Mais conteúdo relacionado
Semelhante a กายภาพบำบัดกับโรคปวดหลัง (12)
Mais de Utai Sukviwatsirikul (20)
กายภาพบำบัดกับโรคปวดหลัง
- 1. กายภาพบําบัดกับโรคปวดหลัง
มนุษย์ร้อยละ 80 มักเคยมีประสบการณ์ปวดหลังหรือปวดเอว อาการปวดมักแตกต่างกันไปเช่นบางคนอาจปวด
เฉพาะบริเวณเอวหรือหลัง หรือกระเบนเหน็บ บางคนอาจปวดหลังร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง อาจมีอาการ
ชาหรือไม่มีก็ได้ บางครั้งอาการรุนแรงมากจนเดินไม่ได้
สาเหตุ
1. การใช้ท่าทางต่าง ๆ ในชีวิตประจําวันไม่ถูกต้อง เช่นยกของหนักผิดท่า นั่งทํางานนาน ๆ ทํางานในลักษณะก้ม ๆ
เงย ๆ ติดต่อกันนาน ๆ ฯลฯ
2. ความเสื่อมของกระดูกและข้อ
3. ขาดการออกกําลังกายที่เหมาะสม
4. ความผิดปกติของกระดูกสันหลังแต่กําเนิด เช่นกระดูกสันหลังคด โก่ง หรือ แอ่น
5. มีการอักเสบหรือติดเชื้อ เช่นวัณโรคของกระดูกสันหลัง
6. การได้รับอุบัติเหตุ เช่นตกจากที่สูง หรืออุบัติเหตุที่มีการกระทบกระเทือนบริเวณกระดูกสันหลังรุนแรง
7. การมีเนื้องอกของประสาทไขสันหลัง หรือมะเร็งที่แพร่กระจายมายังกระดูกสันหลัง
8. อาการปวดร้าวมายังหลังจากโรคของอวัยวะในระบบอื่น ๆ เช่น นิ่วในไต เนื้องอกในอุ้งเชิงกราน
9. ปัญหาที่ทําให้เกิดความตึงเครียด และความวิตกกังวลในชีวิต
การรักษา
1. ในระยะเฉียบพลัน(ภายใน 1-2 วันแรก) ให้ใช้ความเย็นประคบบริเวณที่มีอาการปวด ประมาณ 10-15 นาที วัน
ละ 3-4 ครั้ง หลังจากนั้น 3 วัน จึงเริ่มใช้ความร้อนประคบ ครั้งละ 20 นาที วันละ 1-2 ครั้ง
2. ห้ามบีบนวดหรือดัดเอว เพราะจะทําให้อาการรุนแรงมากขึ้น
3. เมื่ออาการปวดทุเลาให้เริ่มบริหารยืดกล้ามเนื้อ อย่างนุ่มนวลและสม่ําเสมอ
4. ถ้ามีอาการปวดรุนแรงมากขึ้นให้ปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบําบัด
- 2. การป้องกันและลดอาการปวดหลัง
1. ปฏิบัติกิจวัตรประจําวันด้วยท่าทางที่ถูกต้อง
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน ๆ ควรเปลี่ยนท่าทุก ๆ 30 นาที เช่น ขณะนั่งทํางานควรลุก หรือ
ขยับตัวบ้าง หรือขณะยืนทํางานควรนั่งพักบ้าง
3. หลีกเลี่ยงการยกของหนักเกินกําลังหรือการก้มโค้งยกของ
4. ควบคุมน้ําหนักตัวไม่ให้อ้วน
5. ออกกําลังกายสม่ําเสมอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ํา รํามวยจีน แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัยและไม่ควรหนักเกินไป ควร
ออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอ แม้ไม่มีอาการปวดหลัง เพื่อให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีความแข็งแรง มีความ
ยืดหยุ่นและทนทาน เป็นการป้องกันอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี
6. ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบําบัดเพื่อรับการรักษาหรือคําแนะนําที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มมีอาการ หรือสังเกต
เห็นถึงความผิดปกติ
7. ท่าทางที่ถูกต้องในการทํากิจวัตรประจําวัน
