีเหลือง คือ กระดูกรยางค 126 ชิ้น                                      ischium
2. กระดูกแทงสั้น (short bone) ไดแก ขอมือ,ขอเทา
3. กระดูกแบน (flat bone) ไดแก กะโหลก,เชิงกราน,
   สะบัก,อก,ซี่โครง
4. กระดูกรูปรางไมแนนอน (irregular bone) ไดแก
   สันหลัง,แกม,ขากรรไกร




                                                                                                                                               8
ขอตอ (articulation หรือ Joint)                                                              ชนิดขอตอ
-ขอตอ: เปนบริเวณที่กระดูกมาตอกับ                                               1. ขอตอไฟบรัส (fibrous joint) เปนขอตอที่เคลื่อนไหว
 กระดูก มี synovial memebranes                                                        ไมไดและมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบางๆ ยึดกระดูกสองชิ้นไว หรืออาจ
 มาหุมบริเวณขอตอ เพือปองกันการ
                          ่
                                                                                      หุมภายนอกไว เชน กระดูกกะโหลกศรีษะ
 เสียดสีระหวางกระดูก จะมีกระดูก
 ออนมาทําหนาที่เปนหมอนรอง และ                                                   2. ขอตอกระดูกออน (cartilagenous joint) เปนขอตอที่
 มี synovial fluid ทําหนาที่เปนสาร                                                  เคลื่อนไหวไดเล็กนอย เชนขอตอระหวางกระดูกซี่โครงกับ
 หลอลื่น                                                                             กระดูกอก ขอตอระหวางทอนกระดูกสันหลัง ขอตอระหวาง
-Ligament: เปนเอ็นที่ยึดระหวาง                                                      กระดูกเชิงกรานซีกซายกับซีกขวาทางดานหัวหนาว
 กระดูกกับกระดูก
-Tendon: เปนเอ็นทียึดระหวาง
                      ่                                                            3. ขอตอซิลโนเวียล (sylnovial joint) เปนขอตอที่
 กลามเนื้อกับกระดูก                                                                  เคลื่อนไหวไดมาก ประกอบดวยกระดูกอยางนอย 2 ชิ้น




                                   ขอตอซิลโนเวียล (sylnovial joint)                              The skeleton-muscle connection
                                   แบบตางๆ                                   -การเคลื่อนไหวสวนตาง ๆ ของ
                                                                               รางกายเกิดจากการทํางานรวมกัน
 1                                     แบบที่ 1 พบที่ใดของรางกาย..........    ของ nerves, bones, muscles
                                       แบบที่ 2 พบที่ใดของรางกาย..........   -การหด-คลายตัวของกลามเนื้อ
                                       แบบที่ 3 พบที่ใดของรางกาย..........    เปนการทํางานรวมกันของ
                                                                               กลามเนื้อ 2 ชุด ที่ทํางานตรงขาม
                                                                               กัน เชน การงอแขน
                                                                               :กลามเนื้อ biceps (flexor) หดตัว
 2
                                                                               (เปน agonist)
                                                                               :กลามเนื้อ triceps(extensor) คลาย
                                                                                ตัว (เปน antagonist)


 3




                                                                                                                                                       9
The power arm-load arm concept                                     Origin and insertion
-ในการเคลื่อนของกระดูก จะมีกระดูกทอนหนึ่ง                      -ที่ปลายทั้งสองขางของกลามเนื้อ
 ทําหนาที่เปนจุดหมุน (falcum)                                  แตละมัดจะยึดติดกับกระดูก โดย
-ความเร็วในการเคลื่อนที่ หรือความสามารถใน                        ดานที่ยึดติดกับกระดูกเฉย ๆ
 การรองรับน้ําหนักของกระดูกขึ้นอยูกับ                           (ติดกับกระดูกที่ไมเคลื่อนที่)
 อัตราสวนของ power arm ตอ load arm                             เรียก origin สวนปลายทียึดกับ
                                                                                            ่
-power arm: ระยะทางระหวางจุดที่กลามเนื้อยึด                    กระดูกที่มีการเคลือนไหว เรียก
                                                                                    ่
 กับกระดูกถึงจุดหมุน                                             insertion
-load arm: ระยะทางระหวางจุดหมุนถึงบริเวณที่                    -Tendon ที่ origin มักจะกวาง ที่
 ใชในการเคลือนไหว เชน เทา หรือมือ
               ่                                                 insertion มักจะแคบ เพือจํากัด
                                                                                          ่
-ถาอัตราสวน power arm/load arm ต่ํา เชน ใน                    ความแรงในการหดตัวของ
 เสือชีตา กระดูกจะเคลือนที่ไดเร็ว
                         ่                                       กลามเนื้อเกิดขึ้นเฉพาะจุด
-ถาอัตราสวน power arm/load arm สูง เชน ในตัว
 badger กระดูกจะรับน้ําหนักไดมาก




                                                                            กลามเนื้อแบงออกไดเปน 3 ชนิด
            กลามเนื้อ (Muscular tissue)
       กลามเนื้อทําหนาที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ
       รางกาย ประกอบดวยเซลลที่มีลักษณะยาว อาจ
       เรียกเซลลกลามเนื้อไดวา เสนใยกลามเนื้อ
                                 
       (muscle fiber) ในไซโตพลาสซึมของเสนใย
       กลามเนื้อมีโปรตีนที่เปนองคประกอบที่สําคัญ 2
       ชนิด คือ actin และ myosin




                                                                    สวนประกอบของเซลลกลามเนื้อจะมีชื่อเฉพาะแตกตางไปจาก
        กลามเนื้อแบงออกไดเปน 3 ชนิด ขึ้นอยูกบตําแหนงที่
                                                 ั                  เซลลชนิดอื่นๆ ไดแก
           พบ โครงสราง และหนาที่ ไดแก
                                                                    Cell membrane ของเซลลกลามเนื้อ
        1. กลามเนื้อเรียบ (smooth muscle)                                                    = Sarcolemma
        2. กลามเนื้อสเกเลทัล (skeletal muscle)                     Cytoplasm                 = Sarcoplasm
        3. กลามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle)                         Endoplasmic reticulum
                                                                                              = Sarcoplasmic reticulum




