SlideShare a Scribd company logo
1 of 24
เทคนิคการทำาเทคนิคการทำา paraphraseparaphrase
อันที่จริง ถ้าจะให้ดีที่สุด การทำา paraphrase นั้น
ต้องเป็นการเขียนขึ้นใหม่ด้วยการใช้คำาศัพท์
สำานวน และสไตล์การเขียนของตนเอง เพื่อหลีก
เลี่ยงการลอกเลียน (plagiarism)
อย่างไรก็ตาม โดยที่เราศึกษาภาษาอังกฤษเป็น
ภาษาต่างประเทศ การเขียนขึ้นใหม่เองทั้งหมด
อาจจะทำาได้ยากอย่างยิ่ง เนื่องจากจะต้องมี
ความรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี นอกจากจะ
เข้าใจเนื้อหาที่อ่านทั้งหมดก่อนแล้ว จะต้อง
เขียนได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วด้วย
• คำาแนะนำาเรื่องเทคนิคการทำา paraphrase ต่อไปนี้ จึง
เป็นเทคนิคทั่วๆ ไปที่น่าจะใช้ได้ในระดับประโยค
สำาหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่
พยายามจะเลี่ยงการลอก
• เทคนิคส่วนใหญ่อาศัยความรู้เรื่องศัพท์และไวยากรณ์
เป็นหลัก การรู้ว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ไม่สำาคัญเท่ากับ
ความเข้าใจเรื่องศัพท์และไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้องเหล่า
นั้น และการฝึกฝนจนสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง
คล่องแคล่ว
• จึงขอให้อ่านเนื้อหาต่อไปนี้เป็นแนวทาง และพยายาม
ทำาตามคำาแนะนำาที่ให้ไว้ข้างท้ายว่าทำาอย่างไรจึงจะ
paraphrase ได้ดี
เทคนิคการทำา paraphrase
8 ประการ
1. เปลี่ยนคำาศัพท์ที่ใช้
2. ใช้ word forms อื่นๆ หรือ parts of
speech ที่ต่างไป
3. เปลี่ยนรูปประโยคที่อยู่ใน active voice ให้
เป็น passive voice หรือสลับกัน
4. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยค
ปฏิเสธ หรือสลับกัน
5. เปลี่ยนลำาดับคำา เช่น adverbs of time,
adverbs of place หรือ ส่วนขยายคำาหรือ
ประโยค
6. เปลี่ยนตัวเชื่อมประโยค
7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ
complex
8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับ
กัน
1. เปลี่ยนคำาศัพท์ที่ใช้ มีสองวิธีย่อย
คือ
1.1 ใช้ คำาเหมือน (synonym) เช่น ใช้
luckily แทน fortunately
1.2 เปลี่ยนคำาเป็นวลี หรือเปลี่ยนวลีให้
เป็นคำา เช่น ใช้ important แทน of
importance
ข้อควรระวังในการใช้คำา
เหมือน
• เทคนิคนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่ให้จำาไว้ว่า บ่อยครั้ง
คำาๆ หนึ่งอาจมีความหมายได้หลายอย่าง ก่อนจะ
ใช้คำาเหมือน จึงต้องแน่ใจก่อนว่า คำานั้นๆ มีความ
หมายในแง่ไหน
• ขอให้ดูตัวอย่าง synonyms ของคำาว่า great จาก
synonym.com
• จะเห็นได้ว่า คำาว่า great มีความหมายในแง่ต่างๆ
ถึง 6 แง่ด้วยกัน
Sense 1:great large (vs. small), big (vs. little)
Sense 2:great, outstanding important (vs. unimportant), of import
Sense 3:great extraordinary (vs. ordinary)
Sense 4:bang-up, bully, corking, cracking, dandy, great,
groovy, keen, neat, nifty, not bad(predicate), peachy,
slap-up, swell, smashing
good (vs. bad)
Sense 5:capital, great, majuscule uppercase (vs. lowercase)
Sense 6:big(predicate), enceinte, expectant, gravid,
great(predicate), large(predicate), heavy(predicate), with
child(predicate)
pregnant (vs. nonpregnant)
ตัวอย่าง
• ดังนั้น เมื่อจะ paraphrase ประโยคที่ว่า
• A great number of Thai people have
been to Laos.
• ก็ควรจะใช้ A large number.... แทน A
great number โดยมีความหมายว่ามี
จำานวนมากเหมือนกัน
แต่ที่สำาคัญที่สุด
• ต้องเข้าใจความหมายของคำาศัพท์ให้ถูกต้อง
ก่อนอื่น
• ให้ค้นหาความหมายจาก dictionary เมื่อ
ไม่รู้
• หรือแม้กระทั่งเมื่อไม่แน่ใจ
• อย่าใช้วิธีเดา เพราะอาจทำาให้ความหมาย
คลาดเคลื่อน หรือร้ายสุด ก็คือ ความหมาย
ผิดพลาดไปโดยสิ้นเชิง
ตัวอย่างความผิดพลาด
• เคยมีการ paraphrase ประโยคนี้ที่ว่า
• He is now in a vegetative state. เป็น
Xxx He does not eat vegetables.
ทั้งสองประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่
เมื่อแปลกลับ จะเห็นความหมายที่ต่างกันดังนี้
เขาอยู่ในสภาพนอนเป็นผัก (คือ He is in
coma.) กับ เขาไม่กินผัก
2. ใช้ word forms อื่นๆ หรือ parts of
