SlideShare uma empresa Scribd logo
1 de 31
1
แผนการการสอนบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ด้วยกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
เรื่อง
โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียน
ซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
จัดทาโดย
นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา
ตาแหน่งครูผู้ช่วย
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
2
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน
เรื่อง โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 6 ชั่วโมง
1.สาระสาคัญ
โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง งานวิจัยในระดับนักเรียน เป็นการศึกษาเรื่องราวทางวิ ทยาศาสตร์ที่
ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาและแก้ปัญหารวมทั้งการ
พัฒนาจิตวิทยาศาสตร์ โดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่ม เลือกเรื่อง วางแผนในการศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งแบ่ง
ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทการทดลอง ประเภทการสารวจร วบรวมข้อมูล ประเภทสิ่งประดิษฐ์
และประเภททฤษฎี
การทาโครงงาน สารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการ
สืบเสาะ นี้เป็นโครงงานสารวจรวบรวมข้อมูล ซึ่งมุ่งเน้นให้นักเรียนจัดทาโครงงานเสนอแนวทางในการ
แก้ไขปัญหาความสิ้นเปลืองพลังงาน และวางแผนเพื่อลงมือปฏิบัติ โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
(แบบ 5 E)
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (แบบ 5 E) มีขั้นตอนดังนี้ 1.สร้างความสนใจ (Engagement) 2.ขั้น
สารวจและค้นหา(exploration) 3.ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (explanation) 4.ขั้นขยายความรู้(elaboration) 5.
ขั้นประเมิน (evoluation)
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนี้ เน้นกระบวนการเรียนการสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry
Method) โดยเน้นบทบาทของผู้เรียนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมกันหาสาเหตุของการ
สิ้นเปลืองพลังงาน และสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับผู้เรียน
3
2.มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
สาระที่ 5 พลังงาน
มาตรฐาน ว 5. 1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดารงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มี
กระบวน การสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วัดที่ 3
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถ
อธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมและสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
ตัวชี้วัดที่ 1-12
3.ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1.กาหนดหัวข้อที่สอดคล้องกับปัญหาได้อย่างเหมาะสม
2.สืบค้น รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมูลจากการสารวจ สังเคราะห์วิธีการแก้ไขปัญหา สามารถวางแผน
งานการปฏิบัติการประหยัดพลังงานได้
3.นาเสนอและเผยแพร่โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
โดยใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
4.จุดประสงค์การเรียนรู้
นักเรียนสามารถทาสิ่งต่อไปนี้ได้
ด้านความรู้ (K)
1.สารวจและเลือกเรื่องที่จะทาโครงงานได้สอดคล้องกับภารกิจ
4
2.สามารถกาหนดวัตถุประสงค์ในการทาโครงงานได้
3.สามารถตั้งสมมติฐานในการทาโครงงานได้
4.สามารถบอกหลักการและเหตุผลของการทาโครงงานได้ (ที่มาของการทาโครงงาน)
5.มีแนวความคิดในการประหยัดพลังงาน
6.สามารถค้นคว้าทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการคานวณพลังงานและการประหยัดพลังงานได้อย่างถูกต้อง
7.สามารถสารวจหาสาเหตุการสิ้นเปลืองพลังงาน ด้วยโมเดล 4Ms ได้
8.สามารถรวบรวมข้อคิดเห็นโดยการใช้แบบสารวจความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม
9.สามารถวิเคราะห์และสรุปผลการค้นคว้าโครงงานได้
10.สามารถนาข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาวางแผนเพื่อสร้างแผนปฏิบัติการได้
ด้านทักษะ/กระบวนการเรียนรู้ (P)
1.สามารถปฏิบัติงานภายในกลุ่มเพื่อสืบเสาะหาความรู้มาแก้ไขปัญหาได้
2.มีส่วนร่วมในการสืบค้นข้อมูล รวบรวมข้อมูล มีส่วนร่วมในการอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้
3.สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปผลการทาโครงงานได้
4.สามารถพัฒนาปรับปรุงและพัฒนาโครงงานด้วยโมเดลเดมมิ่ง (PDCA)
5.สามารถถ่ายทอดความรู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้าให้เกิดประโยชน์ด้วยวิธีการที่ตนถนัด
ด้านพฤติกรรมการเรียน (A)
1.ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า
2.นักเรียนเกิดระเบียบวินัยในการใช้พลังงาน
3.รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
5
5.สาระการเรียนรู้
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1
1. มารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2
2. การคานวณค่าไฟฟ้า
6.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (แบบ 5 E)
สร้างความสนใจ (Engagement)
1.ลาดับที่มาและเหตุผลในการทา โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับ
บอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ เพื่อให้นักเรียนเห็นถึงความสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งทาให้โรงเรียนเสีย
งบประมาณเพิ่มขึ้นเกือบ 10,000 บาทต่อเดือน หรือ 120,000 บาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินจานวนมากสาหรับ
โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งจะทาให้ไม่มีงบในการ ซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนในโรงเรียน การแก้ปัญหานี้จึง
จาเป็นต้องทาการศึกษาหาวิธีการแก้ไข โดยใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จัดทาโครงงานแบบ
มีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการใช้พลังงานและใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
2.ลาดับขั้นการทาโครงงาน ความหมาย คุณค่า ลักษณะ จุดมุ่งหมาย และประเภทของโครงงาน
3.ใช้คลิปวีดีโอประกอบ เช่น จาก youtube.com ประกอบการบรรยายของครูผู้สอน
ขั้นสารวจและค้นหา (exploration)
1.กาหนดหัวข้อในการสารวจเพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจการประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน
วิทยาคม ด้วยแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน ทาการสารวจจุดที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานหรือเกิดความ
เสียเปล่าของพลังงาน ด้วยแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
6
3.ใช้การสืบค้นแนวทาง ตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ต (Google.com) ทาการบันทึก สาเหตุของการ
สิ้นเปลืองพลังงานด้วยกล้องหรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หรือไฟล์ word
4.วิเคราะห์และจาแนกสภาพปัญหาการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้โมเดล 4Ms ด้วยแบบโครงงาน
สารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
5.บันทึกข้อมูลในแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยา คม
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (explanation)
1.นักเรียนสามารถเชื่อมโยงสภาพปัญหาและทฤษฎี สามารถอธิบายสภาพปัญหาด้วยทฤษฎีที่
นักเรียนได้ศึกษา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการอภิปราย
2.นาเทคโนโลยีเข้าช่วยในการวิเคราะห์เช่น Microsoft Excel ใช้ในการคานวณ ค่าไฟฟ้าเพื่อให้
สามารถคานวณได้รวดเร็วขึ้น และหาจุดคุ้มทุน เพื่อเสนอปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ สร้างกราฟ เพื่อ
เปรียบเทียบความสิ้นเปลืองพลังงาน
3.นักเรียนสามารถสรุปปัญหาที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานและเสนอวิธีการแก้ไข ด้วยแบบ
โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
4.นาความรู้ที่ได้สรุปปัญหาที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานและเสนอวิธีการแก้ไขสร้างวิ ธีการ
แก้ไขปัญหาในรูปแบบแผนปฏิบัติการ 5W1H และวิเคราะห์ SWOT ของแผนงาน ด้วยแบบโครงงานสารวจ
และปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
ขั้นขยายความรู้(elaboration)
1.สามารถนาความรู้ที่ได้จากการสารวจในรูปแบบโครงงานสร้างแผนปฏิบัติการที่สามารถนาไป
ปฏิบัติได้จริง และพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามโมเดลเดมมิ่ง (PDCA)
2.เลือกรูปแบบการนาเสนอโครงงานที่ตนเองถนัดที่สุด
7
2.1 นาเสนอด้วยคลิปวีดีโอ หรือหนังสั้น สามารถใช้โปแกรมตัดต่อ Movie Maker หรือ Ulead
หรือโปรแกรมที่นักเรียนถนัดในการสร้างผลงานเพื่อนาเสนอ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัด
พลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
2.2 นาเสนอโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยเว็บ
บล็อก
2.3 นาเสนอโครงงานสารวจและปฏิ บัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วย
Microsoft Powerpoint
2.4 นาเสนอประชาสัมพันธ์ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน
วิทยาคม ผ่านเสียงตามสายของโรงเรียน
2.5 นาเสนอและเผยแพร่ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรีย นซับบอน
วิทยาคม ผ่าน Social Network เช่น Facebook.com , twitter.com, blog หรือ หน้าแฟนเพจของโรงเรียน
(Facebook.com/subbonwittayakhom) และแชร์ให้เครือข่ายสังคมออนไลน์
2.6 เผยแพร่เอกสารการค้นคว้าที่จัดทาในรูปแบบ word หรือ pdf ใน Slideshare.net
2.7 นาเสนอ รณรงค์เรื่องพลังงาน โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับ
บอนวิทยาคม หน้าเสาธง หลังเข้าแถวเคารพธงชาติ
2.8 เผยแพร่แนวความคิดจากการศึกษา โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียน
ซับบอนวิทยาคม ผ่านทาง Social Media เช่น Youtube.com
2.9 วิธีการอื่นๆที่นักเรียนต้องการ โดยให้ปรึกษาครูผู้สอนก่อน
8
ขั้นประเมิน (evoluation)
1.แนวทางการประเมินโครงงานโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน
วิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินโครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
10-9 8-7 6-5 4-3 2-0
1.ความคิดสร้างสรรค์
2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3.ความถูกต้องของทฤษฎี
4.ความเป็นไปได้ใน การนา โครงงาน ไปใช้เพื่อ
แก้ปัญหาได้จริง
5.การวางแผนเพื่อนาโครงงานสารวจสู่
แผนปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน
2.แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัด
พลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
10-9 8-7 6-5 4-3 2-0
1.ความคิดสร้างสรรค์
2.การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการนาเสนอ
3.ความน่าสนใจของการนาเสนอ
4.ความถูกต้องของการนาเสนอกับโครงงาน
สารวจและปฏิบัติการประหยัดพลังงาน
5.การสื่อถึงการประหยัดพลังงานและใช้พลังงาน
อย่างคุ้มค่า
9
3.แบบประเมินตนเองของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนการสอนด้วย โครงงานสารวจและปฏิบัติการ
ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
5 4 3 2 1
1.นักเรียนได้สารวจปัญหาจากสภาพเพื่อนามาใช้ในการทาโครงงาน
2.นักเรียนมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องความ
สิ้นเปลืองพลังงานของโรงเรียน
3.นักเรียนร่วมมือกันทางานเป็นกลุ่ม
4.กิจกรรมโครงงานนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง
5.นักเรียนได้ความรู้เพิ่มจากการทาโครงงาน
6.การนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน
7.เกิดการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง
8.นักเรียนได้ใช้ทักษะที่ตนถนัดในการนาเสนอ
9.ความเหมาะสมของวิธีการจัดทาและนาเสนอโครงงาน
10.นักเรียนอยากให้มีการจัดทาโครงงานในทุกๆภาคการศึกษา
7.สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้ในศูนย์การเรียน
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1 มารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2 แบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน
วิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
7.2 แหล่งเรียนรู้
1.ห้องสมุด
2.ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
3.อินเตอร์เน็ต
10
8.การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือที่ใช้วัด เกณฑ์การวัด
1.ด้านความรู้ (K) 1.ตรวจแบบทดสอบหลัง
เรียน
2. ตรวจสอบผลงานจาก
แบบโครงงาน
แบบทดสอบหลังเรียน 1.ได้คะแนนรวมไม่ต่า
กว่า ร้อยละ 50 ถือว่า
ผ่าน
2.ด้านทักษะ/
กระบวนการเรียนรู้ (P)
1.ตรวจสอบผลงานจาก
แบบโครงงาน
2.วิธีการนาเสนอ
3.สื่อที่ใช้นาเสนอ
1.แบบประเมินตนเอง
2.แบบประเมิน
โครงงาน
3.แบบประเมินการ
นาเสนอ
1.ได้คะแนนรวมไม่ต่า
กว่า ร้อยละ 50 ถือว่า
ผ่าน
2.เก็บคะแนนตามแบบ
ประเมิน
3.ด้านพฤติกรรมการ
เรียน (A)
1.สังเกตพฤติกรรมการ
เรียนของนักเรียน
1.แบบบันทึก
พฤติกรรมการเรียน
ของนักเรียนเป็นกลุ่ม
1.ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป
11
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1…………………………………………………ชั้น …………เลขที่…………….
2…………………………………………………ชั้น …………เลขที่…………….
แบบประเมินโครงงานโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินโครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
10-9 8-7 6-5 4-3 2-0
1.ความคิดสร้างสรรค์
2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3.ความถูกต้องของทฤษฎี
4.ความเป็นไปได้ในการนาโครงงานไปใช้เพื่อ
แก้ปัญหาได้จริง
5.การวางแผนเพื่อนาโครงงานสารวจสู่
แผนปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน
แบบประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน
โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
10-9 8-7 6-5 4-3 2-0
1.ความคิดสร้างสรรค์
2.การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการนาเสนอ
3.ความน่าสนใจของการนาเสนอ
4.ความถูกต้องของการนาเสนอกับโครงงาน
สารวจและปฏิบัติการประหยัดพลังงาน
5.การสื่อถึงการประหยัดพลังงานและใช้พลังงาน
อย่างคุ้มค่า
12
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1…………………………………………………ชั้น …………เลขที่…………….
แบบประเมินตนเองของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนการสอนด้วย โครงงานสารวจและปฏิบัติการ
ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน
รายการประเมิน ระดับคะแนน
5 4 3 2 1
1.นักเรียนได้สารวจปัญหาจากสภาพจริงเพื่อนามาใช้ในการทาโครงงาน
2.นักเรียนมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องความ
สิ้นเปลืองพลังงานของโรงเรียน
3.นักเรียนร่วมมือกันทางานเป็นกลุ่ม
4.กิจกรรมโครงงานนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง
5.นักเรียนได้ความรู้เพิ่มจากการทาโครงงาน
6.การนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน
7.เกิดการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง
8.นักเรียนได้ใช้ทักษะที่ตนถนัดในการนาเสนอ
9.ความเหมาะสมของวิธีการจัดทาและนาเสนอโครงงาน
10.นักเรียนสามารถเชื่อมโยงทฤษฎีและวางแผนปฏิบัติได้
13
แบบบันทึกพฤติกรรมของผู้เรียน
เรื่อง โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ
ชื่อ-สกุล
พฤติกรรมการเรียน ระดับ
คุณภาพความ
สนใจใฝ่รู้
ปฏิบัติ
กิจกรรม
ด้วยความ
รับผิดชอบ
การ
วางแผน
การทางาน
ทางาน
ร่วมกับผู้อื่น
ได้
รวม
เกณฑ์การให้คะแนน
คะแนน 4 3 2 1
ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมิน
(นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา)
14
เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมของผู้เรียน
พฤติกรรมการ
เรียน
ระดับคะแนน
4 3 2 1
ความสนใจใฝ่รู้ มีความกระตือรือร้น สนใจ
ซักถามข้อสงสัย ศึกษา
ค้นคว้าเพิ่มเติม เข้าร่วม
กิจกรรมทุกครั้ง
มีความกระตือรือร้น
สนใจซักถามข้อสงสัย
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
มีความ
กระตือรือร้น
สนใจซักถาม
ข้อสงสัย
มีความ
กระตือรือร้น
ปฏิบัติกิจกรรม
ด้วยความ
รับผิดชอบ
ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมผลงาน
เรียบร้อย ถูกต้องสมบูรณ์
เสร็จทันเวลาที่กาหนด
ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรม
ผลงานเรียบร้อย
ถูกต้องสมบูรณ์
ตั้งใจปฏิบัติ
กิจกรรม
ผลงาน
เรียบร้อย
ตั้งใจปฏิบัติ
กิจกรรม
การวางแผนการ
ทางาน
วางแผนการทางานเป็นทีม
นาทฤษฎีมาอ้างอิง กาหนด
บทบาทหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
วิเคราะห์ความเป็นไปได้
ปัญหาอุปสรรค มีการ
วางแผนเพื่อปรับปรุงพัฒนา
และมีการประยุกต์ให้
เหมาะสมกับการใช้งานจริง
วางแผนการทางาน
เป็นทีม นาทฤษฎีมา
อ้างอิง กาหนดบทบาท
หน้าที่ผู้รับผิดชอบ
วิเคราะห์ความเป็นไป
ได้ปัญหาอุปสรรค มี
การวางแผนเพื่อ
ปรับปรุงพัฒนา
วางแผนการ
ทางานเป็นทีม
นาทฤษฎีมา
อ้างอิง กาหนด
บทบาทหน้าที่
ผู้รับผิดชอบ
วิเคราะห์ความ
เป็นไปได้
ปัญหาอุปสรรค
วางแผนการ
ทางานเป็น
ทีม นาทฤษฎี
มาอ้างอิง
ทางานร่วมกับ
ผู้อื่นได้
ร่วมมือ มีน้าใจ เสียสละ
กล้าแสดงและยอมรับฟัง
ความคิดเห็นของผู้อื่น
ร่วมมือ มีน้าใจ
เสียสละ กล้าแสดง
ร่วมมือ มีน้าใจ ร่วมมือ
เกณฑ์การสรุประดับคุณภาพพฤติกรรมการเรียน
คะแนน 15-16 12-14 9-11 0-8
ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
15
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1
สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องมารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์
เอกสารประกอบ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง
===========================================================================
โครงงานวิทยาศาสตร์ คือ การที่นักเรียนมีปัญหา หรือข้อสงสัย แล้วนาปัญหานั้นไปทดลองศึกษาแก้ปัญหา
โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แล้วนาผลงานมาเสนอวิเคราะห์ เป็นการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เรื่อง
ใดเรื่องหนึ่งด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แล้วรวบรวมสรุป วิเคราะห์ รายงานผลที่ได้จาก
การศึกษา
ความสาคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์
การศึกษาค้นคว้าด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ ช่วยให้นักเรียนเกิด การเรียนรู้ มีประสบการณ์จากการ
ปฏิบัติจริง ฝึกแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะติดตัวผู้เรียนไปตลอด เมื่อมีข้อสงสัย หรือ
ปัญหาเกิดขึ้น จะแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นสิ่งที่สาคัญ
กว่าความรู้ที่ขาดการปฏิบัติ ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าว จะทาให้ผู้เรียนเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้า
แสดงออก
ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1. โครงงานประเภทการทดลอง คือ เป็นโครงงานที่มีการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาของตัวแปร
หนึ่งที่มีต่อแปรอีกตัวหนึ่งที่ต้องการศึกษา โดยควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อตัวแปรที่จะต้องการศึกษา
เอาไว้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โครงงานที่จะจัดเป็นโครงงานประเภทการทดลองได้จะต้องเป็นโครงงานที่มี
การจัดกระทากับตัวแปรต้น หรือเรียกอกอย่างหนึ่งว่า ตัวแปรอิสระ มีการวัดตัวแปรตาม (ผลที่ต้องการ) และ
ควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ไม้ต้องการศึกษา โดยทั่วไป ขั้นตอนการดาเนินงานของโครงงานประเภทนี้จะ
ประกอบด้วย การกาหนดปัญหา การตั้งจุดมุ่งหมาย สมมติฐาน การกาหนดตัวแปรต่าง การออกแบบการ
ทดลอง การรวบรวมข้อมูล การดาเนินการทดลอง การแปรผลและการสรุปผล
2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวม ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ ไม่มีการจัดหรือกาหนด
ตัวแปรต่างๆ ที่ต้องการศึกษา โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูลนี้ ผู้ทาโครงงานเพียงต้องการสารวจ
และรวบรวมข้อมูล แล้วนาข้อมูลนั้นมาจาแนกเป็นหมวดหมู่ และนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เห็น
16
ลักษณะหรือความสัมพันธ์ในเรื่องที่ต้องการศึกษาได้ชัดเจนยิ่งขึ้นการสารวจและรวบรวมข้อมูลนี้อาจทาได้
ในหลายรูปแบบ เช่น การออกไปเก็บข้อมูลในภาคสนาม ซึ่งในบางครั้ง บางเรื่องก็สามารถเก็บรวบรวม
ข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการในท้องถิ่น หรือในสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า ในขณะที่ออกไปปฏิบัติการ
นั้นโดยไม่ต้องนาวัตถุตัวอย่างกลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการอีก ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ได้แก่
- การสารวจประชากรและชนิดของสิ่งต่างๆ เช่น สัตว์พืช หิน แร่ ฯลฯ
ในท้องถิ่น หรือในบริเวณที่ต้องการศึกษา
- การสารวจพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ของสัตว์ในธรรมชาติ
- การสารวจทิศทางและอัตราเร็วลมในท้องถิ่น
- การสารวจการผุกร่อนของสิ่งก่อสร้างที่ทาด้วยหินอ่อนในแหล่งต่างๆ
ฯลฯ
ในบางครั้งการออกภาคสนามก็เพื่อไปเก็บวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เพราะไม่
สามารถที่จะวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลได้ทันที ในขณะออกไปปฏิบัติการภาคสนาม ตัวย่างโครงงาน