                                                                                                                            10
Skeletal muscle
   กลามเนื้อสเกเลทัล (Skeletal muscle)
                                                                                                                  Nucleus ของ
กลามเนื้อในรางกายสวนใหญเปนกลามเนื้อสเกเลทัล
                                                                                                                  muscle fiber
กลามเนื้อนี้เกาะยึดติดกับกระดูก สามารถหดตัวไดเมื่อถูก
กระตุน และอยูภายใตการควบคุมของระบบประสาท                                                                      Muscle fiber
สวนกลาง (voluntory muscle)

                                                          ลักษณะของเซลลกลามเนื้อเปนรูปทรงกระบอก ซึ่งมีความยาวมาก เซลล
                                                          มีขนาดใหญมีหลายนิวเคลียสเรียงชิดอยูกับเยื่อหุมเซลล มีลายตามขวาง
                                                          คือ มีแถบสีจางสลับกับแถบสีเขม ดังนั้นอาจเรียกกลามเนื้อชนิดนี้ไดวา
                                                          กลามเนื้อลาย (striated muscle)




    ภาพตัดตามขวางของ skeletal muscle                                                                        การเรียงตัว
                                                                                                            ประกอบกันเปนมัด
                                                                                                            กลามเนื้อ
                                                                                                            skeleton มีเยื่อ
                                                                                                            เกี่ยวพันหุมเปน
                                Sarcolemma
                                                                                                            ขั้นตอน และทั้งมัด
                                  (เยื่อหุมเซลล)
                                                                                                            กลามเนื้อจะติดตอ
                                                                                                            กับเอ็นซึ่งไปยึดติด
                                                                                                            กับกระดูก

     Nucleus เรียงชิดอยูกับ sarcolemma




การที่มองเห็นเซลลกลามเนื้อมีลายตามขวางเนื่องจาก
ภายใน sarcoplasm มีเสนใยฝอยซึ่งเปน
สวนประกอบที่สําคัญทําใหกลามเนื้อหดตัวไดเรียกวา
myofibril เปนจํานวนมาก ใน myofibril มี
โปรตีน actin และ myosin เรียงอยางเปนระเบียบ
มองเห็นมีแถบ (band) หรือเสน (line) ที่ชัดและทึบ
สลับกันไปตลอด




                                                                                                                                  11
ใน Sarcoplasm นอกจากมีโปรตีนสําคัญที่เกียวของกับกลไกการ
                                                    ่
   หดตัวของกลามเนื้อแลว ยังมี Organelles ที่สาคัญไดแก
                                                  ํ
   Sarcoplamic reticulum ซึ่งคือ SER ที่เปลียนไปเปนทอที่
                                                      ่
   ตอเนื่องกัน ลอมรอบกลุมเสนใยของกลามเนื้อ ทําหนาที่เปนแหลงเก็บ
                          
   สะสม Ca2+
     Sarcolemma มีโครงสรางที่พับซอนกันเปนหลอดบางและยาวตาม
   แนวขวาง เรียกวา Transverse tubule เปนทางติดตอจากผิว
   ภายนอกของเซลลเขาไปติดตอกับ Sarcoplamic reticulum
     สานประกอบอื่นๆภายใน Sarcoplasm ไดแก RER ,
   ribosome และ Golgi complex มีอยูเปนจํานวนนอย เพราะ
   เซลลกลามเนื้อไมมีหนาที่เกี่ยวกับการสรางโปรตีน




                                                                                เซลลกลามเนื้อหัวใจประกอบดวย หนึงหรือ สอง
                                                                                                                  ่
        กลามเนื้อหัวใจ (Cardiac muscle)                                 นิวเคลียสอยูตรงกลางเซลล เซลลมีขนาดสั้นกวาเซลล
                                                                         กลามเนื้อ skeleton และปลายแยกเปนสองแฉก
    กลามเนื้อหัวใจพบแหงเดียวคือกลามเนื้อที่หัวใจ และ
                                                                         (bifurcate) ซึ่งจะไปตอกับเซลลอื่นๆในลักษณะเปน
    ผนังของเสนเลือดใหญที่ตอกับหัวใจ เปนกลามเนื้อที่มี
                                                                         รางแห ที่รอยตอของเซลลดานขวางจะยึดติดกันแนน มี
    ลายเชนเดียวกับ skeletal muscle ตางกันที่
                                                                         ลักษณะการเชื่อมโยงอยางซับซอน เรียกวา
    กลามเนื้อหัวใจอยูนอกการควบคุมของระบบประสาท
                                                                         intercalated disc มองเห็นไดชัดเจนดวยกลอง
    สวนกลาง (Involuntory muscle) และการทํางาน
                                                                         จุลทรรศนธรรมดา
    เกิดขึ้นติดตอกันตลอดเวลา




                     Cardiac muscle                                               กลามเนื้อเรียบ (Smooth muscle)
                                                                         ในเซลลกลามเนือเรียบไมเห็นลาย ถึงแมวาภายในเซลลจะมีแอกทิน และ
                                                                                        ้
                                                                         ไมโอซิน แตการเรียงตัวไมเปนระเบียบเหมือนอยางใน skeletal
                                                                         muscle และ Cardiac muscle ลักษณะเซลลของกลามเนือเรียบ     ้
                                                                         เปนรูปกระสวย หัวทายแหลม และมีหนึ่งนิวเคลียสอยูกลางเซลล
Nucleus
อยูกลางเซลล                                                                                               กลามเนื้อเรียบอยูนอกการ
                                                                                                            ควบคุมของระบบประสาท
                                                                                                            สวนกลาง(involuntory
                                                                                                            muscle) พบไดที่ผนังของ
                                                                                                            อวัยวะภายในระบบตางๆของ
                                                                              nucleus                       รางกาย และเสนเลือด
                    Intercalated disc




                                                                                                                                             12
Smooth muscle                                                                      Smooth muscle ที่ผนังเสนเลือดแดง
                                                           กลามเนื้อเรียบอยูนอก
                                                           การควบคุมของระบบ
                                                           ประสาทสวนกลาง
                                                           (involuntory
                                                           muscle) พบไดทผนัง  ี่
                                                           ของอวัยวะภายในระบบ
                                                           ตางๆของรางกาย และ
                                                           เสนเลือด




