12. ประเภทของฟอร์ม
ฟอร์มแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. SDI Form (Single Document Interface Form) เป็นฟอร์มที่สามาระ
ทำางานได้อย่างอิสระ สามารถที่จะวางเครื่องมือต่าง ๆ ได้
รูปที่ 2-1 SDI Form
2. 2. MDI Form (Multiple Document Interface Form) เป็นฟอร์มที่ใช้
บรรจุ SDI Form ไว้ โดย SDI Form ที่จะบรรจุอยู่ภายใต้ MDI Form จะต้อง
กำาหนดคุณสมบัติของฟอร์มให้เป็น MDI child ก่อน สำาหรับ MDI Form จะ
สามารถวางเครื่องมือได้เพียงบางอย่างเท่านั้น
รูปที่ 2-2 MDI Form
ใน Project แต่ละ Project
นั้นจะมี SDI Form ได้ไม่จำากัด แต่จะมี MDI Form ได้เพียงแค่ 1 ฟอร์ม
12
13. เท่านั้น และสำาหรับ Project ใดก็ตามที่มีการเรียกใช้ MDI Form และได้
กำาหนดคุณสมบัติของ SDI Form ให้เป็น MDI Child เมื่อทำาการปิด MDI
Form แล้วนั้นจะมีผลทำาให้ SDI Form ที่เป็น MDI Child ถูกปิดตามไปด้วย
พร็อพเพอร์ตี้ที่สำาคัญของฟอร์ม
Name ใช้สำาหรับกำาหนดชื่อ
BackColor ใช้สำาหรับกำาหนดสีพื้น
BorderStyl
e
ใช้สำาหรับกำาหนดรูปแบบของเส้นขอบ
Caption
ใช้สำาหรับกำาหนดข้อความบน Title Bar ของ
Form
ControlBo
x
ใช้สำาหรับกำาหนดให้มีปุ่มควบคุมของ Form
Enabled
ใช้สำาหรับกำาหนดให้ Form สามารถใช้งานได้
หรือไม่
Font
ใช้สำาหรับกำาหนดตัวอักษรของข้อความอุปกรณ์
ต่าง ๆ ใน Form
ForeColor
ใช้สำาหรับกำาหนดสีตัวอักษรของข้อความอุปกรณ์
ต่าง ๆ ใน Form
MaxButton
ใช้สำาหรับกำาหนดให้มีปุ่มขยายขนาดของ Form
MDI Child
ใช้สำาหรับกำาหนดให้ Form มีคุณสมบัติเป็น
Form ย่อยของ MDI Form
MinButton ใช้สำาหรับกำาหนดให้มีปุ่มย่อขนาดของ Form
Moveable
ใช้สำาหรับกำาหนดให้ Form สามารถย้ายตำาแหน่ง
ได้หรือไม่
Picture ใช้สำาหรับกำาหนดรูปบน Form
ShowInTas
kbar
ใช้สำาหรับกำาหนดให้มีไอคอนแสดงบน Taskbar
StartUpPos
ition
ใช้สำาหรับกำาหนดตำาแหน่งการแสดง Form บน
จอภาพ
Visible ใช้สำาหรับกำาหนดให้ซ่อนหรือแสดง Form
13
14. WindowSta
te
ใช้สำาหรับกำาหนดขนาดของ Form เมื่อมีการ
ทำางาน
เมธอดที่สำาคัญของ Form
Hide เป็นการทำางานที่สั่งให้ซ่อน Form
Line เป็นการทำางานที่สั่งให้วาดเส้นลงบน Form
Move
เป็นการทำางานที่สั่งให้ Form ย้ายตำาแหน่งไปยัง
ตำาแหน่งที่กำาหนด
Print
เป็นการทำางานที่สั่งให้พิมพ์ Form ออกทาง
เครื่องพิมพ์
Show เป็นการทำางานที่สั่งให้แสดง Form
Unload
เป็นการทำางานที่สั่งให้ยกเลิกการใช้งานของ
Form
อีเวนต์ที่สำาคัญของ Form
Activate
จะเกิดขึ้นเมื่อเลือกใช้งาน Form กรณีที่มีการเปิด