speech ที่ต่างไป อย่างไรก็ตาม ควรจำาไว้
ว่าในการใช้วิธีนี้ เราจะต้องเปลี่ยนโครง
สร้างอื่นๆด้วยเพื่อให้ถูกต้องตามหลัก
ไวยากรณ์ คำาว่า frequently เป็น adverb
เมื่อต้องการใช้ คำาว่า frequent ก็ต้องใช้
สำานวน on frequent occasions เป็นต้น
จะใช้แทนเฉยๆ ไม่ได้
ตัวอย่าง
• He came here frequently.
• He came here on a frequent basis.
• He came here on frequent occasions.
3. เปลี่ยนรูปประโยคที่อยู่ใน active voice
ให้เป็น passive voice หรือสลับกัน
ตัวอย่าง The company set up a risk
management committee last week.
เปลี่ยนเป็น A risk management
committee was set up last week. มีการ
ตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเมื่อ
สัปดาห์ที่แล้ว
4. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยค
ปฏิเสธ หรือสลับกัน อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง
ให้ความหมายของต้นฉบับคงเดิมอยู่
ตัวอย่าง She did not come to class.
เปลี่ยนเป็น
She was absent from class. ได้
แต่จะเปลี่ยน He did not eat anything. ซึ่ง
เป็นประโยคปฏิเสธให้เป็นประโยคบอกเล่า
ว่า He ate everything. ไม่ได้ เพราะจะ
ผิดความหมายไปโดยสิ้นเชิง ที่ถูกต้องใน
กรณีนี้คือ ต้องเขียนว่า He ate nothing.
5. เปลี่ยนลำาดับคำา เช่น adverbs of
time, adverbs of place หรือ ส่วน
ขยายคำาหรือประโยค ไปไว้ข้างหน้า
แทนที่จะไว้ข้างหลังอย่างเดิม หรือสลับ
กัน เป็นต้น ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยน
โครงสร้างด้วยในเวลาเดียวกัน เช่น the
level of cholesterol in their blood
ถ้าต้องการย้ายส่วนขยาย in their
blood ไปไว้ข้างหน้า ก็ต้องเปลี่ยนเป็น
their blood cholesterol level
ตัวอย่าง
• When it rains, I feel homesick.
• I feel homesick when it rains.
• Customer satisfaction is important.
• The satisfaction of customers is
important. ความพอใจของลูกค้ามีความ
สำาคัญสูงสุด
6. เปลี่ยนตัวเชื่อมประโยค
เช่น ใช้คำาว่า providing that แทนคำาว่า if
หรือ ใช้คำาว่า although แทนคำาว่า despite
เป็นต้น
ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างด้วยใน
เวลาเดียวกัน เช่น ถ้าใช้ despite ต้องตาม
ด้วย noun phrase ถ้าใช้ although ต้อง
ตามด้วย clause จึงจะถูกต้อง
ตัวอย่าง
• He will get the job if he improves his skills.
• He will get the job providing that he improves his
skills.
• Although the economy is sluggish, there’s foreign
investment.
• Despite the sluggish economy, there’s foreign
investment. ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ก็ยังมีการลงทุน
ของต่างชาติ
7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ
complex
เช่น จากประโยค simple ว่า
My Singaporean friend is visiting
Bangkok this week.
เป็นประโยค complex ว่า My friend who is
from Singapore is visiting Bangkok
this week.
8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับ
กัน
เช่น hot weather เป็น The weather is
hot.
แต่แน่นอนที่ว่า ต้องดูด้วยว่า phrases และ
clauses ที่เปลี่ยนไปนั้นทำาหน้าที่อะไรใน
โครงสร้างประโยคแบบไหน และใช้ให้ถูก
ต้องตามหลักไวยากรณ์
ตัวอย่าง
• I don’t like hot weather.
• I don’t like it when the weather is hot.
• Because it is greatly popular, we’ll
increase the production.
• Because of its great popularity, we’ll
increase the production.
ทำาอย่างไรจึงจะ paraphrase
ได้ดี
• การที่จะ paraphrase ได้ถูกต้อง
และคล่องแคล่วนั้น ย่อมอาศัยการ
ฝึกฝน ตลอดจนพื้นฐานความรู้เรื่อง
คำาศัพท์ และไวยากรณ์อย่างดีเป็น
หลัก
• ดังนั้น ควรทำาสิ่งต่อไปนี้
• อ่านมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนคำาศัพท์
สำานวน และทำาให้คุ้นเคยกับสำานวน
ภาษาต่างๆมากขึ้น
• ค้นคว้าหาความหมายของคำาศัพท์
และวิธีการใช้คำานั้นๆ จาก
dictionary
• ทบทวนหลักไวยากรณ์ต่างๆ และทำา
แบบฝึกหัด
• ถ้าสนใจเรื่อง paraphrasing ศึกษา
หรือดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ตาม
websites ต่างๆ