  The structure of skeleton muscle                                                                 การหดตัวของกลามเนื้อ skeleton
-skeleton muscle เกิดจากมัดของ muscle fiber                                                         -การหดตัวของกลามเนื้อ skeleton
 (cell) มารวมกัน                                                                                     เกิดจากการเลื่อนเขามาซอนกันของ
-muscle fiberแตละอันคือ 1 เซลลที่มีหลาย                                                            thin filament เรียก sliding-filament
 นิวเคลียส ที่เกิดจากหลาย ๆ เซลลในระยะแรก                                                           model
 มารวมกัน                                                                                           -การหดตัวของกลามเนื้อเกิดโดยความ
-แตละ muscle fiber เกิดจากมัดของ myofibrils                                                         กวางของ sarcomere ลดลง, ระยะทาง
 มารวมกัน                                                                                            ระหวาง Z line สั้นลง, A band คงที่,
-myofibrilsประกอบดวย myofilaments 2 ชนิด คือ
                                                                                                     I band แคบเขา, H zone หายไป
1.Thin filamentเกิดจากactin 2 สายและ regulatory
 protein (tropomyosin) 1 สาย มาพันกัน                                                               -พลังงานที่ใชในการหดตัวของ
2.Thick filament เกิดจากmyosinมารวมกันเปนมัด                                                        กลามเนื้อหลัก ๆ อยูในรูปของ
                                                                                                                            
 -การจัดเรียงตัวของ myofilaments ทําใหเกิด                                                          creatine phosphate
  light-dark band ซ้ําๆ กัน เรียกแตละหนวยที่ซ้ํา
  กันนี้วา sarcomere (ดังรูป)




                                 Sliding-filament model                                                             การควบคุมการหดตัวของกลามเนื้อ
                                     1.สวนหัวของ myosin จับกับ ATP,
                                     อยูในรูป low-energy configuration                            -skeleton muscle หดตัวเมื่อไดรับการ
                                                                 2.myosin head(ATPase) สลาย         กระตุนจาก motor neuron
                                                                 ATP ได ADP+Pi, อยูในรูป         -ในระยะพัก บริเวณที่เปนตําแหนงที่
                                                                 high-energy configuration          myosin มาเขาจับ บนสาย actin (myosin
                                                                                                    binding site) ถูกปดดวยสายของ
                                                                                                    tropomyosin โดยการเปด-ปดของ
                                                                                                    tropomyosin ถูกควบคุมดวย troponin
                                                            3.myosin head เกิด cross-bridge         complex
                                                            กับสาย actin                           -binding site จะเปดเมือ Ca2+ เขามาจับ
                                                                                                                           ่
                                                                                                    กับ troponin
   4.ปลอย ADP+Pi, myosin กลับสู low-energy configuration ทําใหเกิดแรงดึง thin filament เขามา
  5.ATPโมเลกุลใหมเขามาจับกับ myosin head ทําให myosinหลุดจาก actin, เริ่มวงจรใหม




                                                                                                                                                     13
สรุปการหดตัวของกลามเนื้อ
 -sarcoplasmic reticulum (SR) เปนแหลงเก็บ              Motor end-plate
                                                                                      1.Ach หลั่ง                                 2.Action potential เคลื่อนไป T tubule
  Ca2+ ในเซลลกลามเนือ   ้                                                           จาก neuron
 -เมื่อ action potential จาก motor neuron                                             จับ receptor
  มาถึงบริเวณ synaptic terminal ทําใหมีการ
  หลั่ง Ach ที่ neuromuscular junction, เกิด
  depolarization ที่เซลลกลามเนื้อ                                                                                                                                       3.SR หลั่ง Ca2+
 -action potential แพรไปยังเยื่อเซลลของ
  กลามเนื้อที่เรียกวา T (transverse) tubules                                          7.tropomyosinปด binding
 -ตําแหนงที่ T tubules สัมผัสกับ SR ทําใหมี                                                                                                                         4.Ca2+จับtroponin,
                                                                                        site, หยุดการหดตัวของ                                                         binding silt เปด
  การหลั่ง Ca2+                                                                         กลามเนื้อ
 -การหดตัวของกลามเนื้อจะหยุดเมื่อ SR ปม
  Ca2+ จาก cytoplasm กลับเขามาเก็บใน SR

                                                                                                          6.ปมCa2+ กลับสู SR                                   5.กลามเนื้อหดตัว




                        การหดตัวของมัดกลามเนื้อ                                                                          Motor unit
 -ในมัดกลามเนือแตละมัดประกอบดวย muscle fiber หลายเซลลมารวมกัน
                ้                                                                     -ในสัตวมีกระดูกสันหลัง muscle cell 1
 -การตอบสนองตอแรงกระตุนของ muscle fiberเปนแบบ all-or-none (เหมือน                  เซลลจะถูกควบคุมโดย motor neuron 1
  neuron) และแตละ muscle fiber มี threshold ในการหดตัวไมเทากัน                     เซลลเทานั้น
 -การหดตัวของมัดกลามเนื้อแตละครั้ง (single twitch) ขึ้นอยูกับความแรงที่มากระตุน   -แต 1 motor neuron อาจควบคุมการ
 -ถากลามเนื้อไดรับการกระตุน 2 ครั้งตอเนื่องกัน&มีระยะหางพอเหมาะ จะทําให        ทํางาน >1 muscle cell
  ความแรงในการหดตัวครั้งที่ 2 เพิ่มขึ้น (summation)                                   -Motor unit ประกอบดวย 1 motor
-Tetanus เปนการหด(เกร็ง)โดย                                                          neuron และmuscle fiber ทั้งหมดที่
ไมมีการคลายตัวของกลามเนื้อ                                                          neuron ควบคุม
จากการกระตุนถี่ๆ และตอเนื่อง                                                        -กลามเนื้อที่ตองการการเคลื่อนไหวที่
-Fatigue (การลา) เปนสภาพที                                                          ละเอียดออน จะมีอัตราสวนระหวาง
กลามเนื้อหมดความสามารถใน                                                             motor neuron/muscle cell ต่ํา เชน
การหดตัว                                                                              กลามเนื้อลูกตา (1/3-4)




                        การหดตัวของ smooth muscle                                                                  การหดตัวของ cardiac muscle
 -smooth muscle cell พบที่อวัยวะที่
  มีลักษณะเปนทอกลวง เชน                                                            -มี 1 nucleus/1 cell เซลลมีการแตก
  ทางเดินอาหาร, หลอดเลือด,                                                            แขนง(bifurcate)และเชื่อมกับเซลลขาง
  อวัยวะสืบพันธุ, iris ของลูกตา                                                      เคียงดวย gap junction เรียก intercalated
  และทอของตอม                                                                        disk
 -มีรูปรางคลายกระสวย มี 1                                                           -มีการจัดเรียงตัวของ actin-myosin ทํา
  nucleus/1 cell การหดตัวเปน                                                         ใหเห็นเปนลาย, มี SR
  involuntary