Form หลาย ๆ Form พร้อมกัน
Initialize
จะเกิดขึ้นเมื่อ Form ถูกโหลดเข้าไปในหน่วยความ
จำา
Load
จะเกิดขึ้นเมื่อ Form แสดงผลหลังจากที่ถูกโหลด
เข้าไปในหน่วยความจำา
QueryUnlo
ad
จะเกิดขึ้นเมื่อมีการปิด Form
Terminate จะเกิดขึ้นเมื่อ Form ถูกลบออกจากหน่วยความจำา
Unload จะเกิดขึ้นเมื่อ Form ถูกยกเลิกการใช้งาน
การกำาหนดค่าพร็อพเพอร์ตี้ของ Form สามารถจะกำาหนดได้ 2 วิธีด้วยกันคือ
1. กำาหนดจาก Properties Window
14
37. ขอบเขตของตัวแปร (Scope of Variable)
ใน Visual Basic สำมำรถแบ่งขอบเขตตัวแปรได้ 2 ประเภท คือ
1. ตัวแปรแบบ Local
2. ตัวแปรแบบ Public
ตัวแปรแบบ Local
หมำยถึง ตัวแปรที่ประกำศขึ้นมำ ให้สำมำรถเรียกใช้งำนได้ ในเฉพำะ
โพรซีเดอร์ที่ประกำศเท่ำนั้น มักใช้ประกำศตัวแปรที่ต้องกำรใช้ชั่วครำว หรือ
ต้องกำรใช้ในโพรซีเดอร์นั้นๆ
ตัวอย่ำง
Private Sub AddNum_Click( )
Dim x As Integer
Dim y As Integer
x = 5
y = 6
x = x + y
End Sub
Private Sub DelNum_Click( )
Dim x As Integer
Dim y As Integer
x = 3
y = 2
จำกตัวอย่ำง ตัวแปร x และ y ถูกประกำศใน Sub AddNum และ Sub
DelNum ซึ่ง x และ y ใน AddNum จะเป็นคนละตัวกับ x และ y ใน
DelNum
37
38. ตัวแปรแบบ Public
หมำยถึง ตัวแปรที่ประกำศขึ้นในส่วนบนหลัง Option Explicit ทำำให้สำมำรถ
เรียกใช้งำนได้ทุกโพรซีเดอร์ในฟอร์มนั้น กรณีที่ประกำศตัวแปรแบบ Public
ใน Module จะทำำให้ตัวแปรนั้นสำมำรถเรียกใช้งำนได้จำกทุกฟอร์ม
ตัวอย่ำง
Option Explicit
Dim x as Integer
Dim y as Integer
Private Sub AddNum_Click( )
x = 5
y = 6
x = x + y
End Sub
Private Sub DelNum_Click( )
x = x - y
End Sub
จำกตัวอย่ำง ตัวแปร x และ y ถูกประกำศในถัดจำก Option Explicit ก่อน
Sub AddNum ทำำให้ตัวแปร x และ y ใน Sub AddNum และ Sub
DelNum เป็นตัวแปรตัวเดียวกัน
ตัวแปรอำร์เรย์ (Array)
ตัวแปรอำร์เรย์ เป็นกลุ่มของตัวแปรที่ประกำศขึ้นมำ โดยใช้ชื่อของเดียวใช้ค่ำ
Index ในกำรอ้ำงถึง ประโยชน์ของตัวแปรชนิดนี้คือ กรณีที่ต้องกำรมีกำรใช้
ตัวแปรจำำนวนมำก กำรประกำศตัวแปรสำมำรถประกำศเพียงชื่อเดียว ลดควำม
ซำ้ำซ้อนของตัวแปร และทำำให้ง่ำยต่อกำรเรียกใช้ มีรูปแบบกำรประกำศดังนี้
Dim Varname(amount) as Datatype
Dim คือ คำำสั่ง (statements) สำำหรับประกำศ
ตัวแปร
varname คือ ชื่อของตัวแปรอำร์เรย์ที่ต้องกำรประกำศ
amount คือ จำำนวนสมำชิกของอำร์เรย์
As คือ ส่วนที่บอกให้ Visual Basic ทรำบว่ำ
ต้องกำรกำำหนดชนิดของข้อมูล
38
40. จำกตัวอย่ำงเป็นกำรประกำศตัวแปรอำร์เรย์ชื่อ ccode โดยไม่ระบุจำำนวน