More Related Content

What's hot

หลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางหลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางsawitreesantawee
 
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาวสารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาวwaraporny
 
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]Nongkran Jarurnphong
 
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้เทวัญ ภูพานทอง
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓Mameaw Mameaw
 
หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
หน่วยที่ 2  โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษาหน่วยที่ 2  โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษาขนิษฐา ทวีศรี
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์oraneehussem
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3Thanawut Rattanadon
 
แบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆแบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆNaphachol Aon
 
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คtumetr1
 
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์Jiraporn
 
การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01Apida Runvat
 
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาwattanaka
 
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียนดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียนwaranyuati
 
Is2 การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่ม1
Is2  การสื่อสารและการนำเสนอ  กลุ่ม1Is2  การสื่อสารและการนำเสนอ  กลุ่ม1
Is2 การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่ม1พัน พัน
 

What's hot (20)

หลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางหลักสูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลาง
 
14.พืช C4 and CAM
14.พืช C4 and CAM14.พืช C4 and CAM
14.พืช C4 and CAM
 
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาวสารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
 
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]
คำสมาส [โหมดความเข้ากันได้]
 
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
แบบบันทึกการศึกษาแหล่งเรียนรู้
 
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
ตัวชี้วัด ม.๑ ม.๒ ม.๓
 
หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
หน่วยที่ 2  โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษาหน่วยที่ 2  โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
 
Context clues
Context cluesContext clues
Context clues
 
ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2
 
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
บทที่ 11 เคมีอินทรีย์
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
 
แบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆแบบประเมินต่างๆ
แบบประเมินต่างๆ
 
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทคัดย่อเล่มโปรเจ็ค
 
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
 
การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01การเขียนบทสารคดี-01
การเขียนบทสารคดี-01
 
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
 
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียนดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
 
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
 
ใบความรู้เรื่อง past simple
ใบความรู้เรื่อง past simple ใบความรู้เรื่อง past simple
ใบความรู้เรื่อง past simple
 
Is2 การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่ม1
Is2  การสื่อสารและการนำเสนอ  กลุ่ม1Is2  การสื่อสารและการนำเสนอ  กลุ่ม1
Is2 การสื่อสารและการนำเสนอ กลุ่ม1
 

Similar to เทคนิคการทำ Paraphrase

การสอบเปรียญชั้นสูง
การสอบเปรียญชั้นสูงการสอบเปรียญชั้นสูง
การสอบเปรียญชั้นสูงSatheinna Khetmanedaja
 
หน่วยที่๑
หน่วยที่๑หน่วยที่๑
หน่วยที่๑panjit
 
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารหน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารpanjit
 
หลักการพูด
หลักการพูดหลักการพูด
หลักการพูดKruBowbaro
 

Similar to เทคนิคการทำ Paraphrase (6)

การสอบเปรียญชั้นสูง
การสอบเปรียญชั้นสูงการสอบเปรียญชั้นสูง
การสอบเปรียญชั้นสูง
 
หน่วยที่๑
หน่วยที่๑หน่วยที่๑
หน่วยที่๑
 
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารหน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
 
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
 
หลักการพูด
หลักการพูดหลักการพูด
หลักการพูด
 
Unit3.1variables
Unit3.1variablesUnit3.1variables
Unit3.1variables
 

More from Aj Muu

การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษ
การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษการเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษ
การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษAj Muu
 
ศัพท์ To relieve
ศัพท์ To relieveศัพท์ To relieve
ศัพท์ To relieveAj Muu
 
Can could may - might
Can    could may - might Can    could may - might
Can could may - might Aj Muu
 
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ Aj Muu
 
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!Aj Muu
 
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an email
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an emailToeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an email
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an emailAj Muu
 
Toeic reading เรื่อง cereal
Toeic reading เรื่อง cerealToeic reading เรื่อง cereal
Toeic reading เรื่อง cerealAj Muu
 
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeans
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeansToeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeans
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeansAj Muu
 
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความ
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความToeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความ
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความAj Muu
 
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย Aj Muu
 
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressions
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressionsศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressions
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressionsAj Muu
 
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค  Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค Aj Muu
 
French wine consumption essay
French wine consumption essayFrench wine consumption essay
French wine consumption essayAj Muu
 
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...Aj Muu
 
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ing
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ingเมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ing
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ingAj Muu
 
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond Aj Muu
 
Much vs many; no vs none; some vs any
Much vs many; no vs none; some vs anyMuch vs many; no vs none; some vs any
Much vs many; no vs none; some vs anyAj Muu
 
Still vs yet always already no longer
Still vs yet always already no longerStill vs yet always already no longer
Still vs yet always already no longerAj Muu
 
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมาย
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมายSo vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมาย
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมายAj Muu
 
Rise vs raise vs arise
Rise vs raise vs ariseRise vs raise vs arise
Rise vs raise vs ariseAj Muu
 

More from Aj Muu (20)

การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษ
การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษการเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษ
การเขียนวันที่ (date) ในภาษาอังกฤษ
 
ศัพท์ To relieve
ศัพท์ To relieveศัพท์ To relieve
ศัพท์ To relieve
 
Can could may - might
Can    could may - might Can    could may - might
Can could may - might
 
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ
Would rather vs had better อยากจะ vs น่าจะ
 
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!
เรื่องของ Freeze อย่าขยับ! กับ Duck หลบ!
 