                                                                                      -cardiac muscle สามารถหดตัวไดเองอยางเปนจังหวะ
-ไมมีการจัดเรียงตัวของactin-myosin ทําใหไมเห็นเปนลาย, ปลาย actin มักยึดติดกับ     -หัวใจสัตวมีกระดูกสันหลังหดตัวไดเองเรียก myogenic heart (muscle-generated)
  เยื่อเซลล, ไมมี SR ดังนั้น Ca2+ แพรผานเขามาทางเยื่อเซลล                       -หัวใจของกุง, ปู, แมงมุม ตองไดรับการกระตุนจาก nerve เรียก neurogenic heart
-การหดตัวจะชากวา striated muscle แตการหดตัวนั้นจะอยูไดนานกวา                     (nerve-driven)




                                                                                                                                                                                            14
จบ
เนื้อหา




          15

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

สิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิต
tarcharee1980
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
nokbiology
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
Wan Ngamwongwan
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
Wan Ngamwongwan
 
การเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมชการเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมช
Wichai Likitponrak
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
nokbiology
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
nokbiology
 
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
ประกายทิพย์ แซ่กี่
 
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
Aom S
 

Mais procurados (19)

การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคนการเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
สิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิต
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
 
การเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมชการเคลื่อนที่สมช
การเคลื่อนที่สมช
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
 
vbvb
vbvbvbvb
vbvb
 
8ปลา
8ปลา8ปลา
8ปลา
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
 
skeletal system
skeletal systemskeletal system
skeletal system
 
ระบบกระดูก
ระบบกระดูกระบบกระดูก
ระบบกระดูก
 
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อการประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
 
Skeletal muscle
Skeletal muscleSkeletal muscle
Skeletal muscle
 
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
รายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของมนุษย์ 1
 
Anatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular SystemAnatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular System
 
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
 

Semelhante a การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต

การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
nokbiology
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
nokbiology
 
อาณาจักรสัตว์Science
อาณาจักรสัตว์Scienceอาณาจักรสัตว์Science
อาณาจักรสัตว์Science
teeraya
 
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
tarcharee1980
 
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
feeonameray
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behavioreพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
supreechafkk
 
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
off5230
 

Semelhante a การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต (20)

Movement
MovementMovement
Movement
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
 
อาณาจักรสัตว์Science
อาณาจักรสัตว์Scienceอาณาจักรสัตว์Science
อาณาจักรสัตว์Science
 
Animal55
Animal55Animal55
Animal55
 
ใบความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
ใบความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต ใบความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
ใบความรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
Microscope
MicroscopeMicroscope
Microscope
 
Movement
MovementMovement
Movement
 
อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์อาณาจักรสัตว์
อาณาจักรสัตว์
 
Unit 7
Unit 7Unit 7
Unit 7
 
ความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิตความหลากหลายของชีวิต
ความหลากหลายของชีวิต
 
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
อนุกรมวิธาน+อาณาจักรสัตว์
 
ชีววิทยาเรื่องระบบขับถ่าย Excretion
ชีววิทยาเรื่องระบบขับถ่าย Excretionชีววิทยาเรื่องระบบขับถ่าย Excretion
ชีววิทยาเรื่องระบบขับถ่าย Excretion
 
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behavioreพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
พฤติกรรมของสิ่งมีชีวิต - Behaviore
 
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
Hr1 Type And Physical Prop Fth 467
 
Original insect2
Original insect2Original insect2
Original insect2
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
 
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังการเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
 

Mais de โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม

ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
 

Mais de โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม (20)

พันธุกรรม2
พันธุกรรม2พันธุกรรม2
พันธุกรรม2
 
พันธุกรรม2
พันธุกรรม2พันธุกรรม2
พันธุกรรม2
 
พันธูกรรม1
พันธูกรรม1พันธูกรรม1
พันธูกรรม1
 
ฮอร์โมน
ฮอร์โมนฮอร์โมน
ฮอร์โมน
 
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
 
Knowledge
KnowledgeKnowledge
Knowledge
 
ยีนและโครโมโซม
ยีนและโครโมโซมยีนและโครโมโซม
ยีนและโครโมโซม
 
พันธุกรรม
พันธุกรรมพันธุกรรม
พันธุกรรม
 
Reproduction
ReproductionReproduction
Reproduction
 
Reproduction
ReproductionReproduction
Reproduction
 
เกรด.5ปี53.
เกรด.5ปี53.เกรด.5ปี53.
เกรด.5ปี53.
 
เกรด.5ปี53
เกรด.5ปี53เกรด.5ปี53
เกรด.5ปี53
 
เกรดม.4ปี53
เกรดม.4ปี53เกรดม.4ปี53
เกรดม.4ปี53
 
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิตหน่วยของสิ่งมีชีวิต
หน่วยของสิ่งมีชีวิต
 
1 repro
1 repro1 repro
1 repro
 
Hemo
HemoHemo
Hemo
 
Hemo
HemoHemo
Hemo
 
การอสอนประวัติศาสตร์
การอสอนประวัติศาสตร์การอสอนประวัติศาสตร์
การอสอนประวัติศาสตร์
 
ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
ประชุมจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
 
แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดแบบฝึกหัด
แบบฝึกหัด
 

การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต

  • 1. การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต การเคลื่อนไหว เปนการเคลื่อนยายเพียงบางสวนของ รางกาย การเคลื่อนที่ เปนการเคลื่อนยายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง * การเคลื่อนที่จะตองมีการเคลื่อนไหวดวยเสมอ แตการเคลื่อนไหว ไมจําเปนตองมีการเคลื่อนที่ดวย การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลลเดียว โครงรางสัตว(animal skeleton) แบงออกเปน 2 ประเภท คือ การเคลื่อนไหวโดยอาศัยการไหลของไซโทพลาสซึม 1. Hydroskeleton or hydrostatic skeleton อมีบา(amoeba) 2. Hard skeleton 2.1 Exoskeleton 2.2 Endoskeleton การเคลื่อนไหวของอมีบา ในเซลลอมีบา การยื่น pseudopodium ออกไปเกิดจากการ ยืดและหดตัวของ actin filaments การเคลื่อนไหวอาศัยการไหลของไซโทพลาสซึม โดยแบงเปน 2 สวน คือ ectoplasm(แข็ง) และ endoplasm(เหลว) Actin และ Miosin ประกอบกันเปน microfilament( เปนเสนใยโปรตีนเล็กๆ) หดตัวและคลายตัวได ทําใหเกิดการไหล ของไซโทพลาสซึม ทําใหเกิดเทาเทียม(pseudopodium) การเคลื่อนที่แบบอะมีบา (amoebiod movement) ไดแก อมีบา เม็ดเลือดขาว ราเมือก 1
  • 2. การเคลื่อนไหวโดยการใชแฟลกเจลลัม หรือซิเลีย Euglena แฟลกเจลลัม(flagellum) ซิเลีย(cilia) A comparison of the beating of flagella and cilia Microtubules เปนแกนของ flagellum และ cilia 2
  • 3. Centrosome containing a pair of centrioles การเคลื่อนที่ของไฮดรา (Hydra) ตีลังกา เคลือบคลานเหมือนหนอน ลอยไปตามน้ํา planaria การเคลื่อนที่ของพลานาเรีย(planaria) Phylum platyhelminthes มีกลามเนื้อ 3 ชนิด คือ circular muscle ,longitudinal muscle,oblique muscle เคลื่อนที่ไปโดยการลอยไปตามผิวน้ําหรือคลืบคลาน ทางดานลางมีซิเลียชวยในการโบกพัดชวยใหเคลื่อนตัวไดดียิ่งขึ้น 3
  • 4. การเคลื่อนที่ของหนอนตัวกลม(round worm) การเคลื่อนทีของไสเดือน(earth worm) ่ Phylum nematoda ไดแก พยาธิไสเดือน พยาธิปากขอ พยาธิเสนดาย หนอนน้ําสมสายชู มีเฉพาะกลามเนื้อตามยาวของลําตัว(longitudinal muscle) การเคลื่อนที่ทําใหเกิดลักษณะสายไปสายมา การเคลื่อนที่ของไสเดือน(earth worm) - Phylum annelida - กลามเนื้อ 2 ชุดคือ กลามเนื้อวงกลม (circular muscle) อยูทางดาน นอก และกลามเนื้อตามยาว (longitudinal muscle) ตลอด ลําตัวอยูทางดานใน - เดือย(setae) การเคลื่อนที่ของแมงกะพรุน(jelly fish) Phylum coelenterata เคลื่อนที่โดยการหดตัวของ เนื้อเยื่อที่อยูบริเวณของรมและ ผนังลําตัวทําใหน้ําพนออกมา ทางดานลาง 4
  • 5. การเคลื่อนที่ของหมึก(squid) การเคลื่อนที่ของหมึก(squid) การเคลื่อนที่ของดาวทะเล(sea star) Exoskeleton -พบในพวก mollusk และแมลง -เปนโครงรางเปลือกแข็งหุมอยูภายนอกรางกาย โดย สวนประกอบของเปลือกเปนพวก crystallized mineral salt และไมมเซลล (acellular) เชน แคลเซียมคารบอเนต ี ใน mollusk, chitin ในแมลง -exoskeleton นอกจากจะทําหนาทีค้ําจุนรางกายแลว ยัง ่ ชวยปองกันการสูญเสียน้ํา -การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นโดยการหด-คลายตัวของกลามเนื้อ ที่ยึดติดกับ exoskeleton 5
  • 6. -กลามเนื้อที่ทําใหเกิดการเคลื่อนไหวมี 2 ชุด คือ การเคลื่อนทีของแมลง ่ 1. Flexors ทําใหเกิดการโคงงอของขอตอเมื่อหดตัว 2. Extensors ทําใหเกิดการยืดตัวของขอตอเมื่อ หดตัว -กลามเนื้อทั้งสองชุดนี้จะทํางานตรงขามกัน เมื่อ กลามเนื้อชนิดหนึ่งหดตัว อีกชนิดหนึ่งจะคลายตัว (antagonism) Moving the exoskeleton: Joints and muscle attachments insect Exoskeleton เปนสารพวกไคติน ขอตอขอแรกของขากับลําตัว แบบ ball and socket สวนขอตออื่นๆเปนแบบบานพับ การเคลื่อนไหวเกิดจาการทํางานสลับกันของกลามเนื้อ flexer กับ extensor เปนแบบ antagonism Flexor = งอ Extensor = คลาย 6
  • 7. การเคลื่อนที่ของปลา มีรูปรางแบนเพรียวบาง และเมือก มีเกล็ด ชวยลดแรงเสียดทาน เมื่อกลามเนื้อที่ยึดติดกับกระดูกสันหลังดานใดดานหนึ่งหดตัว(เริ่ม จากสวนหัวมาทางหาง)ทําใหเกิดการโบกพัดของครีบหาง (cadal fin) ดันใหตัวพุงไปขางหนาโดยมีครีบหลัง(drosal fin) ชวยในการทรงตัวไมใหเสียทิศทาง เมื่อกลามเนื้อที่ยึดติดกระดูกสันหลังดานหนึ่งหดตัว(เริ่มจากสวน หัวมาทางสวนหาง) ครีบอก(pectoral fin) และครีบตะโพก (pelvicfin) ซึ่ง เทียบไดกับขาหนาและขาหลังของสัตวบก จะทําหนาที่ชวยพยุง ลําตัวปลา และชวยใหเกิดการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง การเคลื่อนที่ของเตาทะเล แมวน้ํา และสิงโตทะเล มีขาคูหนาที่เปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะเปนพาย ที่เรียกวา ฟลิบเปอร (flipper) 7