ประเภทนี้ ได้แก่
- การสารวจคุณภาพน้า เช่น ความขุ่น ความเป็นกรด – เบส ค่า BOD ฯลฯ แหล่งน้าต่างๆ ที่ต้องการศึกษา
เช่น บริเวณใกล้ๆ โรงงานน้าอัดลม โรงงานผลิตสุรา ฯลฯ
- การศึกษาสมบัติ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น ของสารต่างๆที่สกัดได้จากวัสดุหรือพืชชนิด
ใดชนิดหนึ่งที่ต้องการศึกษา
- การสารวจคุณภาพของดิน เช่น ความชื้น ปริมาณสารอินทรีย์ความเป็นกรด เบส จากแหล่งต่างๆ ที่ต้องการ
ศึกษา
- การศึกษาสารวจมลพิษของอากาศในแหล่งต่างๆฯลฯ
ในการสารวจรวบรวมข้อมูลบางอย่างแทนที่จะต้องอออกไปสารวจตามธรรมชาติบางครั้งก็อาจ
จาลองธรรมชาติขึ้นในห้องปฏิบัติการแล้วสังเกต และศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆ ในธรรมชาติจาลองนั้นๆ
เช่น
- การศึกษาวงจรชีวิตไหมที่เลี้ยงในห้องปฏิบัติการ
- การศึกษาพฤติกรรมของมดที่เลี้ยงในห้องปฏิบัติการ
ฯลฯ
3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่เกี่ยวกับการ
ประยุกต์ทฤษฎีหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้
สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดประดิษฐ์สิ่งของใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้โครงงานประเภทนี้รวมไปถึง การสร้างแบบจาลองเพื่ออธิบายแนวความคิดต่างๆ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปแก้ปัญหาต่างๆ
4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานเกี่ยวกับการนาเสนอ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวความคิด
17
ใหม่ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบายโดยผู้เสนอได้ตั้งกติกาหรือข้อตกลงเอง แล้วเสนอ
ทฤษฎี หลักการแนวความคิด หรือจินตนาการของตนเองตามกติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือ
ข้อตกลงอันเดิมมาอธิบายสิ่งหรือปรากฏการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือ
จินตนาการที่เสนอนี้อาจจะใหม่ไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี
หรือแนวความคิดเดิมก็ได้การทาโครงงานประเภทนี้ จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็น
อย่างดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุผล และน่าเชื่อถือ หรืออาจทาได้โดยสร้าง
เครื่องมือขึ้นประกอบการอธิบาย โดยทั่วไปโครงงานประเภทนี้จัดเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์หรือโครงงาน
ทางคณิตศาสตร์
วิธีการทางวิทยาศาสตร์
1.กาหนดปัญหา
2. ตั้งสมมติฐาน
3. รวบรวมข้อมูล
4. ทดลอง
5. สรุปผล
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1. ทักษะการกาหนด และควบคุมตัวแปร
2. ทักษะการคานวณ
3. ทักษะการจัดทา และสื่อความหมายข้อมูล
4. ทักษะการจาแนกประเภท
5. ทักษะการตั้งสมมติฐาน
6. ทักษะการตีความหมาย
7. ทักษะการทดลอง
8. ทักษะการกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
9. ทักษะการพยากรณ์
10. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
11. ทักษะการวัด
12. ทักษะการ สังเกต
13. ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติกับมิติและ มิติกับเวลา
18
ขั้นตอนการวางแผนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์
1.ปัญหา
2.จุดประสงค์
3.สมมุติฐานการศึกษาและทดลอง
4.การกาหนดและควบคุมตัวแปร
5.วัสดุอุปกรณ์
6.ขั้นตอนการทดลอง
7.การออกแบบ
8.การดาเนินการและบันทึกผล
9.สรุปรายงานผล
19
ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2
สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การคานวณค่าไฟฟ้า
เอกสารประกอบ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง
===========================================================================
การคานวณค่าไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้พลังงานไฟฟ้าต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ซึ่งทราบได้จากตัวเลขที่กากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ระบุไว้ทั้งความต่างศักย์ (V) และกาลังไฟฟ้า (W)
ตัวอย่างเช่น หลอดไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า มีตัวเลขกากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น
หลอดไฟฟ้ามีตัวเลขกากับว่า 220 V 80 W
- ตัวเลข 220 V หมายถึงหลอดไฟฟ้านี้ใช้กับความต่างศักย์220 โวลต์ซึ่งเราต้องใช้ไฟให้ตรง
กับค่าความต่างศักย์ที่กาหนด
- ตัวเลข 80 W ที่กากับมาเป็นค่าของพลังงานไฟฟ้าที่หลอดไฟฟ้าใช้ไปในเวลา 1 วินาที ซึ่ง
เรียกว่า กาลังไฟฟ้า
หมายเหตุ - ในการวัดพลังงานไฟฟ้า เราจะใช้หน่วยเป็นจูล ตัวเลข 80 W จึงหมายความว่า หลอด
ไฟฟ้านี้จะใช้พลังงานไฟฟ้า 80 จูล ในเวลา 1 วินาที
ค่าไฟ เป็นสิ่งที่เราต้องจ่ายทุกเดือน เพราะไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ไฟ (ถึงแม้พ่อแม่เราจะเป็น
คนจ่ายก็ตาม) จะดีแค่ไหนหากเรารู้วิธีการคานวณค่าไฟฟ้าสาหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เราจะสามารถ
ประมาณค่าไฟ (โดยประมาณ) ของแต่ละเดือนได้ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับเราเองในการวางแผนการใช้จ่าย
ได้ง่ายขึ้น โดยการคานวณค่าไฟฟ้านั้น เราสามารถทาได้ด้วยตนเองง่ายๆ จากสูตรที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้*
สาหรับการใช้ไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าใน 1 วัน เราสามารถใช้สูตรการคานวณดังนี้
ตัวอย่าง บ้านครูปอนด์มีเครื่องใช้ไฟฟ้า 3 ชนิด คือทีวีขนาด 150 วัตต์จานวน 1 เครื่อง, พัดลมขนาด 100
20
วัตต์จานวน 1 เครื่อง และหลอดไฟขนาด 40 วัตต์จานวน 5 ดวง โดยครูปอนด์จะเปิดทีวีและพัดลมพร้อม
กันตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 น. ทุกวัน ส่วนหลอดไฟจะเปิดพร้อมกันทั้ง 4 ดวงตั้งแต่เวลา 18.00 - 06.00 น.
ทุกวัน อยากทราบว่าครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าไปกี่ยูนิตในหนึ่งเดือน
วิธีคิด จากตัวอย่างเราได้ข้อมูลว่า
1. ทีวีขนาด 150 วัตต์ใช้งานวันละ 3 ชั่วโมง
2. พัดลมขนาด 100 วัตต์ใช้งานวันละ 3 ชั่วโมง
3. หลอดไฟขนาด 40 วัตต์ใช้งานวันละ 12 ชั่วโมง
จากสมการ
ดังนั้นใน 1 วัน เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้ไฟฟ้าดังนี้
จานวนยูนิตของทีวี = [(150 x 1) x 3] / 1000 = 0.45
จานวนยูนิตของพัดลม = [(100 x 1) x 3] / 1000 = 0.30
จานวนยูนิตของหลอดไฟ = [(40 x 4) x 3] / 1000 = 0.48
รวมใน 1 วัน ครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น = 0.45 + 0.30 + 0.48 = 1.23
ดังนั้น ในเดือนธันวาคม (มี 31 วัน) ครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น = 1.23 x 31 = 38.13 ยูนิต (ตอบ)
โรงเรียนซับบอนวิทยาคมใช้ไฟฟ้าเกิน 400 หน่วยต่อเดือน การทาโครงงานสารวจและปฏิบัติการ
การประหยัดพลังงานโรงเรียนซับบอนวิทยาคมนั้น มุ่งเน้นให้เกิดการสารวจจากสภาพจริงและสร้าง
แผนปฏิบัติเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า พร้อมทั้งลดความสิ้นเปลืองของพลังงาน
ดังนั้นสาหรับการคานวณเพื่อการประหยัดพลังงานนั้น จึงใช้อัตราค่าไฟฟ้า 400 หน่วยขึ้นไป ราคาต่อหน่วย
2.978 บาทต่อหน่วย
ตัวอย่างการคานวณ
จากการสารวจการใช้พลังงานในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม พบว่า ใช้หลอดไฟฟ้า ขนาด 36 วัตต์
จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน จากการค้นคว้าพบว่า สามารถเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้า
ขนาด 6 วัตต์ได้ซึ่งจะทาให้โรงเรียนของเราประหยัดค่าไฟฟ้า ได้ดังนี้
ค่าไฟฟ้าที่จ่ายโดยใช้หลอดขนาด 36 วัตต์จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน
= ((36x450x6)/1000) x 2.978 = 289.46 บาทต่อวัน หรือ 78,154.6 บาทต่อปี(270 วัน)
ค่าไฟฟ้าที่จ่ายโดยใช้หลอดขนาด 6 วัตต์จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน
= ((6x450x6)/1000) x 2.978 = 48.24 บาทต่อวัน หรือ 13025.7 บาทต่อปี(270 วัน)
21
กราฟการนาเสนอ เปรียบเทียบค่าไฟฟ้าของหลอดไฟขนาด 36 วัตต์ กับขนาด 6 วัตต์
22
โครงงานสารวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
1.ชื่อโครงงาน ………………………………………………………………………………………………
2.ชื่อผู้จัดทา
1……………………………………………………………………………………………………
2……………………………………………………………………………………………………
3.ครูที่ปรึกษา
1……………………………………………………………………………………………………
2……………………………………………………………………………………………………
4.วัตถุประสงค์การจัดทาโครงงาน
1. ……………………………………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………………………………
4. ……………………………………………………………………………………………………
5.สมมุติฐาน ของการทาโครงงาน
1. ………………………………………………………………………………………………….
2. ………………………………………………………………………………………………….
6.หลักการและเหตุผล
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
23
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
7.แนวความคิดในการประหยัดพลังงาน
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
8.ความรู้แลทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน (บทเอกสาร)
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
24
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
9. ขั้นตอนและวิธีการสารวจ สาเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน
9.1 สารวจ สาเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน โดยใช้โมเดลการบริหารจัดการพลังงาน 4Ms
9.1.1 Man (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจากคน)
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
9.1.2 Machine (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจากเครื่องจักร)
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
9.1.3 Material (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจาก วัสดุ อุปกรณ์)
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
25
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
9.1.4 Method (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่เกิดจาก วิธีการใช้งาน หรือ ขั้นตอนการใช้งาน)
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
10. แบบสอบถามข้อเสนอแนะเพื่อการประหยัดพลังงานโดยเน้นการมีส่วนร่วม
10.1 ท่านมีข้อเสนอแนะในเรื่องการประหยัดพลังงานในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม อย่างไรบ้าง
ลาดับ เรื่อง สถานที่ ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ…………………………………………
ผู้ให้ข้อเสนอแนะ
26
11.วิเคราะห์และสรุปผลของโครงงาน
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
. ……………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
27
การบริหารจัดการแบบ Demming Model (PDCA)
28
29
30
31
บันทึกการสอน
..........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา
ตาแหน่งครูผู้ช่วย