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an email
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an emailToeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an email
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน an email
 
Toeic reading เรื่อง cereal
Toeic reading เรื่อง cerealToeic reading เรื่อง cereal
Toeic reading เรื่อง cereal
 
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeans
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeansToeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeans
Toeic reading แบบสามตอน เรื่อง jeans
 
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความ
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความToeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความ
Toeic reading สไลด์ช่วยอ่าน fern lake ommunity เติมคำและเติมความ
 
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย
Toeic reading แบบสามตอน ตัวอย่างโจทย์ เรื่อง bistro คำแปล เฉลย คำอฺธิบาย
 
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressions
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressionsศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressions
ศัพท์นิด สำนวนหน่อย (100 items) words & expressions
 
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค  Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค
Pay what you can ฝึกอ่าน ประโยค
 
French wine consumption essay
French wine consumption essayFrench wine consumption essay
French wine consumption essay
 
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...
Time management เคล็ดลับการบริหารเวลา ฝึกอ่าน ประโยค ความเข้าใจ ความหมาย five...
 
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ing
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ingเมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ing
เมื่อ Verb ตามด้วย verb - infinitive หรือ v-ing
 
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond
Prepositions (1) บุพบท at on in from beyond
 
Much vs many; no vs none; some vs any
Much vs many; no vs none; some vs anyMuch vs many; no vs none; some vs any
Much vs many; no vs none; some vs any
 
Still vs yet always already no longer
Still vs yet always already no longerStill vs yet always already no longer
Still vs yet always already no longer
 
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมาย
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมายSo vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมาย
So vs such ความแตกต่าง การใช้ ตัวอย่างประโยค ความหมาย
 
Rise vs raise vs arise
Rise vs raise vs ariseRise vs raise vs arise
Rise vs raise vs arise
 