  • 8. การเคลื่อนที่ของสัตวปก การเคลื่อนที่ของนก มีกระดูกที่กลวง ทําใหเบา มีกลามเนื้อที่ใชในการขยับปกที่แข็งแรง - กลามเนื้อ pectoralis major - กลามเนื้อ pectoralis minor มีถุงลม (air sac) มีขน (feather) Endoskeleton ถุงลม (air sac) -พบในสัตวมกระดูกสันหลังทุกชนิด ี -เปนโครงรางแข็งที่แทรกตัวอยูในเนือเยือ (soft tissues) หรือภายในรางกาย ้ ่ -endoskeleton ประกอบดวย living and metabolizing cells (ตางจาก exoskeleton) แบงเปน 1. cartilage เปนสวนประกอบของ protein collagen และ complex polysaccharide 2. bone ประกอบดวย collagen ปนอยูกับ apatite (calcium and phosphate salt) -นักกายวิภาคศาสตรแบงกระดูกออกเปน 2 สวน 1. Axial skeleton: กระดูกกะโหลก (skull), กระดูกสันหลัง (vertebral column), กระดูกซี่โครง (rib) 2. Appendicular skeleton: เปนกระดูกที่ตอออกมาจาก axial skeleton แบงเปน 2.1 Fore-limb bone (กระดูกแขน) ยึดติดกับ axial skeleton โดยกระดูก pectoral girdle (clavicle, scapula) 2.2 Hind-limb bone (กระดูกขา) ยึดติดกับ axial skeleton โดยกระดูก pelvic girdle (ilium, sacrum, pubis, ischium) โครงสรางของกระดูก (pectoral girdle) การจําแนกชนิดกระดูก 1. กระดูกแทงยาว (long bone) ไดแก ตนแขน,ปลาย สีน้ําเงิน คือ กระดูกแกน 80 ชิ้น ilium แขน,ตนขา,หนาแขง,กระดูกนอง,ไหปลารา sacrum pubis สีเหลือง คือ กระดูกรยางค 126 ชิ้น ischium 2. กระดูกแทงสั้น (short bone) ไดแก ขอมือ,ขอเทา 3. กระดูกแบน (flat bone) ไดแก กะโหลก,เชิงกราน, สะบัก,อก,ซี่โครง 4. กระดูกรูปรางไมแนนอน (irregular bone) ไดแก สันหลัง,แกม,ขากรรไกร 8
  • 9. ขอตอ (articulation หรือ Joint) ชนิดขอตอ -ขอตอ: เปนบริเวณที่กระดูกมาตอกับ 1. ขอตอไฟบรัส (fibrous joint) เปนขอตอที่เคลื่อนไหว กระดูก มี synovial memebranes ไมไดและมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบางๆ ยึดกระดูกสองชิ้นไว หรืออาจ มาหุมบริเวณขอตอ เพือปองกันการ ่ หุมภายนอกไว เชน กระดูกกะโหลกศรีษะ เสียดสีระหวางกระดูก จะมีกระดูก ออนมาทําหนาที่เปนหมอนรอง และ 2. ขอตอกระดูกออน (cartilagenous joint) เปนขอตอที่ มี synovial fluid ทําหนาที่เปนสาร เคลื่อนไหวไดเล็กนอย เชนขอตอระหวางกระดูกซี่โครงกับ หลอลื่น กระดูกอก ขอตอระหวางทอนกระดูกสันหลัง ขอตอระหวาง -Ligament: เปนเอ็นที่ยึดระหวาง กระดูกเชิงกรานซีกซายกับซีกขวาทางดานหัวหนาว กระดูกกับกระดูก -Tendon: เปนเอ็นทียึดระหวาง ่ 3. ขอตอซิลโนเวียล (sylnovial joint) เปนขอตอที่ กลามเนื้อกับกระดูก เคลื่อนไหวไดมาก ประกอบดวยกระดูกอยางนอย 2 ชิ้น ขอตอซิลโนเวียล (sylnovial joint) The skeleton-muscle connection แบบตางๆ -การเคลื่อนไหวสวนตาง ๆ ของ รางกายเกิดจากการทํางานรวมกัน 1 แบบที่ 1 พบที่ใดของรางกาย.......... ของ nerves, bones, muscles แบบที่ 2 พบที่ใดของรางกาย.......... -การหด-คลายตัวของกลามเนื้อ แบบที่ 3 พบที่ใดของรางกาย.......... เปนการทํางานรวมกันของ กลามเนื้อ 2 ชุด ที่ทํางานตรงขาม กัน เชน การงอแขน :กลามเนื้อ biceps (flexor) หดตัว 2 (เปน agonist) :กลามเนื้อ triceps(extensor) คลาย ตัว (เปน antagonist) 3 9
  • 10. The power arm-load arm concept Origin and insertion -ในการเคลื่อนของกระดูก จะมีกระดูกทอนหนึ่ง -ที่ปลายทั้งสองขางของกลามเนื้อ ทําหนาที่เปนจุดหมุน (falcum) แตละมัดจะยึดติดกับกระดูก โดย -ความเร็วในการเคลื่อนที่ หรือความสามารถใน ดานที่ยึดติดกับกระดูกเฉย ๆ การรองรับน้ําหนักของกระดูกขึ้นอยูกับ (ติดกับกระดูกที่ไมเคลื่อนที่) อัตราสวนของ power arm ตอ load arm เรียก origin สวนปลายทียึดกับ ่ -power arm: ระยะทางระหวางจุดที่กลามเนื้อยึด กระดูกที่มีการเคลือนไหว เรียก ่ กับกระดูกถึงจุดหมุน insertion -load arm: ระยะทางระหวางจุดหมุนถึงบริเวณที่ -Tendon ที่ origin มักจะกวาง ที่ ใชในการเคลือนไหว เชน เทา หรือมือ ่ insertion มักจะแคบ เพือจํากัด ่ -ถาอัตราสวน power arm/load arm ต่ํา เชน ใน ความแรงในการหดตัวของ เสือชีตา กระดูกจะเคลือนที่ไดเร็ว ่ กลามเนื้อเกิดขึ้นเฉพาะจุด -ถาอัตราสวน power arm/load arm สูง เชน ในตัว badger