Mais conteúdo relacionado

Mais procurados

แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานpacharawalee
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความพัน พัน
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5sripayom
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิSurapong Klamboot
 
Comparison and contrast essays aug152013
Comparison and contrast essays aug152013Comparison and contrast essays aug152013
Comparison and contrast essays aug152013Aj Muu
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
 
สไลด์ประกอบการสัมมนา
สไลด์ประกอบการสัมมนาสไลด์ประกอบการสัมมนา
สไลด์ประกอบการสัมมนาRasika Turiyakul
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน Oyl Wannapa
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบwanchalerm sotawong
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนkkrunuch
 
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.11.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1Kruthai Kidsdee
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1Tanchanok Pps
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีWarodom Techasrisutee
 
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2Taraya Srivilas
 
ประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อนประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อนพัน พัน
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนWijitta DevilTeacher
 

Mais procurados (20)

แบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงานแบบประเมินผลชิ้นงาน
แบบประเมินผลชิ้นงาน
 
คำบุพบท
คำบุพบทคำบุพบท
คำบุพบท
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความ
 
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล  ชั้น ป.5
ชุดการสอนวิชาสุขศึกษา เรื่องการปฐมพยาบาล ชั้น ป.5
 
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
 
Comparison and contrast essays aug152013
Comparison and contrast essays aug152013Comparison and contrast essays aug152013
Comparison and contrast essays aug152013
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
สไลด์ประกอบการสัมมนา
สไลด์ประกอบการสัมมนาสไลด์ประกอบการสัมมนา
สไลด์ประกอบการสัมมนา
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ยีนและโครโมโซม ชุดที่ 7 เรื่อง มิวเทชัน
 
ใบงานยุโรป 3
ใบงานยุโรป  3ใบงานยุโรป  3
ใบงานยุโรป 3
 
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
ตัวอย่างการสร้างข้อสอบ
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
 
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.11.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1
1.แผนการเรียนรู้ยาเสพติดม.1
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
เอกสารประกอบการเรียน เคมีอินทรีย์ 1
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
เปรียบเทียบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
 
Wolfgang kohler
Wolfgang kohlerWolfgang kohler
Wolfgang kohler
 
ประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อนประโยคที่ซับซ้อน
ประโยคที่ซับซ้อน
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชนเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง โมเมนตัมและการชน
 

Semelhante a แผนการสอนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง โครงงานสำรวจและปฎิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซั

แบบเสนอโครงร่างคอม -----
แบบเสนอโครงร่างคอม  -----แบบเสนอโครงร่างคอม  -----
แบบเสนอโครงร่างคอม -----Alatreon Deathqz
 
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียงWareerut Hunter
 
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green Weerachat Martluplao
 
โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
โครงการ   โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคมโครงการ   โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคมWeerachat Martluplao
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1dechathon
 
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่าย
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่ายรายงานการใช้สื่อCaiแบบง่าย
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่ายJiraporn Chaimongkol
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609วรากร หลวงโย
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609วรากร หลวงโย
 
รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทJiraporn Chaimongkol
 
การวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนการวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนsalinkarn sampim
 
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยา
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยาMko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยา
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยาNanzzy Sutthanont
 
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01witthawat silad
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูงรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูงWichai Likitponrak
 
Chapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationChapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationApple Nipaporn
 
Chapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationChapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationApple Nipaporn
 

Semelhante a แผนการสอนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง โครงงานสำรวจและปฎิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซั (20)

แบบเสนอโครงร่างคอม -----
แบบเสนอโครงร่างคอม  -----แบบเสนอโครงร่างคอม  -----
แบบเสนอโครงร่างคอม -----
 
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง
3.แผนไฟฟ้าเศรษฐกิจพอเพียง
 
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green
รายงานผลการปฏิบัติงาน Thailand go green
 
โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
โครงการ   โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคมโครงการ   โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
โครงการ โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
 
5.ตอนที่ 3
5.ตอนที่ 35.ตอนที่ 3
5.ตอนที่ 3
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่าย
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่ายรายงานการใช้สื่อCaiแบบง่าย
รายงานการใช้สื่อCaiแบบง่าย
 
Is pre
Is preIs pre
Is pre
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ วรากร 609
 
รายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บทรายงานการใช้สื่อ5บท
รายงานการใช้สื่อ5บท
 
2222
22222222
2222
 
การวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนการวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียน
 
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยา
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยาMko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยา
Mko3 ปฏิบัติการหลักชีววิทยา
 