เทคนิคการทำ Paraphrase

  • 2. อันที่จริง ถ้าจะให้ดีที่สุด การทำา paraphrase นั้น ต้องเป็นการเขียนขึ้นใหม่ด้วยการใช้คำาศัพท์ สำานวน และสไตล์การเขียนของตนเอง เพื่อหลีก เลี่ยงการลอกเลียน (plagiarism) อย่างไรก็ตาม โดยที่เราศึกษาภาษาอังกฤษเป็น ภาษาต่างประเทศ การเขียนขึ้นใหม่เองทั้งหมด อาจจะทำาได้ยากอย่างยิ่ง เนื่องจากจะต้องมี ความรู้ภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี นอกจากจะ เข้าใจเนื้อหาที่อ่านทั้งหมดก่อนแล้ว จะต้อง เขียนได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วด้วย
  • 3. • คำาแนะนำาเรื่องเทคนิคการทำา paraphrase ต่อไปนี้ จึง เป็นเทคนิคทั่วๆ ไปที่น่าจะใช้ได้ในระดับประโยค สำาหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่ พยายามจะเลี่ยงการลอก • เทคนิคส่วนใหญ่อาศัยความรู้เรื่องศัพท์และไวยากรณ์ เป็นหลัก การรู้ว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ไม่สำาคัญเท่ากับ ความเข้าใจเรื่องศัพท์และไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้องเหล่า นั้น และการฝึกฝนจนสามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง คล่องแคล่ว • จึงขอให้อ่านเนื้อหาต่อไปนี้เป็นแนวทาง และพยายาม ทำาตามคำาแนะนำาที่ให้ไว้ข้างท้ายว่าทำาอย่างไรจึงจะ paraphrase ได้ดี
  • 4. เทคนิคการทำา paraphrase 8 ประการ 1. เปลี่ยนคำาศัพท์ที่ใช้ 2. ใช้ word forms อื่นๆ หรือ parts of speech ที่ต่างไป 3. เปลี่ยนรูปประโยคที่อยู่ใน active voice ให้ เป็น passive voice หรือสลับกัน 4. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยค ปฏิเสธ หรือสลับกัน
  • 5. 5. เปลี่ยนลำาดับคำา เช่น adverbs of time, adverbs of place หรือ ส่วนขยายคำาหรือ ประโยค 6. เปลี่ยนตัวเชื่อมประโยค 7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ complex 8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับ กัน
  • 6. 1. เปลี่ยนคำาศัพท์ที่ใช้ มีสองวิธีย่อย คือ 1.1 ใช้ คำาเหมือน (synonym) เช่น ใช้ luckily แทน fortunately 1.2 เปลี่ยนคำาเป็นวลี หรือเปลี่ยนวลีให้ เป็นคำา เช่น ใช้ important แทน of importance
  • 7. ข้อควรระวังในการใช้คำา เหมือน • เทคนิคนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่ให้จำาไว้ว่า บ่อยครั้ง คำาๆ หนึ่งอาจมีความหมายได้หลายอย่าง ก่อนจะ ใช้คำาเหมือน จึงต้องแน่ใจก่อนว่า คำานั้นๆ มีความ หมายในแง่ไหน • ขอให้ดูตัวอย่าง synonyms ของคำาว่า great จาก synonym.com • จะเห็นได้ว่า คำาว่า great มีความหมายในแง่ต่างๆ ถึง 6 แง่ด้วยกัน
  • 8. Sense 1:great large (vs. small), big (vs. little) Sense 2:great, outstanding important (vs. unimportant), of import Sense 3:great extraordinary (vs. ordinary) Sense 4:bang-up, bully, corking, cracking, dandy, great, groovy, keen, neat, nifty, not bad(predicate), peachy, slap-up, swell, smashing good (vs. bad) Sense 5:capital, great, majuscule uppercase (vs. lowercase) Sense 6:big(predicate), enceinte, expectant, gravid, great(predicate), large(predicate), heavy(predicate), with child(predicate) pregnant (vs. nonpregnant)
  • 9. ตัวอย่าง • ดังนั้น เมื่อจะ paraphrase ประโยคที่ว่า • A great number of Thai people have been to Laos. • ก็ควรจะใช้ A large number.... แทน A great number โดยมีความหมายว่ามี จำานวนมากเหมือนกัน
  • 10. แต่ที่สำาคัญที่สุด • ต้องเข้าใจความหมายของคำาศัพท์ให้ถูกต้อง ก่อนอื่น • ให้ค้นหาความหมายจาก dictionary เมื่อ ไม่รู้ • หรือแม้กระทั่งเมื่อไม่แน่ใจ • อย่าใช้วิธีเดา เพราะอาจทำาให้ความหมาย คลาดเคลื่อน หรือร้ายสุด ก็คือ ความหมาย ผิดพลาดไปโดยสิ้นเชิง
  • 11. ตัวอย่างความผิดพลาด • เคยมีการ paraphrase ประโยคนี้ที่ว่า • He is now in a vegetative state. เป็น Xxx He does not eat vegetables. ทั้งสองประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่ เมื่อแปลกลับ จะเห็นความหมายที่ต่างกันดังนี้ เขาอยู่ในสภาพนอนเป็นผัก (คือ He is in coma.) กับ เขาไม่กินผัก
