More Related Content
Similar to ใบความรู้ที่ 4 พัฒนาโปรแกรมภาษาซี (16)
ใบความรู้ที่ 4 พัฒนาโปรแกรมภาษาซี
- 1. ใบความรู้ที่ใบความรู้ที่ใบความรู้ที่ใบความรู้ที่ 1.1.1.1.4444
รายวิชา งรายวิชา งรายวิชา งรายวิชา ง 32221322213222132221 การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษาซีการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษาซีการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษาซีการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษาซี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5555
หน่วยการเรียนรู้ที่หน่วยการเรียนรู้ที่หน่วยการเรียนรู้ที่หน่วยการเรียนรู้ที่ 1111 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาซีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาซีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาซีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาซี เรื่องเรื่องเรื่องเรื่อง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซี
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังผลการเรียนรู้ที่คาดหวังผลการเรียนรู้ที่คาดหวังผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง อธิบายขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีได้
ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซีขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซี
ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ 1111 การเขียนโปรแกรมการเขียนโปรแกรมการเขียนโปรแกรมการเขียนโปรแกรม (((( SSSSource codeource codeource codeource code))))
ใช้ Editor เขียนโปรแกรมภาษาซีและทําการบันทึกไฟล์ให้มีนามสกุลเป็น .C เช่น work.c เป็นต้น
Editor คือ โปรแกรมที่ใช้สําหรับการเขียนโปรแกรม โดยตัวอย่างของ Editor ที่นิยมใช้ในการเขียนโปรแกรม ได้แก่
Notepad,Edit ของ Dos และ EditPlus เป็นต้น
ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ 2222 คอมไพล์โปรแกรมคอมไพล์โปรแกรมคอมไพล์โปรแกรมคอมไพล์โปรแกรม ((((CompileCompileCompileCompile))))
นํา Source Code จากขั้นตอนที่ 1 มาทําการคอมไฟล์ เพื่อแปลจากภาษาซีที่มนษย์เข้าใจไปเป็น
ภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้ ในขั้นตอนนี้คอมไพเลอร์จะทําการตรวจสอบว่าเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่
- หากเกิดข้อผิดพลาด จะแจ้งให้ผู้เขียนโปรแกรมทราบ ผู้เขียนโปรแกมจะต้องกลับไปแก้ไขโปรแกรม
และทําการคอมไพล์โปรแกรมใหม่อีกครั้ง
- หากไม่พบข้อผิดพลาด คอมไพเลอร์จะแปลไฟล์ source code จากภาษาซีไปเป็นภาษาเครื่อง เช่น ถ้าไฟล์
source code ชื่อ work.c ก็จะถูกแปลเป็นไฟล์ work.obj ซึ่งเก็บภาษาเครื่องไว้ เป็นต้น
compile เป็นตัวแปรภาษารูปแบบหนึ่ง ทําหน้าที่หลัก คือ การแปลภาษาโปรแกรมที่มนุษย์เขียนขึ้นไปเป็น
ภาษาเครื่อง โดยคอมไพเลอร์ของภาษาซี คือ C Compile หลักการคอมไพเลอร์ เรียกว่า คอมไพล์คอมไพล์คอมไพล์คอมไพล์((((compile)compile)compile)compile) โดยจะทํา
การอ่านโปรแกรมภาษาซีทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วทําการแปลผลทีเดียว
ตัวแปลภาษาอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกว่า อินเตอร์พรีเตอร์ จะอ่านและแปลโปรแกรมทีละบรรทัด เมื่อแปล
ผลบรรทัดหนึ่งเสร็จจะทํางานตามคําสั่งในบรรทัดนั้น แล้วจึงทําการแปลผลตามคําสั่งในบรรทัดถัดไป หลักการที่
อินเตอร์พรีเตอร์ใช้ เรียกว่า อินเตอร์เพรต (interpret)
- 2. คอมไพเลอร์คอมไพเลอร์คอมไพเลอร์คอมไพเลอร์ - ทํางานได้รวดเร็ว เนื่องจากทําการแป
จึงทํางานตามคําสั่งของโปรแกรมภายหลัง
- เมื่อทําการแปลผลแล้ว ในครั้งต่อไปไม่จําเป็นต้องทํา
การแปลผลใหม่อีก เนื่องจากภาษาเครื่องที่แปลได้จะถูก
