Mais conteúdo relacionado Walaiporn4. IPCC (Intergovernmental Panel on Climate
Change)
ผลการตรวจวัดและสังเคราะห์ข้อมูลทุก 5
ปี นับแต่ 2533
IPCC (2007) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ อุณหภูมิมีแนวโนม้สูงขึ้น
0.1-0.3 องศาต่อทศวรรษปริมาณนำ้าฝน
รวมมีแนวโน้มลดลง ระดับนำ้าทะเลมีแนว
โน้มสูงขึ้นปริมาณ 1-3 มม./ปี และมี
โอกาสที่จะเกิดสภาวะความรุนแรงของ
สภาวะอากาศสูงขึ้น
อำานาจ,2553
5. ประเทศไทย
สกว. สนับสนุนงานวิจัย : ผลกระทบของ
การเปลี่ยนแปลงและความแปรปรวนสภาพ
ภูมิอากาศต่อประเทศไทย(IPCC SRES A2
B2)
การศึกษาวิจัย วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง
การตอบสนอง และความอ่อนไหว(เกษตร
แหล่งนำ้า และภัยพิบัติธรรมชาติ)
กรมฯ...
6. แบบ A ให้ความความสำาคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็น
หลัก
- A1 การเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ประชากรโลกสูงสุดในกึ่งศตวรรษ และ
ลดลงเล็กน้อยหลังจากนั้น มีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มีการพัฒนา
บุคลากร มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม ความแตกต่างของรายได้
ประชาชาติระหว่างภูมิภาคลดลง
- A2 มีความหลากหลาย พึ่งตนเองมากขึ้นภายในภูมิภาค มีการอนุรักษ์
เอกลักษณ์ท้องถิ่น ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาเศรษฐกิจ
ขึ้นอยู่กับภูมิภาค การเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยีช้ากว่าแบบอื่น และกระจายตามท้องถิ่นและภูมิภาค
แบบ B ให้ความความสำาคัญกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบบ A
- B1 ประชากรเช่นเดียวกับแบบ A1 แต่โครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนอย่าง
รวดเร็วไปเป็นภาคบริการและสารสนเทศ ลดการใช้วัตถุ มีการใช้
เทคโนโลยีที่สะอาด มีความเสมอภาค แต่ไม่มีการนำาประเด็นด้านภูมิ
อากาศเป็นแรงจูงใจ
- B2 เน้้นการแก้้ป้ญหาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นหรือภูมิภาค ประชากร
เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่น้อยกว่า A2 มีการพัฒนาเศรษฐกิจปานกลาง การ
เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหลากหลายและช้าลงกว่า B1 และ A1 โดย
มีการปกป้องสิ่งแวดล้อม และความเสมอภาคของสังคมที่เน้นที่ท้องถิ่น
11. Temperature distribution for Jul-Aug in Israel
The mode temperature increased by 1°C
The distribution broadened
The warm days became more frequent & warmer
12. Expect more extreme events
“Small” change in average big change in extremes
Heat Waves?
Droughts?
Floods?
15. • สภาพอากาศโดยรวมที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ผลผลิตอาจ
เปลี่ยนไป การติดดอก ติดผล ของพืชจะเปลี่ยนไป
• สภาพอากาศโดยรวมที่เปลี่ยนไป เช่น ฝนมากขึ้นส่งผล
การตอบสนองต่อการให้ปุ๋ย และต่อต้นทุนการผลิต
• การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช
• ความเสี่ยงของการผลิตจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน
รุนแรง
• ความเหมาะสมของพื้นที่ต่างๆ กับการผลิตทางการ
เกษตรจะเปลี่ยนไป เช่น การเกษตรที่สูงพืชเมืองหนาว
ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ
อากาศต่อเกษตรกรรมในประเทศไทย
23. y=-0.0165x+36.873
R2
=0.5885
0
1
2
3
4
5
6
7
1970 1980 1990 2000 2010 2020 2030 2040 2050 2060 2070 2080 2090 2100 2110
ปี
ผลผลิต(ตัน/ไร่)
ความสัมพันธ์ระหว่างผลผลิตเฉลี่ยรายปีจากการจำาลองของมัน
สำาปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50
ทั้งประเทศกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี 1980-2099
(ผลผลิตลดลง 43 %)
IGW
Impact of Global Warming
Source : Vinai et
24. สรุปของข้าวโพด พบกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาค ได้แของข้าวโพด พบกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาค ได้แ