สมำชิก และเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร
เมื่อต้องกำรใช้งำนตัวแปรจะต้องระบุจำำนวนสมำชิกให้กับตัวแปรอำร์เรย์ โดย
ใช้คำำสั่งดังนี้
Redim ccode(5)
จำกตัวอย่ำงเป็นกำรกำำหนดให้ตัวแปรอำร์เรย์ ccode ที่ได้ประกำศไว้แล้วให้มี
จำำนวนสมำชิก 5
ข้อดีของตัวแปรอำร์เรย์แบบไดนำมิกคือ จำำนวนสมำชิกของอำร์เรย์จะถูก
กำำหนดให้มีควำมเหมำะสมต่อกำรใช้งำนเนื่อง เนื่องจำกสำมำรถระบุจำำนวน
สมำชิกได้ภำยหลัง แต่ตัวแปรอำร์เรย์แบบสแตติกจะต้องระบุจำำนวนสมำชิกทันที
ที่มีกำรประกำศตัวแปร กำรสร้ำงชนิดของตัวแปรขึ้นใช้เอง (User-
defined data type)
กรณีที่ต้องกำรเก็บข้อมูลเป็นชุดแต่ประกอบด้วยข้อมูลหลำย ๆ ชนิด สำมำรถ
ทำำได้โดยกำรสร้ำงชนิดข้อมูลพิเศษขึ้นมำ โดยนำำชนิดของข้อมูลพื้นฐำนดัง
กล่ำวทั้งหมดมำสร้ำงตำมที่ต้องกำรโดยมีรูปแบบดังนี้
[Public I Private] Type Varname
elementname [([subscripts])] As type
[elementname [([subscripts])] As type]
……
End Type
Public(Opt
ional)
คือ ส่วนที่กำำหนดให้ค่ำคงที่สำมำรถใช้ได้ทั้ง
โปรเจ็กต์ ทุกโมดูล
Private(Op
tional)
คือ ส่วนที่กำำหนดให้ค่ำคงที่สำมำรถใช้ได้
เฉพำะโมดูลที่ประกำศเท่ำนั้น
Varname คือ ชื่อของชนิดข้อมูลที่กำำหนดขึ้นมำใหม่
elementna
me
คือ ชื่อของตัวแปร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชนิด
ข้อมูลที่สร้ำงขึ้นมำ
Subscripts คือ จำำนวนสมำชิกกรณีที่ต้องกำรให้เป็น
ตัวแปรอำร์เรย
Type คือ ชนิดของข้อมูลพื้นฐำนแต่ละตัว
ตัวอย่ำง
Type Customer
40
41. CustName As String
Address As String
Age As Integer
End Type
จำกตัวอย่ำงเป็นกำรสร้ำงชนิดข้อมูลขึ้นมำใหม่ โดยให้ชื่อว่ำ Customer โดย
มีตัวแปรย่อย Name Address และ Age เมื่อต้องกำรใช้งำนชนิดข้อมูลดัง
กล่ำวต้องทำำกำรประกำศตัวแปรดังนี้
Dim newcust As Customer
เมื่อต้องกำรเก็บค่ำหรือนำำค่ำไปใช้ให้ใช้คำำสั่งดังนี้
newcust.CustName = "ปริษำ ปั้นดี"
newcust.Address = "123 ถ.ศรีสุมังค์ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
newcust.Age = 45
กำรประกำศค่ำคงที่ (Constant)
ค่ำคงที่ (Constant) หมำยถึงข้อมูลที่มีค่ำคงที่ไม่มีกำรเปลี่ยนแปลง ในกำร
ประกำศค่ำคงที่ต้องใช้คำำสั่ง Const เพื่อสร้ำงค่ำคงที่ มีรูปแบบดังนี้
[Public I Private] Const constname [As type] = expression
Public(Op
tional)
คือ ส่วนที่กำำหนดให้ค่ำคงที่สำมำรถใช้ได้ทั้งโปร
เจ็กต์ ทุกโมดูล
Private(O
ptional)