กระดูกจะรับน้ําหนักไดมาก กลามเนื้อแบงออกไดเปน 3 ชนิด กลามเนื้อ (Muscular tissue) กลามเนื้อทําหนาที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ รางกาย ประกอบดวยเซลลที่มีลักษณะยาว อาจ เรียกเซลลกลามเนื้อไดวา เสนใยกลามเนื้อ  (muscle fiber) ในไซโตพลาสซึมของเสนใย กลามเนื้อมีโปรตีนที่เปนองคประกอบที่สําคัญ 2 ชนิด คือ actin และ myosin สวนประกอบของเซลลกลามเนื้อจะมีชื่อเฉพาะแตกตางไปจาก กลามเนื้อแบงออกไดเปน 3 ชนิด ขึ้นอยูกบตําแหนงที่ ั เซลลชนิดอื่นๆ ไดแก พบ โครงสราง และหนาที่ ไดแก Cell membrane ของเซลลกลามเนื้อ 1. กลามเนื้อเรียบ (smooth muscle) = Sarcolemma 2. กลามเนื้อสเกเลทัล (skeletal muscle) Cytoplasm = Sarcoplasm 3. กลามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle) Endoplasmic reticulum = Sarcoplasmic reticulum 10
  • 11. Skeletal muscle กลามเนื้อสเกเลทัล (Skeletal muscle) Nucleus ของ กลามเนื้อในรางกายสวนใหญเปนกลามเนื้อสเกเลทัล muscle fiber กลามเนื้อนี้เกาะยึดติดกับกระดูก สามารถหดตัวไดเมื่อถูก กระตุน และอยูภายใตการควบคุมของระบบประสาท Muscle fiber สวนกลาง (voluntory muscle) ลักษณะของเซลลกลามเนื้อเปนรูปทรงกระบอก ซึ่งมีความยาวมาก เซลล มีขนาดใหญมีหลายนิวเคลียสเรียงชิดอยูกับเยื่อหุมเซลล มีลายตามขวาง คือ มีแถบสีจางสลับกับแถบสีเขม ดังนั้นอาจเรียกกลามเนื้อชนิดนี้ไดวา กลามเนื้อลาย (striated muscle) ภาพตัดตามขวางของ skeletal muscle การเรียงตัว ประกอบกันเปนมัด กลามเนื้อ skeleton มีเยื่อ เกี่ยวพันหุมเปน Sarcolemma ขั้นตอน และทั้งมัด (เยื่อหุมเซลล) กลามเนื้อจะติดตอ กับเอ็นซึ่งไปยึดติด กับกระดูก Nucleus เรียงชิดอยูกับ sarcolemma การที่มองเห็นเซลลกลามเนื้อมีลายตามขวางเนื่องจาก ภายใน sarcoplasm มีเสนใยฝอยซึ่งเปน สวนประกอบที่สําคัญทําใหกลามเนื้อหดตัวไดเรียกวา myofibril เปนจํานวนมาก ใน myofibril มี โปรตีน actin และ myosin เรียงอยางเปนระเบียบ มองเห็นมีแถบ (band) หรือเสน (line) ที่ชัดและทึบ สลับกันไปตลอด 11
  • 12. ใน Sarcoplasm นอกจากมีโปรตีนสําคัญที่เกียวของกับกลไกการ ่ หดตัวของกลามเนื้อแลว ยังมี Organelles ที่สาคัญไดแก ํ Sarcoplamic reticulum ซึ่งคือ SER ที่เปลียนไปเปนทอที่ ่ ตอเนื่องกัน ลอมรอบกลุมเสนใยของกลามเนื้อ ทําหนาที่เปนแหลงเก็บ  สะสม Ca2+ Sarcolemma มีโครงสรางที่พับซอนกันเปนหลอดบางและยาวตาม แนวขวาง เรียกวา Transverse tubule เปนทางติดตอจากผิว ภายนอกของเซลลเขาไปติดตอกับ Sarcoplamic reticulum สานประกอบอื่นๆภายใน Sarcoplasm ไดแก RER , ribosome และ Golgi complex มีอยูเปนจํานวนนอย เพราะ เซลลกลามเนื้อไมมีหนาที่เกี่ยวกับการสรางโปรตีน เซลลกลามเนื้อหัวใจประกอบดวย หนึงหรือ สอง ่ กลามเนื้อหัวใจ (Cardiac muscle) นิวเคลียสอยูตรงกลางเซลล เซลลมีขนาดสั้นกวาเซลล กลามเนื้อ skeleton และปลายแยกเปนสองแฉก กลามเนื้อหัวใจพบแหงเดียวคือกลามเนื้อที่หัวใจ และ (bifurcate) ซึ่งจะไปตอกับเซลลอื่นๆในลักษณะเปน ผนังของเสนเลือดใหญที่ตอกับหัวใจ เปนกลามเนื้อที่มี รางแห ที่รอยตอของเซลลดานขวางจะยึดติดกันแนน มี ลายเชนเดียวกับ skeletal muscle ตางกันที่ ลักษณะการเชื่อมโยงอยางซับซอน เรียกวา กลามเนื้อหัวใจอยูนอกการควบคุมของระบบประสาท intercalated disc มองเห็นไดชัดเจนดวยกลอง สวนกลาง (Involuntory muscle) และการทํางาน จุลทรรศนธรรมดา เกิดขึ้นติดตอกันตลอดเวลา Cardiac muscle กลามเนื้อเรียบ (Smooth muscle) ในเซลลกลามเนือเรียบไมเห็นลาย ถึงแมวาภายในเซลลจะมีแอกทิน และ ้ ไมโอซิน แตการเรียงตัวไมเปนระเบียบเหมือนอยางใน skeletal muscle และ Cardiac muscle ลักษณะเซลลของกลามเนือเรียบ ้ เปนรูปกระสวย หัวทายแหลม และมีหนึ่งนิวเคลียสอยูกลางเซลล Nucleus อยูกลางเซลล กลามเนื้อเรียบอยูนอกการ ควบคุมของระบบประสาท สวนกลาง(involuntory muscle) พบไดที่ผนังของ อวัยวะภายในระบบตางๆของ nucleus รางกาย และเสนเลือด Intercalated disc 12