ท่ายืน
แขม่วท้องอกผายไหล่ผึ่งเอวแอ่นน้อยที่สุด ถ้าต้องยืนเป็นเวลานาน ๆ ควรมีที่พักเท้า การยืนห่อไหล่พุงยื่น จะทํา
ให้เอวแอ่นมากขึ้นและปวดหลังได้
- 4. ท่ายกของ
ควรย่อเข่าลง ยกของให้ชิดกับลําตัว แล้วลุกด้วยกําลังขา การก้มหยิบของในท่าเข่าเหยียดตรงจะทําให้ปวดหลังได้
ท่าถือของ
ควรถือให้ชิดลําตัวมากที่สุด ถ้าถือห่างจากลําตัวจะทําให้หลังทํางานหนัก ถ้าเป็นของหนักควรหาผู้ช่วยถือ
ท่านอน
ที่นอนควรจะแน่น ยุบตัวน้อยที่สุด ไม่ควรใช้ฟูกฟองน้ํา ที่นิ่มมากเมื่อนอนที่นอนจะยุบตัวลง หลังจะงอและปวดหลังได้
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ําซึ่งจะทําให้กระดูกสันหลังแอ่นมาก ในขณะนอนหงายควรใช้หมอนข้างหนุนใต้โคนขา จะช่วยให้
กระดูกสันหลังไม่แอ่น
ท่านอนตะแคงเป็นท่าที่ดีที่สุด ควรให้ขาที่อยู่ด้านล่างเหยียดตรง ขาด้านบนขอเข่า งอสะโพก ก่ายหมอนข้าง
- 5. บริหารร่างกายเพื่อป้องกันและลดอาการปวดหลัง
ท่าที่ 1 ท่ายืดกล้ามเนื้อหลัง
นอนหงายชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง เอามือกอดเข่าเข้ามาให้ชิดอก ยกศีรษะเล็กน้อย ให้คางชิดเข่า ทําค้างไว้นับ 1-10 แล้ว
คลายออก พักสักครู่แล้วเริ่มทําใหม่ ทํา 10 ครั้งต่อรอบ ทําวันละ 3-4 รอบ
ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนื้อสะโพก
นอนหงายเอามือกอดเข่าข้างหนึ่งเข้ามาให้ชิดอก พร้อมกับขาอีกข้างหนึ่งเหยียดตรง เกร็งแนบกับพื้น ทําค้างไว้นับ 1-
10 แล้วคลายทํา 10 ครั้ง แล้วจึงสลับบริหารขาอีกข้างหนึ่งในลักษณะเดียวกัน ทําวันละ 3-4 รอบ
ท่าที่ 3 ท่ายืดกล้ามเนื้อสีข้าง
นอนหงายชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นหันเข้าด้านในของลําตัวพร้อมกับใช้มือกอดเข่าที่ตั้งให้ติดพื้น โดยที่ไหล่ด้านตรงข้ามติดพื้น
ตลอดเวลา ทําค้างไว้นับ 1-10 แล้วคลายออกพักสักครู่ แล้วเริ่มบริหารใหม่ ทํา 10 ครั้ง แล้วจึงสลับบริหารขาอีกข้าง
หนึ่งในลักษณะเดียวกัน
- 6. ท่าที่ 4 ท่าเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องและสะโพกและลดความแอ่นของหลัง
นอนหงายตั้งเข่าทั้งสองข้างขึ้น วางเท้าราบกับพื้น หายใจเข้าและออกช้า ๆ พร้อมกับแขม่วหน้าท้อง กดหลังให้ติดแนบ
กับพื้น และเกร็งกล้ามเนื้อก้น(ขณะเกร็งกล้ามเนื้อก้น ก้นจะยกขึ้นเล็กน้อย) ทําค้างไว้นับ 1-5 หรือ 5 วินาที แล้วคลาย
ออกพักสักครู่แล้วเริ่มทําใหม่ ทํา 10 ครั้งต่อรอบ ทําวันละ 3-4 รอบ
ท่าที่ 5 ท่าเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง
นอนคว่ําขาเหยียดตรงมีหมอนเล็ก ๆ รองที่หน้าท้อง แล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นประมาณ 30 องศา ค้างไว้ นับ 1-5 แล้ววาง
ลง ทําสลับซ้ายขวาช้า ๆ ให้ได้ข้างละ 10 ครั้งต่อรอบ ทําวันละ 3-4 รอบ
ประโยชน์ของการบริหารร่างกาย
1. ทําให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่เกร็ง และแข็งแรงอยู่เสมอ
2. กระดูกและข้อเสื่อมช้าลง