เก็บไว้ที่หน่วยความจํา สามารถเรียกใช้งานได้ทันที
อินเตอร์พรีเตอร์อินเตอร์พรีเตอร์อินเตอร์พรีเตอร์อินเตอร์พรีเตอร์ - หาข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ง่ายเนื่องจากทําการแปล
ผลทีละบรรทัด
- เนื่องจากทํางานทีละบรรทัดดังนั้นจึงสั่งให้โปรแกรม
ทํางานตามคําสั่งเฉพาะจุดที่ต้องการได้
- ไม่เสียเวลารอการแปลโปรแกรมเป็นเวลานาน
ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ 3333 การเชื่อมโยงโปรแกรมการเชื่อมโยงโปรแกรมการเชื่อมโยงโปรแกรมการเชื่อมโยงโปรแกรม ((((LinkLinkLinkLink
การเขียนโปรแกรมภาษาซี ผู้เขียนโปรแกรมไม่จําเป็นต้องเขียนคําสั่งต่างๆ ขึ้นใช้งานเอง เนื่องจาก
ภาษาซีมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้งานได้ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้ฟังก์
printf() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของภาษาซีมาใช้งานได้ โดยส่วนการประกาศ
ต่างๆ จะถูกเก็บอยู่ในเอดเดอร์ไฟล์แต่ละตัว แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน
ด้วยเหตุนี้ภาษาเครื่องที่ได้จากขั้นตอนที่
Library ก่อน ซึ่งผลจากการเชื่อมโยงจะทําให้ได้
นําไปใช้งานได้
ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ขั้นตอนที่ 4444 ประมวลผลประมวลผลประมวลผลประมวลผล ((((RunRunRunRun))))
เมื่อนํา executable program จากขั้นตอนที่
รูปภาพแสดง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาซี
ข้อดีข้อดีข้อดีข้อดี ข้อเสียข้อเสียข้อเสียข้อเสีย
ทํางานได้รวดเร็ว เนื่องจากทําการแปลผลทีเดียว แล้ว
จึงทํางานตามคําสั่งของโปรแกรมภายหลัง
เมื่อทําการแปลผลแล้ว ในครั้งต่อไปไม่จําเป็นต้องทํา
การแปลผลใหม่อีก เนื่องจากภาษาเครื่องที่แปลได้จะถูก
เก็บไว้ที่หน่วยความจํา สามารถเรียกใช้งานได้ทันที
- เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับ
โปรแกรมจะตรวจสอบหา
ข้อผิดพลาดได้ยาก เพรา
แปลผลทีเดียวทั้งโปรแกรม
หาข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ง่ายเนื่องจากทําการแปล
เนื่องจากทํางานทีละบรรทัดดังนั้นจึงสั่งให้โปรแกรม
ทํางานตามคําสั่งเฉพาะจุดที่ต้องการได้
ไม่เสียเวลารอการแปลโปรแกรมเป็นเวลานาน
- ช้า เนื่องจากทํางานทีละบรรทัด
LinkLinkLinkLink))))
การเขียนโปรแกรมภาษาซี ผู้เขียนโปรแกรมไม่จําเป็นต้องเขียนคําสั่งต่างๆ ขึ้นใช้งานเอง เนื่องจาก
ภาษาซีมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้งานได้ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้ฟังก์
ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของภาษาซีมาใช้งานได้ โดยส่วนการประกาศ(declaration)ของฟังก์ชันมาตรฐาน
ต่างๆ จะถูกเก็บอยู่ในเอดเดอร์ไฟล์แต่ละตัว แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน
ด้วยเหตุนี้ภาษาเครื่องที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 จึงยังไม่สามารถนําไปใช้งานได้ แต่ต้องนํามาเชื่อมโยงกับ
ก่อน ซึ่งผลจากการเชื่อมโยงจะทําให้ได้ executable program (ไฟล์นามสกุล .exe เช่น work.exe
จากขั้นตอนที่ 3 มาประมวลผลก็จะได้ผลลัพธ์ (Output) ของโปรแกรมออกมา
รูปภาพแสดง ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาซี
ข้อเสียข้อเสียข้อเสียข้อเสีย
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับ
โปรแกรมจะตรวจสอบหา
ข้อผิดพลาดได้ยาก เพราะทําการ
แปลผลทีเดียวทั้งโปรแกรม
เนื่องจากทํางานทีละบรรทัด
การเขียนโปรแกรมภาษาซี ผู้เขียนโปรแกรมไม่จําเป็นต้องเขียนคําสั่งต่างๆ ขึ้นใช้งานเอง เนื่องจาก
ภาษาซีมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้งานได้ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน
ของฟังก์ชันมาตรฐาน
จึงยังไม่สามารถนําไปใช้งานได้ แต่ต้องนํามาเชื่อมโยงกับ
work.exe) ที่สามารถ
ของโปรแกรมออกมา