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01
แผนจัดการเรียนรู้ที่ 01
 
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูงรายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
รายงานนวัตกรรมการจัดกิจกรรมด้านทักษะการคิดชั้นสูง
 
Chapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationChapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovation
 
Chapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovationChapter 7 educational innovation
Chapter 7 educational innovation
 
Basic m2-2-link
Basic m2-2-linkBasic m2-2-link
Basic m2-2-link
 

Mais de Weerachat Martluplao

โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐ
โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐโครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐ
โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐWeerachat Martluplao
 
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงานโครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงานWeerachat Martluplao
 
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40Weerachat Martluplao
 
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Media
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Mediaการพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Media
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social MediaWeerachat Martluplao
 
พัฒนาการคิดด้วย
พัฒนาการคิดด้วย พัฒนาการคิดด้วย
พัฒนาการคิดด้วย Weerachat Martluplao
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2Weerachat Martluplao
 
โครงการครูพลังงาน 2556
โครงการครูพลังงาน 2556โครงการครูพลังงาน 2556
โครงการครูพลังงาน 2556Weerachat Martluplao
 
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้น
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้นการออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้น
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้นWeerachat Martluplao
 
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน ประกอบการย้าย 57
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน  ประกอบการย้าย 57แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน  ประกอบการย้าย 57
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน ประกอบการย้าย 57Weerachat Martluplao
 
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคมการจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคมWeerachat Martluplao
 
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551Weerachat Martluplao
 
Storyboard การออกแบบ application
Storyboard การออกแบบ applicationStoryboard การออกแบบ application
Storyboard การออกแบบ applicationWeerachat Martluplao
 
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551Weerachat Martluplao
 
Stem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentStem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentWeerachat Martluplao
 
ประจุไฟฟ้า Electric charges
ประจุไฟฟ้า Electric chargesประจุไฟฟ้า Electric charges
ประจุไฟฟ้า Electric chargesWeerachat Martluplao
 
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลาย
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลายรางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลาย
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลายWeerachat Martluplao
 
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้น
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้นรางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้น
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้นWeerachat Martluplao
 

Mais de Weerachat Martluplao (20)

โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐ
โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐโครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐ
โครงการสร้างสำนึกพลเมือง โรงเรียนโพนเมืองประชารัฐ
 
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงานโครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน
โครงงานสำรวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน
 
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40
งานนำเสนอ การวิจัย การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ สพม.40
 
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Media
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Mediaการพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Media
การพัฒนาการคิดวิจารณญาณด้วย Social Media
 
พัฒนาการคิดด้วย
พัฒนาการคิดด้วย พัฒนาการคิดด้วย
พัฒนาการคิดด้วย
 
ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2ข้อสอบโครงงาน ม 2
ข้อสอบโครงงาน ม 2
 
โครงการครูพลังงาน 2556
โครงการครูพลังงาน 2556โครงการครูพลังงาน 2556
โครงการครูพลังงาน 2556
 
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้น
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้นการออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้น
การออกข้อสอบวัดผล O net วิทย์ ม.ต้น
 
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน ประกอบการย้าย 57
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน  ประกอบการย้าย 57แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน  ประกอบการย้าย 57
แบบบันทึกความดีและรายงานผลการปฏิบัติงาน ประกอบการย้าย 57
 
Asean curriculum thai
Asean curriculum thaiAsean curriculum thai
Asean curriculum thai
 
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคมการจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม
การจัดการความรู้ กับการใช้ Social media ในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม
 
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551
ชุดข้อสอบแยกตามตัวชี้วัด หลักสูตรแกนกลาง 2551
 
Storyboard การออกแบบ application
Storyboard การออกแบบ applicationStoryboard การออกแบบ application
Storyboard การออกแบบ application
 
Stem workshop report
Stem workshop reportStem workshop report
Stem workshop report
 
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551
หลักสูตรแกนกลาง สาระและตัวชี้วัดชั้นปี หลักสูตรแกนกลาง 2551
 
Stem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills developmentStem education and 21st century skills development
Stem education and 21st century skills development
 
trigonometry
trigonometrytrigonometry
trigonometry
 
ประจุไฟฟ้า Electric charges
ประจุไฟฟ้า Electric chargesประจุไฟฟ้า Electric charges
ประจุไฟฟ้า Electric charges
 
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลาย
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลายรางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลาย
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ปลาย
 
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้น
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้นรางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้น
รางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ ม ต้น
 

แผนการสอนบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง โครงงานสำรวจและปฎิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซั

  • 1. 1 แผนการการสอนบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เรื่อง โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียน ซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ จัดทาโดย นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา ตาแหน่งครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
  • 2. 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลังงาน เรื่อง โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 6 ชั่วโมง 1.สาระสาคัญ โครงงานวิทยาศาสตร์ หมายถึง งานวิจัยในระดับนักเรียน เป็นการศึกษาเรื่องราวทางวิ ทยาศาสตร์ที่ ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาและแก้ปัญหารวมทั้งการ พัฒนาจิตวิทยาศาสตร์ โดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่ม เลือกเรื่อง วางแผนในการศึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งแบ่ง ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทการทดลอง ประเภทการสารวจร วบรวมข้อมูล ประเภทสิ่งประดิษฐ์ และประเภททฤษฎี การทาโครงงาน สารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการ สืบเสาะ นี้เป็นโครงงานสารวจรวบรวมข้อมูล ซึ่งมุ่งเน้นให้นักเรียนจัดทาโครงงานเสนอแนวทางในการ แก้ไขปัญหาความสิ้นเปลืองพลังงาน และวางแผนเพื่อลงมือปฏิบัติ โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (แบบ 5 E) กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (แบบ 5 E) มีขั้นตอนดังนี้ 1.สร้างความสนใจ (Engagement) 2.ขั้น สารวจและค้นหา(exploration) 3.ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (explanation) 4.ขั้นขยายความรู้(elaboration) 5. ขั้นประเมิน (evoluation) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนี้ เน้นกระบวนการเรียนการสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method) โดยเน้นบทบาทของผู้เรียนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมกันหาสาเหตุของการ สิ้นเปลืองพลังงาน และสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับผู้เรียน
  • 3. 3 2.มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น สาระที่ 5 พลังงาน มาตรฐาน ว 5. 1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดารงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม มี กระบวน การสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัดที่ 3 สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ แก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถ อธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมและสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ตัวชี้วัดที่ 1-12 3.ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1.กาหนดหัวข้อที่สอดคล้องกับปัญหาได้อย่างเหมาะสม 2.สืบค้น รวบรวม วิเคราะห์ ข้อมูลจากการสารวจ สังเคราะห์วิธีการแก้ไขปัญหา สามารถวางแผน งานการปฏิบัติการประหยัดพลังงานได้ 3.นาเสนอและเผยแพร่โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม โดยใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสม 4.จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถทาสิ่งต่อไปนี้ได้ ด้านความรู้ (K) 1.สารวจและเลือกเรื่องที่จะทาโครงงานได้สอดคล้องกับภารกิจ
  • 4. 4 2.สามารถกาหนดวัตถุประสงค์ในการทาโครงงานได้ 3.สามารถตั้งสมมติฐานในการทาโครงงานได้ 4.สามารถบอกหลักการและเหตุผลของการทาโครงงานได้ (ที่มาของการทาโครงงาน) 5.มีแนวความคิดในการประหยัดพลังงาน 6.สามารถค้นคว้าทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการคานวณพลังงานและการประหยัดพลังงานได้อย่างถูกต้อง 7.สามารถสารวจหาสาเหตุการสิ้นเปลืองพลังงาน ด้วยโมเดล 4Ms ได้ 8.สามารถรวบรวมข้อคิดเห็นโดยการใช้แบบสารวจความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม 9.สามารถวิเคราะห์และสรุปผลการค้นคว้าโครงงานได้ 10.สามารถนาข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาวางแผนเพื่อสร้างแผนปฏิบัติการได้ ด้านทักษะ/กระบวนการเรียนรู้ (P) 1.สามารถปฏิบัติงานภายในกลุ่มเพื่อสืบเสาะหาความรู้มาแก้ไขปัญหาได้ 2.มีส่วนร่วมในการสืบค้นข้อมูล รวบรวมข้อมูล มีส่วนร่วมในการอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ 3.สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปผลการทาโครงงานได้ 4.สามารถพัฒนาปรับปรุงและพัฒนาโครงงานด้วยโมเดลเดมมิ่ง (PDCA) 5.สามารถถ่ายทอดความรู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้าให้เกิดประโยชน์ด้วยวิธีการที่ตนถนัด ด้านพฤติกรรมการเรียน (A) 1.ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า 2.นักเรียนเกิดระเบียบวินัยในการใช้พลังงาน 3.รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
  • 5. 5 5.สาระการเรียนรู้ ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1 1. มารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2 2. การคานวณค่าไฟฟ้า 6.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (แบบ 5 E) สร้างความสนใจ (Engagement) 1.ลาดับที่มาและเหตุผลในการทา โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับ บอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ เพื่อให้นักเรียนเห็นถึงความสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งทาให้โรงเรียนเสีย งบประมาณเพิ่มขึ้นเกือบ 10,000 บาทต่อเดือน หรือ 120,000 บาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินจานวนมากสาหรับ โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งจะทาให้ไม่มีงบในการ ซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนในโรงเรียน การแก้ปัญหานี้จึง จาเป็นต้องทาการศึกษาหาวิธีการแก้ไข โดยใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จัดทาโครงงานแบบ มีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการใช้พลังงานและใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด 2.ลาดับขั้นการทาโครงงาน ความหมาย คุณค่า ลักษณะ จุดมุ่งหมาย และประเภทของโครงงาน 3.ใช้คลิปวีดีโอประกอบ เช่น จาก youtube.com ประกอบการบรรยายของครูผู้สอน ขั้นสารวจและค้นหา (exploration) 1.กาหนดหัวข้อในการสารวจเพื่อให้สอดคล้องกับภาระกิจการประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน วิทยาคม ด้วยแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม 2.นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน ทาการสารวจจุดที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานหรือเกิดความ เสียเปล่าของพลังงาน ด้วยแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม
  • 6. 6 3.ใช้การสืบค้นแนวทาง ตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ต (Google.com) ทาการบันทึก สาเหตุของการ สิ้นเปลืองพลังงานด้วยกล้องหรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หรือไฟล์ word 4.วิเคราะห์และจาแนกสภาพปัญหาการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้โมเดล 4Ms ด้วยแบบโครงงาน สารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม 5.บันทึกข้อมูลในแบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยา คม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (explanation) 1.นักเรียนสามารถเชื่อมโยงสภาพปัญหาและทฤษฎี สามารถอธิบายสภาพปัญหาด้วยทฤษฎีที่ นักเรียนได้ศึกษา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการอภิปราย 2.นาเทคโนโลยีเข้าช่วยในการวิเคราะห์เช่น Microsoft Excel ใช้ในการคานวณ ค่าไฟฟ้าเพื่อให้ สามารถคานวณได้รวดเร็วขึ้น และหาจุดคุ้มทุน เพื่อเสนอปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ สร้างกราฟ เพื่อ เปรียบเทียบความสิ้นเปลืองพลังงาน 3.นักเรียนสามารถสรุปปัญหาที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานและเสนอวิธีการแก้ไข ด้วยแบบ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม 4.นาความรู้ที่ได้สรุปปัญหาที่ทาให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานและเสนอวิธีการแก้ไขสร้างวิ ธีการ แก้ไขปัญหาในรูปแบบแผนปฏิบัติการ 5W1H และวิเคราะห์ SWOT ของแผนงาน ด้วยแบบโครงงานสารวจ และปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ขั้นขยายความรู้(elaboration) 1.สามารถนาความรู้ที่ได้จากการสารวจในรูปแบบโครงงานสร้างแผนปฏิบัติการที่สามารถนาไป ปฏิบัติได้จริง และพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามโมเดลเดมมิ่ง (PDCA) 2.เลือกรูปแบบการนาเสนอโครงงานที่ตนเองถนัดที่สุด
  • 7. 7 2.1 นาเสนอด้วยคลิปวีดีโอ หรือหนังสั้น สามารถใช้โปแกรมตัดต่อ Movie Maker หรือ Ulead หรือโปรแกรมที่นักเรียนถนัดในการสร้างผลงานเพื่อนาเสนอ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัด พลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม 2.2 นาเสนอโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยเว็บ บล็อก 2.3 นาเสนอโครงงานสารวจและปฏิ บัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วย Microsoft Powerpoint 2.4 นาเสนอประชาสัมพันธ์ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน วิทยาคม ผ่านเสียงตามสายของโรงเรียน 2.5 นาเสนอและเผยแพร่ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรีย นซับบอน วิทยาคม ผ่าน Social Network เช่น Facebook.com , twitter.com, blog หรือ หน้าแฟนเพจของโรงเรียน (Facebook.com/subbonwittayakhom) และแชร์ให้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 2.6 เผยแพร่เอกสารการค้นคว้าที่จัดทาในรูปแบบ word หรือ pdf ใน Slideshare.net 2.7 นาเสนอ รณรงค์เรื่องพลังงาน โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับ บอนวิทยาคม หน้าเสาธง หลังเข้าแถวเคารพธงชาติ 2.8 เผยแพร่แนวความคิดจากการศึกษา โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียน ซับบอนวิทยาคม ผ่านทาง Social Media เช่น Youtube.com 2.9 วิธีการอื่นๆที่นักเรียนต้องการ โดยให้ปรึกษาครูผู้สอนก่อน
  • 8. 8 ขั้นประเมิน (evoluation) 1.แนวทางการประเมินโครงงานโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน วิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินโครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 10-9 8-7 6-5 4-3 2-0 1.ความคิดสร้างสรรค์ 2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3.ความถูกต้องของทฤษฎี 4.ความเป็นไปได้ใน การนา โครงงาน ไปใช้เพื่อ แก้ปัญหาได้จริง 5.การวางแผนเพื่อนาโครงงานสารวจสู่ แผนปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน 2.แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัด พลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 10-9 8-7 6-5 4-3 2-0 1.ความคิดสร้างสรรค์ 2.การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการนาเสนอ 3.ความน่าสนใจของการนาเสนอ 4.ความถูกต้องของการนาเสนอกับโครงงาน สารวจและปฏิบัติการประหยัดพลังงาน 5.การสื่อถึงการประหยัดพลังงานและใช้พลังงาน อย่างคุ้มค่า