  • 12. 2. ใช้ word forms อื่นๆ หรือ parts of speech ที่ต่างไป อย่างไรก็ตาม ควรจำาไว้ ว่าในการใช้วิธีนี้ เราจะต้องเปลี่ยนโครง สร้างอื่นๆด้วยเพื่อให้ถูกต้องตามหลัก ไวยากรณ์ คำาว่า frequently เป็น adverb เมื่อต้องการใช้ คำาว่า frequent ก็ต้องใช้ สำานวน on frequent occasions เป็นต้น จะใช้แทนเฉยๆ ไม่ได้
  • 13. ตัวอย่าง • He came here frequently. • He came here on a frequent basis. • He came here on frequent occasions.
  • 14. 3. เปลี่ยนรูปประโยคที่อยู่ใน active voice ให้เป็น passive voice หรือสลับกัน ตัวอย่าง The company set up a risk management committee last week. เปลี่ยนเป็น A risk management committee was set up last week. มีการ ตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว
  • 15. 4. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยค ปฏิเสธ หรือสลับกัน อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง ให้ความหมายของต้นฉบับคงเดิมอยู่ ตัวอย่าง She did not come to class. เปลี่ยนเป็น She was absent from class. ได้ แต่จะเปลี่ยน He did not eat anything. ซึ่ง เป็นประโยคปฏิเสธให้เป็นประโยคบอกเล่า ว่า He ate everything. ไม่ได้ เพราะจะ ผิดความหมายไปโดยสิ้นเชิง ที่ถูกต้องใน กรณีนี้คือ ต้องเขียนว่า He ate nothing.
  • 16. 5. เปลี่ยนลำาดับคำา เช่น adverbs of time, adverbs of place หรือ ส่วน ขยายคำาหรือประโยค ไปไว้ข้างหน้า แทนที่จะไว้ข้างหลังอย่างเดิม หรือสลับ กัน เป็นต้น ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยน โครงสร้างด้วยในเวลาเดียวกัน เช่น the level of cholesterol in their blood ถ้าต้องการย้ายส่วนขยาย in their blood ไปไว้ข้างหน้า ก็ต้องเปลี่ยนเป็น their blood cholesterol level
  • 17. ตัวอย่าง • When it rains, I feel homesick. • I feel homesick when it rains. • Customer satisfaction is important. • The satisfaction of customers is important. ความพอใจของลูกค้ามีความ สำาคัญสูงสุด
  • 18. 6. เปลี่ยนตัวเชื่อมประโยค เช่น ใช้คำาว่า providing that แทนคำาว่า if หรือ ใช้คำาว่า although แทนคำาว่า despite เป็นต้น ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างด้วยใน เวลาเดียวกัน เช่น ถ้าใช้ despite ต้องตาม ด้วย noun phrase ถ้าใช้ although ต้อง ตามด้วย clause จึงจะถูกต้อง
  • 19. ตัวอย่าง • He will get the job if he improves his skills. • He will get the job providing that he improves his skills. • Although the economy is sluggish, there’s foreign investment. • Despite the sluggish economy, there’s foreign investment. ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ก็ยังมีการลงทุน ของต่างชาติ
  • 20. 7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ complex เช่น จากประโยค simple ว่า My Singaporean friend is visiting Bangkok this week. เป็นประโยค complex ว่า My friend who is from Singapore is visiting Bangkok this week.
  • 21. 8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับ กัน เช่น hot weather เป็น The weather is hot. แต่แน่นอนที่ว่า ต้องดูด้วยว่า phrases และ clauses ที่เปลี่ยนไปนั้นทำาหน้าที่อะไรใน โครงสร้างประโยคแบบไหน และใช้ให้ถูก ต้องตามหลักไวยากรณ์
  • 22. ตัวอย่าง • I don’t like hot weather. • I don’t like it when the weather is hot. • Because it is greatly popular, we’ll increase the production. • Because of its great popularity, we’ll increase the production.
  • 23. ทำาอย่างไรจึงจะ paraphrase ได้ดี • การที่จะ paraphrase ได้ถูกต้อง และคล่องแคล่วนั้น ย่อมอาศัยการ ฝึกฝน ตลอดจนพื้นฐานความรู้เรื่อง คำาศัพท์ และไวยากรณ์อย่างดีเป็น หลัก • ดังนั้น ควรทำาสิ่งต่อไปนี้
  • 24. • อ่านมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนคำาศัพท์ สำานวน และทำาให้คุ้นเคยกับสำานวน ภาษาต่างๆมากขึ้น • ค้นคว้าหาความหมายของคำาศัพท์ และวิธีการใช้คำานั้นๆ จาก dictionary • ทบทวนหลักไวยากรณ์ต่างๆ และทำา แบบฝึกหัด • ถ้าสนใจเรื่อง paraphrasing ศึกษา หรือดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ตาม websites ต่างๆ