  • 13. Smooth muscle Smooth muscle ที่ผนังเสนเลือดแดง กลามเนื้อเรียบอยูนอก การควบคุมของระบบ ประสาทสวนกลาง (involuntory muscle) พบไดทผนัง ี่ ของอวัยวะภายในระบบ ตางๆของรางกาย และ เสนเลือด The structure of skeleton muscle การหดตัวของกลามเนื้อ skeleton -skeleton muscle เกิดจากมัดของ muscle fiber -การหดตัวของกลามเนื้อ skeleton (cell) มารวมกัน เกิดจากการเลื่อนเขามาซอนกันของ -muscle fiberแตละอันคือ 1 เซลลที่มีหลาย thin filament เรียก sliding-filament นิวเคลียส ที่เกิดจากหลาย ๆ เซลลในระยะแรก model มารวมกัน -การหดตัวของกลามเนื้อเกิดโดยความ -แตละ muscle fiber เกิดจากมัดของ myofibrils กวางของ sarcomere ลดลง, ระยะทาง มารวมกัน ระหวาง Z line สั้นลง, A band คงที่, -myofibrilsประกอบดวย myofilaments 2 ชนิด คือ I band แคบเขา, H zone หายไป 1.Thin filamentเกิดจากactin 2 สายและ regulatory protein (tropomyosin) 1 สาย มาพันกัน -พลังงานที่ใชในการหดตัวของ 2.Thick filament เกิดจากmyosinมารวมกันเปนมัด กลามเนื้อหลัก ๆ อยูในรูปของ  -การจัดเรียงตัวของ myofilaments ทําใหเกิด creatine phosphate light-dark band ซ้ําๆ กัน เรียกแตละหนวยที่ซ้ํา กันนี้วา sarcomere (ดังรูป) Sliding-filament model การควบคุมการหดตัวของกลามเนื้อ 1.สวนหัวของ myosin จับกับ ATP, อยูในรูป low-energy configuration -skeleton muscle หดตัวเมื่อไดรับการ 2.myosin head(ATPase) สลาย กระตุนจาก motor neuron ATP ได ADP+Pi, อยูในรูป -ในระยะพัก บริเวณที่เปนตําแหนงที่ high-energy configuration myosin มาเขาจับ บนสาย actin (myosin binding site) ถูกปดดวยสายของ tropomyosin โดยการเปด-ปดของ tropomyosin ถูกควบคุมดวย troponin 3.myosin head เกิด cross-bridge complex กับสาย actin -binding site จะเปดเมือ Ca2+ เขามาจับ ่ กับ troponin 4.ปลอย ADP+Pi, myosin กลับสู low-energy configuration ทําใหเกิดแรงดึง thin filament เขามา 5.ATPโมเลกุลใหมเขามาจับกับ myosin head ทําให myosinหลุดจาก actin, เริ่มวงจรใหม 13
  • 14. สรุปการหดตัวของกลามเนื้อ -sarcoplasmic reticulum (SR) เปนแหลงเก็บ Motor end-plate 1.Ach หลั่ง 2.Action potential เคลื่อนไป T tubule Ca2+ ในเซลลกลามเนือ ้ จาก neuron -เมื่อ action potential จาก motor neuron จับ receptor มาถึงบริเวณ synaptic terminal ทําใหมีการ หลั่ง Ach ที่ neuromuscular junction, เกิด depolarization ที่เซลลกลามเนื้อ 3.SR หลั่ง Ca2+ -action potential แพรไปยังเยื่อเซลลของ กลามเนื้อที่เรียกวา T (transverse) tubules 7.tropomyosinปด binding -ตําแหนงที่ T tubules สัมผัสกับ SR ทําใหมี 4.Ca2+จับtroponin, site, หยุดการหดตัวของ binding silt เปด การหลั่ง Ca2+ กลามเนื้อ -การหดตัวของกลามเนื้อจะหยุดเมื่อ SR ปม Ca2+ จาก cytoplasm กลับเขามาเก็บใน SR 6.ปมCa2+ กลับสู SR 5.กลามเนื้อหดตัว การหดตัวของมัดกลามเนื้อ Motor unit -ในมัดกลามเนือแตละมัดประกอบดวย muscle fiber หลายเซลลมารวมกัน ้ -ในสัตวมีกระดูกสันหลัง muscle cell 1 -การตอบสนองตอแรงกระตุนของ muscle fiberเปนแบบ all-or-none (เหมือน เซลลจะถูกควบคุมโดย motor neuron 1 neuron) และแตละ muscle fiber มี threshold ในการหดตัวไมเทากัน เซลลเทานั้น -การหดตัวของมัดกลามเนื้อแตละครั้ง (single twitch) ขึ้นอยูกับความแรงที่มากระตุน -แต 1 motor neuron อาจควบคุมการ -ถากลามเนื้อไดรับการกระตุน 2 ครั้งตอเนื่องกัน&มีระยะหางพอเหมาะ จะทําให ทํางาน >1 muscle cell ความแรงในการหดตัวครั้งที่ 2 เพิ่มขึ้น (summation) -Motor unit ประกอบดวย 1 motor -Tetanus เปนการหด(เกร็ง)โดย neuron และmuscle fiber ทั้งหมดที่ ไมมีการคลายตัวของกลามเนื้อ neuron ควบคุม จากการกระตุนถี่ๆ และตอเนื่อง -กลามเนื้อที่ตองการการเคลื่อนไหวที่ -Fatigue (การลา) เปนสภาพที ละเอียดออน จะมีอัตราสวนระหวาง กลามเนื้อหมดความสามารถใน motor neuron/muscle cell ต่ํา เชน การหดตัว กลามเนื้อลูกตา (1/3-4) การหดตัวของ smooth muscle การหดตัวของ cardiac muscle -smooth muscle cell พบที่อวัยวะที่ มีลักษณะเปนทอกลวง เชน -มี 1 nucleus/1 cell เซลลมีการแตก ทางเดินอาหาร, หลอดเลือด, แขนง(bifurcate)และเชื่อมกับเซลลขาง อวัยวะสืบพันธุ, iris ของลูกตา เคียงดวย gap junction เรียก intercalated และทอของตอม disk -มีรูปรางคลายกระสวย มี 1 -มีการจัดเรียงตัวของ actin-myosin ทํา nucleus/1 cell การหดตัวเปน ใหเห็นเปนลาย, มี SR involuntary -cardiac muscle สามารถหดตัวไดเองอยางเปนจังหวะ -ไมมีการจัดเรียงตัวของactin-myosin ทําใหไมเห็นเปนลาย, ปลาย actin มักยึดติดกับ -หัวใจสัตวมีกระดูกสันหลังหดตัวไดเองเรียก myogenic heart (muscle-generated) เยื่อเซลล, ไมมี SR ดังนั้น Ca2+ แพรผานเขามาทางเยื่อเซลล -หัวใจของกุง, ปู, แมงมุม ตองไดรับการกระตุนจาก nerve เรียก neurogenic heart -การหดตัวจะชากวา striated muscle แตการหดตัวนั้นจะอยูไดนานกวา (nerve-driven) 14