  • 9. 9 3.แบบประเมินตนเองของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนการสอนด้วย โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 5 4 3 2 1 1.นักเรียนได้สารวจปัญหาจากสภาพเพื่อนามาใช้ในการทาโครงงาน 2.นักเรียนมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องความ สิ้นเปลืองพลังงานของโรงเรียน 3.นักเรียนร่วมมือกันทางานเป็นกลุ่ม 4.กิจกรรมโครงงานนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง 5.นักเรียนได้ความรู้เพิ่มจากการทาโครงงาน 6.การนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน 7.เกิดการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง 8.นักเรียนได้ใช้ทักษะที่ตนถนัดในการนาเสนอ 9.ความเหมาะสมของวิธีการจัดทาและนาเสนอโครงงาน 10.นักเรียนอยากให้มีการจัดทาโครงงานในทุกๆภาคการศึกษา 7.สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ในศูนย์การเรียน ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1 มารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2 แบบโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอน วิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ 7.2 แหล่งเรียนรู้ 1.ห้องสมุด 2.ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ 3.อินเตอร์เน็ต
  • 10. 10 8.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมือที่ใช้วัด เกณฑ์การวัด 1.ด้านความรู้ (K) 1.ตรวจแบบทดสอบหลัง เรียน 2. ตรวจสอบผลงานจาก แบบโครงงาน แบบทดสอบหลังเรียน 1.ได้คะแนนรวมไม่ต่า กว่า ร้อยละ 50 ถือว่า ผ่าน 2.ด้านทักษะ/ กระบวนการเรียนรู้ (P) 1.ตรวจสอบผลงานจาก แบบโครงงาน 2.วิธีการนาเสนอ 3.สื่อที่ใช้นาเสนอ 1.แบบประเมินตนเอง 2.แบบประเมิน โครงงาน 3.แบบประเมินการ นาเสนอ 1.ได้คะแนนรวมไม่ต่า กว่า ร้อยละ 50 ถือว่า ผ่าน 2.เก็บคะแนนตามแบบ ประเมิน 3.ด้านพฤติกรรมการ เรียน (A) 1.สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน 1.แบบบันทึก พฤติกรรมการเรียน ของนักเรียนเป็นกลุ่ม 1.ผ่านเกณฑ์การประเมิน ตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป
  • 11. 11 ชื่อผู้ทาโครงงาน 1…………………………………………………ชั้น …………เลขที่……………. 2…………………………………………………ชั้น …………เลขที่……………. แบบประเมินโครงงานโครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินโครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 10-9 8-7 6-5 4-3 2-0 1.ความคิดสร้างสรรค์ 2.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3.ความถูกต้องของทฤษฎี 4.ความเป็นไปได้ในการนาโครงงานไปใช้เพื่อ แก้ปัญหาได้จริง 5.การวางแผนเพื่อนาโครงงานสารวจสู่ แผนปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน แบบประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 10-9 8-7 6-5 4-3 2-0 1.ความคิดสร้างสรรค์ 2.การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการนาเสนอ 3.ความน่าสนใจของการนาเสนอ 4.ความถูกต้องของการนาเสนอกับโครงงาน สารวจและปฏิบัติการประหยัดพลังงาน 5.การสื่อถึงการประหยัดพลังงานและใช้พลังงาน อย่างคุ้มค่า
  • 12. 12 ชื่อผู้ทาโครงงาน 1…………………………………………………ชั้น …………เลขที่……………. แบบประเมินตนเองของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนการสอนด้วย โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ แนวทางการประเมินการนาเสนอ ขยายผล และเผยแพร่โครงงาน รายการประเมิน ระดับคะแนน 5 4 3 2 1 1.นักเรียนได้สารวจปัญหาจากสภาพจริงเพื่อนามาใช้ในการทาโครงงาน 2.นักเรียนมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาเรื่องความ สิ้นเปลืองพลังงานของโรงเรียน 3.นักเรียนร่วมมือกันทางานเป็นกลุ่ม 4.กิจกรรมโครงงานนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง 5.นักเรียนได้ความรู้เพิ่มจากการทาโครงงาน 6.การนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวัน 7.เกิดการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง 8.นักเรียนได้ใช้ทักษะที่ตนถนัดในการนาเสนอ 9.ความเหมาะสมของวิธีการจัดทาและนาเสนอโครงงาน 10.นักเรียนสามารถเชื่อมโยงทฤษฎีและวางแผนปฏิบัติได้
  • 13. 13 แบบบันทึกพฤติกรรมของผู้เรียน เรื่อง โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ด้วยวิธีการสืบเสาะ ชื่อ-สกุล พฤติกรรมการเรียน ระดับ คุณภาพความ สนใจใฝ่รู้ ปฏิบัติ กิจกรรม ด้วยความ รับผิดชอบ การ วางแผน การทางาน ทางาน ร่วมกับผู้อื่น ได้ รวม เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน 4 3 2 1 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมิน (นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา)
  • 14. 14 เกณฑ์การประเมินพฤติกรรมของผู้เรียน พฤติกรรมการ เรียน ระดับคะแนน 4 3 2 1 ความสนใจใฝ่รู้ มีความกระตือรือร้น สนใจ ซักถามข้อสงสัย ศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติม เข้าร่วม กิจกรรมทุกครั้ง มีความกระตือรือร้น สนใจซักถามข้อสงสัย ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม มีความ กระตือรือร้น สนใจซักถาม ข้อสงสัย มีความ กระตือรือร้น ปฏิบัติกิจกรรม ด้วยความ รับผิดชอบ ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมผลงาน เรียบร้อย ถูกต้องสมบูรณ์ เสร็จทันเวลาที่กาหนด ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรม ผลงานเรียบร้อย ถูกต้องสมบูรณ์ ตั้งใจปฏิบัติ กิจกรรม ผลงาน เรียบร้อย ตั้งใจปฏิบัติ กิจกรรม การวางแผนการ ทางาน วางแผนการทางานเป็นทีม นาทฤษฎีมาอ้างอิง กาหนด บทบาทหน้าที่ผู้รับผิดชอบ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ปัญหาอุปสรรค มีการ วางแผนเพื่อปรับปรุงพัฒนา และมีการประยุกต์ให้ เหมาะสมกับการใช้งานจริง วางแผนการทางาน เป็นทีม นาทฤษฎีมา อ้างอิง กาหนดบทบาท หน้าที่ผู้รับผิดชอบ วิเคราะห์ความเป็นไป ได้ปัญหาอุปสรรค มี การวางแผนเพื่อ ปรับปรุงพัฒนา วางแผนการ ทางานเป็นทีม นาทฤษฎีมา อ้างอิง กาหนด บทบาทหน้าที่ ผู้รับผิดชอบ วิเคราะห์ความ เป็นไปได้ ปัญหาอุปสรรค วางแผนการ ทางานเป็น ทีม นาทฤษฎี มาอ้างอิง ทางานร่วมกับ ผู้อื่นได้ ร่วมมือ มีน้าใจ เสียสละ กล้าแสดงและยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น ร่วมมือ มีน้าใจ เสียสละ กล้าแสดง ร่วมมือ มีน้าใจ ร่วมมือ เกณฑ์การสรุประดับคุณภาพพฤติกรรมการเรียน คะแนน 15-16 12-14 9-11 0-8 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
  • 15. 15 ศูนย์การเรียนรู้ที่ 1 สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องมารู้จักกับโครงงานวิทยาศาสตร์ เอกสารประกอบ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง =========================================================================== โครงงานวิทยาศาสตร์ คือ การที่นักเรียนมีปัญหา หรือข้อสงสัย แล้วนาปัญหานั้นไปทดลองศึกษาแก้ปัญหา โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แล้วนาผลงานมาเสนอวิเคราะห์ เป็นการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เรื่อง ใดเรื่องหนึ่งด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แล้วรวบรวมสรุป วิเคราะห์ รายงานผลที่ได้จาก การศึกษา ความสาคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์ การศึกษาค้นคว้าด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ ช่วยให้นักเรียนเกิด การเรียนรู้ มีประสบการณ์จากการ ปฏิบัติจริง ฝึกแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะติดตัวผู้เรียนไปตลอด เมื่อมีข้อสงสัย หรือ ปัญหาเกิดขึ้น จะแก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นสิ่งที่สาคัญ กว่าความรู้ที่ขาดการปฏิบัติ ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าว จะทาให้ผู้เรียนเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง และกล้า แสดงออก ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบ่งออกเป็น 4 ประเภท 1. โครงงานประเภทการทดลอง คือ เป็นโครงงานที่มีการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาของตัวแปร หนึ่งที่มีต่อแปรอีกตัวหนึ่งที่ต้องการศึกษา โดยควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อตัวแปรที่จะต้องการศึกษา เอาไว้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง โครงงานที่จะจัดเป็นโครงงานประเภทการทดลองได้จะต้องเป็นโครงงานที่มี การจัดกระทากับตัวแปรต้น หรือเรียกอกอย่างหนึ่งว่า ตัวแปรอิสระ มีการวัดตัวแปรตาม (ผลที่ต้องการ) และ ควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ไม้ต้องการศึกษา โดยทั่วไป ขั้นตอนการดาเนินงานของโครงงานประเภทนี้จะ ประกอบด้วย การกาหนดปัญหา การตั้งจุดมุ่งหมาย สมมติฐาน การกาหนดตัวแปรต่าง การออกแบบการ ทดลอง การรวบรวมข้อมูล การดาเนินการทดลอง การแปรผลและการสรุปผล 2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวม ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ ไม่มีการจัดหรือกาหนด ตัวแปรต่างๆ ที่ต้องการศึกษา โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูลนี้ ผู้ทาโครงงานเพียงต้องการสารวจ และรวบรวมข้อมูล แล้วนาข้อมูลนั้นมาจาแนกเป็นหมวดหมู่ และนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เห็น