นครราชสีมา นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรนครราชสีมา นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุร
แพงเพชร ตาก ลำาพูน เชียงราย พะเยา ลำาปาแพงเพชร ตาก ลำาพูน เชียงราย พะเยา ลำาปา
ของมันสำาปะหลัง ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคตะของมันสำาปะหลัง ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคตะ
ได้แก่ จังหวัดหนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำาได้แก่ จังหวัดหนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำาภ
กลนคร นครราชสีมากลนคร นครราชสีมา
ของการผลิตอ้อย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคตะวของการผลิตอ้อย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคตะว
อนบน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ อุดรธานี มหาสอนบน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ อุดรธานี มหาส
ครราชสีมา เลย และชัยภูมิครราชสีมา เลย และชัยภูมิ
พื้นที่วิกฤตพื้นที่วิกฤต
เกริกและคณะ 2553
25. 0
2
4
6
8
10
12
14
0 5 10 15 20 25 30 35 40 45
อุณหภูมิ (องศาเซลเซียส)
อัตราการสังเคราะห์แสง(umol/m/s) PB 260
RRIM 600
อุณหภูมิ 23-36 ± 1 องศาเซลเซียส ที่เหมาะสมกับ
กระบวนการสังเคราะห์แสง RRIM 600 และ PB
260 ที่มา : Kositsup et al., 2007
26. MaximumTemperature and yield
y = -4.5371x + 192.73
R2
= 0.5401
0
10
20
30
40
50
60
20 25 30 35 40 45
Temperature ( 0
C)
Yield(g/tap/tree)อุณหภูมิสูงในช่วงกลางวัน ต่อผลผลิตยาง
27. Minimum Temperature and Yield in Dapchari
y = -2.7111x + 80.904
R2
= 0.792
0
10
20
30
40
50
60
0 5 10 15 20 25 30 35
Temperature ( 0
C )
Yield(g/tap/tree)ง ช่วงกลางคืน ทำาให้ผลผลิตยาง ลดลง เทียบกับเข
28. 2500
2600
2700
2800
2900
3000
3100
3200
2002 2003 2004 2005 2006 2007
ผลผลิตยางธรรมชาติในประเทศไทย
ปี ค.ศ.2002 - 2007 (‘000 tonnes)
ฝนหนัก/แล้ง
นาน
2005
•แล้งยาวนานจนถึง
พฤษภาคม
•ฝนตกหนัก-
กรกฎาคม/สิงหาคม
•ฝนตกยาว-ตุลาคม &
ธันวาคม
2007
•ฝนหนัก&นำ้าท่วม-
กุมภาพันธ์&มีนาคม
•ฝนสลับร้อนแล้ง-
เมษายน/พฤษภาคม
38. Average seasonal rainfall (mm) in Chatturat district, 1970-2009.
Year Summer
(Feb-
Apr)
Early
rainy
(May-
Jul)
Late
rainy
(Aug-
Oct)
Winter
(Nov-
Jan)
1970-1979 141.6 444.2 518.8 20.9
1980-1989 138.3 368.9 492.0 28.0
1990-1999 148.4 425.6 532.7 26.7
2000-2009 184.0 379.6 619.5 23.5
Average 153.1 404.6 540.7 24.8
39. Average monthly rainfall (mm) in Chatturat district, 1970-2009.
Month 1970-1979 1980-1989 1990-1999 2000-2009 Average
Jan 4.3 3.2 2.4 3.7 3.4
Feb 20.8 17.0 11.0 9.1 14.4
Mar 43.1 29.2 56.2 72.5 50.2
Apr 77.7 93.8 81.3 102.4 88.8
May 163.9 112.9 162.7 151.0 147.6
Jun 144.2 155.4 150.5 124.7 143.7
Jul 136.2 100.6 112.4 103.9 113.2
Aug 140.1 102.0 227.3 221.3 172.7
Sep 286.0 229.6 176.5 286.8 244.7
Oct 92.7 160.5 128.9 111.4 123.4
Nov 9.0 20.4 19.5 17.1 16.5
Dec 7.7 4.4 4.9 2.7 4.9
Total 1,125.5 1,029.0 1,133.4 1,206.6 1,123.6
41. Filling up of missing weather data
If total year not available – Remove from data base
If monsoon period (June – Sep) is missing – Remove from data
base
If it is one month during monsoon period is missing – with the
condition both sides of year data is available then fill with
average
If few days in one year missing – fill up with average
44. Year Annual rainfall Feb-Apr May-Jul Aug- Oct Nov-Jan
(mm) %Deviation
from mean
(mm) %Deviation
from mean
(mm) %Deviation
from mean
(mm
)
%Deviation
from mean
(mm
)
%Deviation
from mean
1970 1109.9 -1 140.7 -8 481.1 19
477.