คือ ส่วนที่กำำหนดให้ค่ำคงที่สำมำรถใช้ได้เฉพำะ
โมดูลที่ประกำศเท่ำนั้น
Const คือ คำำสั่งสร้ำงค่ำคงที่
Constna
me
คือ ชื่อค่ำคงที่
Type
(Optional
)
คือ กำรกำำหนดชนิดของค่ำคงที่
Expressio
n
คือ ค่ำที่ต้องกำรกำำหนด
ตัวอย่ำง
Option Explicit
Const PI As Double = 3.141578
Private Sub cmdCalc_Click( )
Dim radius As Double
41
42. Dim area As Double
Radius = CDb(InputBox("กรุณำใส่ค่ำรัศมี" , "ใส่
ค่ำ")
Area = PI * (radius) ^2
MsgBox "พื้นที่วงกลม = " & Area & " ตำรำงหน่วย "
End Sub
ตัวดำำเนินกำรใน Visual Basic (Operators)
ตัวดำำเนินกำร คือ เครื่องหมำยสำำหรับกระทำำกับข้อมูลอย่ำงน้อยที่สุด 2 ชุดมำก
ระทำำอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง เช่น บวก ลบ เชื่อมต่อ เปรียบเทียบ ทดสอบค่ำ เป็นต้น
ซึ่งสำมำรถแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้
ตัวดำำเนินกำรด้ำนคณิตศำสตร์ (Arithmetic Operators)
คือเครื่องหมำยทำงคณิตศำสตร์ใช้สำำหรับกำรคำำนวณตัวเลข ดังตำรำง
ชื่อตัวดำำเนิน
กำร
ลักษณะตัวดำำเนิน
กำร
ตัวอย่ำง
กำรบวก + A + B
กำรลบ - A - B
9 กำรคูณ * A * B
กำรหำร / A / B
กำรหำรเอำแต่
จำำนวนเต็ม
A B
กำรหำรเอำแต่
เศษ
Mod A Mod B
กำรยกกำำลัง ^ A ^ B
กำรเปลี่ยน
เครื่องหมำย
- -A
ตัวดำำเนินกำรทำงด้ำนตรรกะ (Logical Operator)
42
43. คือเครื่องหมำยสำำหรับตรวจสอบเงื่อนไขระหว่ำงกลุ่มนิพจน์ โดยจะให้ผลลัพธ์
เป็นจริง (True) และเป็นเท็จ (False) หรือสร้ำงเงื่อนไขขึ้นมำเพื่อทดสอบกรณี
ต่ำง ๆ ดังตำรำง
ตัวดำำเนิน
กำร
ตัวอย่
ำง
ผลลัพธ์
And
A
And
B
เป็นจริงเมื่อทั้ง 2 นิพจน์มีค่ำเป็น
จริง
Or
A Or
B
เป็นเท็จเมื่อทั้ง 2 นิพจน์มีค่ำเป็น
เท็จ
Xor
A Xor
B
เป็นจริงเมื่อทั้ง 2 นิพจน์มีค่ำต่ำง
กัน
Eqv
A Eqv
B
เป็นจริงเมื่องทั้ง 2 นิพจน์มีค่ำ
เหมือนกัน
Imp
A
Imp B
เป็นเท็จเมื่อนิพจน์หน้ำเป็นจริง
นิพจน์หลังเป็นเท็จ
Not Not A ให้ค่ำตรงข้ำมกับค่ำของนิพจน์
ตัวดำำเนินกำรทำงด้ำนกำรเปรียบเทียบ (Comparison Operators)
เครื่องหมำยที่ใช้สำำหรับเปรียบเทียบนิพจน์ 2 นิพจน์ เพื่อทดสอบ หรือสร้ำง
เงื่อนไข โดยจะให้ผลลัพธ์เป็นจริง (True) และเป็นเท็จ (False) มักจะใช้คู่กับ
ตัวดำำเนินกำรทำงด้ำนตรรกะ เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขต่ำง ๆ เสมอ ดังตำรำง
ตัวดำำเนิน
กำร
ชื่อตัวดำำเนินกำร
< น้อยกว่ำ
> มำกกว่ำ
<= น้อยกว่ำหรือเท่ำกับ
>= มำกกว่ำหรือเท่ำกับ
= เท่ำกับ
<> ไม่เท่ำกับ
ตัวดำำเนินกำรทำงด้ำนกำรเชื่อมข้อควำม (Concentration
Operators)
43