  • 16. 16 ลักษณะหรือความสัมพันธ์ในเรื่องที่ต้องการศึกษาได้ชัดเจนยิ่งขึ้นการสารวจและรวบรวมข้อมูลนี้อาจทาได้ ในหลายรูปแบบ เช่น การออกไปเก็บข้อมูลในภาคสนาม ซึ่งในบางครั้ง บางเรื่องก็สามารถเก็บรวบรวม ข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการในท้องถิ่น หรือในสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า ในขณะที่ออกไปปฏิบัติการ นั้นโดยไม่ต้องนาวัตถุตัวอย่างกลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการอีก ตัวอย่างโครงงานประเภทนี้ได้แก่ - การสารวจประชากรและชนิดของสิ่งต่างๆ เช่น สัตว์พืช หิน แร่ ฯลฯ ในท้องถิ่น หรือในบริเวณที่ต้องการศึกษา - การสารวจพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ของสัตว์ในธรรมชาติ - การสารวจทิศทางและอัตราเร็วลมในท้องถิ่น - การสารวจการผุกร่อนของสิ่งก่อสร้างที่ทาด้วยหินอ่อนในแหล่งต่างๆ ฯลฯ ในบางครั้งการออกภาคสนามก็เพื่อไปเก็บวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เพราะไม่ สามารถที่จะวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลได้ทันที ในขณะออกไปปฏิบัติการภาคสนาม ตัวย่างโครงงาน ประเภทนี้ ได้แก่ - การสารวจคุณภาพน้า เช่น ความขุ่น ความเป็นกรด – เบส ค่า BOD ฯลฯ แหล่งน้าต่างๆ ที่ต้องการศึกษา เช่น บริเวณใกล้ๆ โรงงานน้าอัดลม โรงงานผลิตสุรา ฯลฯ - การศึกษาสมบัติ เช่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น ของสารต่างๆที่สกัดได้จากวัสดุหรือพืชชนิด ใดชนิดหนึ่งที่ต้องการศึกษา - การสารวจคุณภาพของดิน เช่น ความชื้น ปริมาณสารอินทรีย์ความเป็นกรด เบส จากแหล่งต่างๆ ที่ต้องการ ศึกษา - การศึกษาสารวจมลพิษของอากาศในแหล่งต่างๆฯลฯ ในการสารวจรวบรวมข้อมูลบางอย่างแทนที่จะต้องอออกไปสารวจตามธรรมชาติบางครั้งก็อาจ จาลองธรรมชาติขึ้นในห้องปฏิบัติการแล้วสังเกต และศึกษารวบรวมข้อมูลต่างๆ ในธรรมชาติจาลองนั้นๆ เช่น - การศึกษาวงจรชีวิตไหมที่เลี้ยงในห้องปฏิบัติการ - การศึกษาพฤติกรรมของมดที่เลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ฯลฯ 3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่เกี่ยวกับการ ประยุกต์ทฤษฎีหรือหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้ สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดประดิษฐ์สิ่งของใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้โครงงานประเภทนี้รวมไปถึง การสร้างแบบจาลองเพื่ออธิบายแนวความคิดต่างๆ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปแก้ปัญหาต่างๆ 4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานเกี่ยวกับการนาเสนอ ทฤษฎี หลักการ หรือแนวความคิด
  • 17. 17 ใหม่ๆ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบายโดยผู้เสนอได้ตั้งกติกาหรือข้อตกลงเอง แล้วเสนอ ทฤษฎี หลักการแนวความคิด หรือจินตนาการของตนเองตามกติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือ ข้อตกลงอันเดิมมาอธิบายสิ่งหรือปรากฏการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือ จินตนาการที่เสนอนี้อาจจะใหม่ไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวความคิดเดิมก็ได้การทาโครงงานประเภทนี้ จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็น อย่างดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุผล และน่าเชื่อถือ หรืออาจทาได้โดยสร้าง เครื่องมือขึ้นประกอบการอธิบาย โดยทั่วไปโครงงานประเภทนี้จัดเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์หรือโครงงาน ทางคณิตศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 1.กาหนดปัญหา 2. ตั้งสมมติฐาน 3. รวบรวมข้อมูล 4. ทดลอง 5. สรุปผล ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1. ทักษะการกาหนด และควบคุมตัวแปร 2. ทักษะการคานวณ 3. ทักษะการจัดทา และสื่อความหมายข้อมูล 4. ทักษะการจาแนกประเภท 5. ทักษะการตั้งสมมติฐาน 6. ทักษะการตีความหมาย 7. ทักษะการทดลอง 8. ทักษะการกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ 9. ทักษะการพยากรณ์ 10. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 11. ทักษะการวัด 12. ทักษะการ สังเกต 13. ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างมิติกับมิติและ มิติกับเวลา
  • 19. 19 ศูนย์การเรียนรู้ที่ 2 สาระการเรียนรู้ที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การคานวณค่าไฟฟ้า เอกสารประกอบ โครงงานสารวจและปฏิบัติการ ประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 1 ชั่วโมง =========================================================================== การคานวณค่าไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้พลังงานไฟฟ้าต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งทราบได้จากตัวเลขที่กากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ระบุไว้ทั้งความต่างศักย์ (V) และกาลังไฟฟ้า (W) ตัวอย่างเช่น หลอดไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า มีตัวเลขกากับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟฟ้ามีตัวเลขกากับว่า 220 V 80 W - ตัวเลข 220 V หมายถึงหลอดไฟฟ้านี้ใช้กับความต่างศักย์220 โวลต์ซึ่งเราต้องใช้ไฟให้ตรง กับค่าความต่างศักย์ที่กาหนด - ตัวเลข 80 W ที่กากับมาเป็นค่าของพลังงานไฟฟ้าที่หลอดไฟฟ้าใช้ไปในเวลา 1 วินาที ซึ่ง เรียกว่า กาลังไฟฟ้า หมายเหตุ - ในการวัดพลังงานไฟฟ้า เราจะใช้หน่วยเป็นจูล ตัวเลข 80 W จึงหมายความว่า หลอด ไฟฟ้านี้จะใช้พลังงานไฟฟ้า 80 จูล ในเวลา 1 วินาที ค่าไฟ เป็นสิ่งที่เราต้องจ่ายทุกเดือน เพราะไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ไฟ (ถึงแม้พ่อแม่เราจะเป็น คนจ่ายก็ตาม) จะดีแค่ไหนหากเรารู้วิธีการคานวณค่าไฟฟ้าสาหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เราจะสามารถ ประมาณค่าไฟ (โดยประมาณ) ของแต่ละเดือนได้ประโยชน์ก็จะตกอยู่กับเราเองในการวางแผนการใช้จ่าย ได้ง่ายขึ้น โดยการคานวณค่าไฟฟ้านั้น เราสามารถทาได้ด้วยตนเองง่ายๆ จากสูตรที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้* สาหรับการใช้ไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าใน 1 วัน เราสามารถใช้สูตรการคานวณดังนี้ ตัวอย่าง บ้านครูปอนด์มีเครื่องใช้ไฟฟ้า 3 ชนิด คือทีวีขนาด 150 วัตต์จานวน 1 เครื่อง, พัดลมขนาด 100
  • 20. 20 วัตต์จานวน 1 เครื่อง และหลอดไฟขนาด 40 วัตต์จานวน 5 ดวง โดยครูปอนด์จะเปิดทีวีและพัดลมพร้อม กันตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 น. ทุกวัน ส่วนหลอดไฟจะเปิดพร้อมกันทั้ง 4 ดวงตั้งแต่เวลา 18.00 - 06.00 น. ทุกวัน อยากทราบว่าครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าไปกี่ยูนิตในหนึ่งเดือน วิธีคิด จากตัวอย่างเราได้ข้อมูลว่า 1. ทีวีขนาด 150 วัตต์ใช้งานวันละ 3 ชั่วโมง 2. พัดลมขนาด 100 วัตต์ใช้งานวันละ 3 ชั่วโมง 3. หลอดไฟขนาด 40 วัตต์ใช้งานวันละ 12 ชั่วโมง จากสมการ ดังนั้นใน 1 วัน เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้ไฟฟ้าดังนี้ จานวนยูนิตของทีวี = [(150 x 1) x 3] / 1000 = 0.45 จานวนยูนิตของพัดลม = [(100 x 1) x 3] / 1000 = 0.30 จานวนยูนิตของหลอดไฟ = [(40 x 4) x 3] / 1000 = 0.48 รวมใน 1 วัน ครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น = 0.45 + 0.30 + 0.48 = 1.23 ดังนั้น ในเดือนธันวาคม (มี 31 วัน) ครูปอนด์ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น = 1.23 x 31 = 38.13 ยูนิต (ตอบ) โรงเรียนซับบอนวิทยาคมใช้ไฟฟ้าเกิน 400 หน่วยต่อเดือน การทาโครงงานสารวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงานโรงเรียนซับบอนวิทยาคมนั้น มุ่งเน้นให้เกิดการสารวจจากสภาพจริงและสร้าง แผนปฏิบัติเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า พร้อมทั้งลดความสิ้นเปลืองของพลังงาน ดังนั้นสาหรับการคานวณเพื่อการประหยัดพลังงานนั้น จึงใช้อัตราค่าไฟฟ้า 400 หน่วยขึ้นไป ราคาต่อหน่วย 2.978 บาทต่อหน่วย ตัวอย่างการคานวณ จากการสารวจการใช้พลังงานในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม พบว่า ใช้หลอดไฟฟ้า ขนาด 36 วัตต์ จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน จากการค้นคว้าพบว่า สามารถเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้า ขนาด 6 วัตต์ได้ซึ่งจะทาให้โรงเรียนของเราประหยัดค่าไฟฟ้า ได้ดังนี้ ค่าไฟฟ้าที่จ่ายโดยใช้หลอดขนาด 36 วัตต์จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน = ((36x450x6)/1000) x 2.978 = 289.46 บาทต่อวัน หรือ 78,154.6 บาทต่อปี(270 วัน) ค่าไฟฟ้าที่จ่ายโดยใช้หลอดขนาด 6 วัตต์จานวน 450 หลอด โดยเฉลี่ยใช้วันละ 6 ชั่โมงต่อวัน = ((6x450x6)/1000) x 2.978 = 48.24 บาทต่อวัน หรือ 13025.7 บาทต่อปี(270 วัน)
  • 22. 22 โครงงานสารวจและปฏิบัติการ การประหยัดพลังงาน โรงเรียนซับบอนวิทยาคม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนซับบอนวิทยาคม สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40 1.ชื่อโครงงาน ……………………………………………………………………………………………… 2.ชื่อผู้จัดทา 1…………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………… 3.ครูที่ปรึกษา 1…………………………………………………………………………………………………… 2…………………………………………………………………………………………………… 4.วัตถุประสงค์การจัดทาโครงงาน 1. …………………………………………………………………………………………………… 2. …………………………………………………………………………………………………… 3. …………………………………………………………………………………………………… 4. …………………………………………………………………………………………………… 5.สมมุติฐาน ของการทาโครงงาน 1. …………………………………………………………………………………………………. 2. …………………………………………………………………………………………………. 6.หลักการและเหตุผล . …………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………
  • 23. 23 ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 7.แนวความคิดในการประหยัดพลังงาน . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 8.ความรู้แลทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงาน (บทเอกสาร) . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………
  • 24. 24 . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 9. ขั้นตอนและวิธีการสารวจ สาเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน 9.1 สารวจ สาเหตุของการสิ้นเปลืองพลังงาน โดยใช้โมเดลการบริหารจัดการพลังงาน 4Ms 9.1.1 Man (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจากคน) . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 9.1.2 Machine (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจากเครื่องจักร) . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 9.1.3 Material (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่มีสาเหตุจาก วัสดุ อุปกรณ์) . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………
  • 25. 25 ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 9.1.4 Method (ความสิ้นเปลืองพลังงานที่เกิดจาก วิธีการใช้งาน หรือ ขั้นตอนการใช้งาน) . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 10. แบบสอบถามข้อเสนอแนะเพื่อการประหยัดพลังงานโดยเน้นการมีส่วนร่วม 10.1 ท่านมีข้อเสนอแนะในเรื่องการประหยัดพลังงานในโรงเรียนซับบอนวิทยาคม อย่างไรบ้าง ลาดับ เรื่อง สถานที่ ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ………………………………………… ผู้ให้ข้อเสนอแนะ
  • 26. 26 11.วิเคราะห์และสรุปผลของโครงงาน . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… . …………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………
  • 28. 28
  • 29. 29
  • 30. 30
  • 31. 31 บันทึกการสอน .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... นายวีรชาติ มาตรหลุบเลา ตาแหน่งครูผู้ช่วย