1 -12 11 -56
1971 1189.8 6 152.9 0 432.5 7
585.
5 8 18.9 -24
1972 860.3 -23 140.5 -8 273.2 -32
405.
3 -25 41.3 67
1973 1015.6 -10 67.5 -56 481 19
466.
8 -14 0.3 -99
1974 811.1 -28 162.2 6 191.1 -53
406.
6 -25 51.2 106
1975 1447.1 29 242.7 59 558.5 38
613.
2 13 32.7 32
1976 1205.9 7 169.9 11 342 -15
657.
6 22 36.4 47
1977 1029.1 -8 80 -48 381.2 -6 560 4 7.9 -68
1978 1579.1 41 105.1 -31 844.9 109
620.
6 15 8.5 -66
45. Chatturat
annual rainfall
y = 4.1426x + 1038.3
R
2
= 0.0367
0
200
400
600
800
1000
1200
1400
1600
1800
1970
1972
1974
1976
1978
1980
1982
1984
1986
1988
1990
1992
1994
1996
1998
2000
2002
2004
2006
2008
Early rainy season
May-July
y = -0.9408x + 423.86
R
2
= 0.0069
0
100
200
300
400
500
600
700
800
900
1970
1972
1974
1976
1978
1980
1982
1984
1986
1988
1990
1992
1994
1996
1998
2000
2002
2004
2006
2008
Late rainy season
Aug- Oct
y = 3.4779x + 469.45
R
2
= 0.0783
0
100
200
300
400
500
600
700
800
900
1970
1972
1974
1976
1978
1980
1982
1984
1986
1988
1990
1992
1994
1996
1998
2000
2002
2004
2006
2008
46. Rainfall Deviation (%) Annual Rainfall
Early rainy season
(May-Jul)
Late rainy season
(Aug- Oct)
Positive >50% 2000, 2008 1978, 2000 2007
40-50% 1978 1995 2000, 2008, 2009
30-40% 1987, 2009 1975, 2004 1990, 1995
20-30% 1975, 1996, 1995 1994, 1996 1976, 1987, 2001
10-20% 2007
1970, 1973, 1979, 1980, 1983,
1989, 1998, 2009
1975, 1978, 1988, 1996,
2006
<10 %
1971, 1976, 1980, 1983,
1988, 1990, 1991, 1994,
2001
1971, 1987, 1992, 2008 1971, 1977, 1980, 1982,
1983, 1999, 2002, 2005
Negative <10 % 1970, 1973, 1977, 1982,
1993, 1998, 1999, 2005
1977, 1988, 1991, 1993, 2007 1985, 1991, 1992, 1994
10-20% 1979, 1985, 1989, 1992,
2002, 2004, 2006
1976, 1982, 1990, 1997 1970, 1973, 1984, 1998
20-30%
1972, 1974, 1984,2003
1985, 1986,1999, 2001, 2003,
2005
1972, 1974, 1979, 1989,
1993, 2003
30-40%
1981, 1986, 1997 1972, 1984 1986
40-50% Nil 1981, 2006 1981
>50% Nil 1974, 2002 1997, 2004
48. คำาำำถาม
1. กราฟการเปลี่ยนแปลงปริมาณนำ้าฝนเป็น
อย่างไร
สมการ Regression คือR2คือ........................
2.ปีใดที่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณนำ้าฝนที่สูงกว่า
ค่าเฉลี่ยสูงสุดทางบวก.............และมีค่า........
3.ปีใดที่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณนำ้าฝนที่สูงกว่า
ค่าเฉลี่ยสูงสุดทางลบ...........และมีค่า...........
4. นอกจากปริมาณนำ้าฝนรายปีแล้วควรให้ความ
สนใจสารประกอบทางอุตุนิยมวิทยาใดบ้างใน
งานวิจัยทางด้านการเกษตร